ร่างสมส่วนแบบผู้ชายที่ค่อนไปทางผอมยืนนิ่งอยู่ใต้ฝักบัว นิมอาบน้ำขัดถูกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ติดตัวมาจากเฮเว่นอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ไม่ว่าจะถูจนตัวถลอกแดงแค่ไหน เขาก็ไม่อาจลบรอยสัมผัสของอีกฝ่าย ที่ฝังอยู่ในใจออกไปได้
เมื่อเราอยากลืม ใจมันก็เหมือนตอกย้ำให้จดจำ ยิ่งเมื่อเมือกสีขาวขุ่นไหลลงมาตามเรียวขา นิมก็ไม่อาจแสร้งทำเป็นเข้มแข็งทานทนต่อความรู้สึกอ่อนแอได้อีกต่อไป
“เหี้ย ๆ” กำปั้นทุบปึงที่ผนังแรงๆ จนผิวเนื้อบริเวณนั้นแตกถลอก เขาเจ็บใจ แต่นิมไม่มีอำนาจเงินหรืออะไรที่พอจะเอาคืนคนอย่างเฮเว่นได้ เขาก็แค่เด็กที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะ ชายหนุ่มปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบภายใต้สายน้ำจากฝักบัวอย่างยอมแพ้
กลิ่นเนื้อย่างเกลือหอมๆ พร้อมเสียงฉู่ฉ่าๆ เมื่อน้ำมันจากเนื้อละลายหยดลงไปยังถ่านไฟร้อนสีแดง
น้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดสูตรผสมข้าวคั่วฝีมือไอ้ชาย ชูรสกับแก้มได้ดีอย่างกับร้านลาบยโสมาเอง
“เอ้าชนๆ” ไอ้หนูที่เพิ่งหมดแก้วไปเมื่อครู่ว่าชวนปลุกระดมเพื่อนอีก ก่อนจะกระดกจนหมดแก้วและวนกลับมาเต็มเบียร์ พร้อมบอกให้ชนแก้วอีกครั้ง เมื่อเพื่อนไม่บ้าเล่นด้วย มันก็ชนกับอากาศแล้วยกซดจนหมดแก้วไปคนเดียวอย่างไม่ยี่หระ ทั้งเหล้ายาการพนัน ดูมันจะช่ำชองไปเสียทุกอย่าง คงจะเหลือความชั่วแค่ปล้นฆ่าเท่านั้นล่ะที่มันยังไม่เคย
“เออ กูว่าจะถามตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว ไปไงมาไงนั่งรถบอสมาได้” ไอ้ชายถาม นิมแทบสำลักเนื้อในปากตาย
“แค่กๆ ทางผ่านน่ะ” นิมว่าโกหก
“ทางผ่าน!?” พวกแม่งร้องขึ้นพร้อมกันด้วยความตกใจ
แน่นอนว่าเหตุผลมันฟังไม่ขึ้นเหี้ยๆ แถมเพิ่มความน่าสงสัยอีกเป็นพันเท่า ทางผ่าน? ใช่สิ คนอย่างไอ้เวรอัลฟ่านั่นหรือจะใจดีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กันเองกับเพื่อนร่วมโลกรับใครขึ้นรถมาด้วย เหอะ! ฝัน! เหตุผลโคตรบ้า
“เออ คุณเลขาภาคภูมิมาส่งน่ะ อุบัติเหตุนิดหน่อย” นิมแถต่อ
“อุบัติเหตุ!?” พวกแม่งก็ยังแหกปากกันเสียงดังกว่าเดิมอีก นิมเหงื่อแตกพลั่กแล้วคราวนี้ ห่าเอ๊ย ทำไมพวกมันปล่อยผมอยู่อย่างสงบไม่ได้วะ แม่ง
“ดูมีเ****นงำนะ” ไอ้หนูหลี่ตามองจับผิด เมื่อสัมผัสได้ว่าที่นิมพูดไม่น่าจะใช่เรื่องจริง พาลให้คนอื่นมองมาที่นิมแบบนั้นด้วย
“เออ ก็อุบัติเหตุไง ไอ้เหี้ยบอสมันขับรถชนกู ไอ้เงินที่มึงแดกเบียร์กันอยู่เนี่ยก็ค่าทำขวัญ พอใจมึงยัง” นิมใส่เป็นชุดเพราะโมโหที่ถูกซักไม่เลิก
“ออ ท่านเหี้ยบอส เอ้ย ท่านบอส เรียกให้มันดีๆ หน่อยสิวะไอ้ห่านิม” ไอ้หนูร้องเสียงหลง ไอ้ชายกับไอ้แมนก็สะดุ้งกลัวไปด้วย แม้นินทาในที่ลับตาพวกเขาก็เสียวคอจะขาดกัน
“กูจะเรียกอย่างนี้แหละ มันขับรถชนกู” นิมบอกโกรธเหมือนได้ระบายความอัดอั้นตันใจ
ใช่แล้ว มันชนผม ถอยออกไปแล้วชนกลับเข้ามาอีก ชนผมครั้งแล้วครั้งเล่า แถมขยี้หนักๆ ด้วย ไอ้บักบอปเฮเว่น
“อ่า พอๆ” ไอ้แมนรีบเปลี่ยนเรื่อง ปัดหัวข้อสนทนาล่อแหลมต่ออาชีพนี้ทิ้งไปซะ
เมื่อหายสงสัยพวกเพื่อนก็พากันสังสรรค์ต่อ
ณ งานเลี้ยงหรูหรา
มีเพียงนักธุรกิจแถวหน้าของโลกเท่านั้นที่ถูกเชื้อเชิญมา แน่นอนว่าเฮเว่นเป็นชื่อต้นๆ ที่อยู่ในรายชื่อแขก
ด้วยความที่เป็นบุคคลสำคัญที่ใครๆ ก็อยากเข้าหา เขาจึงถูกจัดให้อยู่ในโซนพิเศษร่วมกับคนอื่นๆ อีกไม่กี่สิบคน ที่มีความโดดเด่นสำคัญเทียมเท่ากัน เพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มที่ต่างชนชั้น
การจัดงานครั้งนี้ จุดประสงค์ก็เพื่อหาเครือข่ายขยายธุรกิจเป็นหลัก หลายคนอาศัยช่วงเวลานี้เพื่อทำความรู้จักกับกลุ่มการค้าใหม่ๆ การสนทนากันแต่เรื่องธุรกิจดูจะเป็นหัวข้อที่เพลิดเพลินของพวกเขาทีเดียว
“สวัสดีครับ ผมคือลู่หลง จากเถาเถากรุ๊ป เป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้พบคุณ” ชายรูปร่างสูงเพรียว ผิวขาวจัด รูปตาชั้นเดียวแต่ดูบาดคมโดดเด่น นัยน์ตาสีน้ำตาลอมแดง และมีผมสีทองสลวย เงางามดังแพรไหม กล่าวทักทายเฮเว่นด้วยความสุภาพ แน่นอนว่าเขาคือลักษณะของอัลฟ่า
“สวัสดีครับ” เฮเว่นหันไปกล่าวทักทายสั้นๆตามมารยาทกับชายในชุดกี่เพ้าสีฟ้าผู้มาใหม่และไม่ได้อยู่ในรายชื่อแขกโซนวีไอพี
“อา…คุณคือผู้สืบทอดคนใหม่ของเถาเถากรุ๊ปงั้นหรือ บริษัทขนส่งอันดับหนึ่งของจีนสินะ ผมรู้จักพ่อของคุณ” ชายอีกคนที่อยู่ในกลุ่มสนทนา กล่าวทักขึ้นด้วยความยินดี
“คุณโดดเด่นมาก แต่ทำไมท่านหลี่ฮุนแห่งเถาเถากรุ๊ปไม่เคยเปิดตัวทายาทสักครั้งเลยนะ” อีกเสียงกล่าวชื่นชมชายหนุ่มผมทองพร้อมถาม และเขาเพียงแค่ยิ้มตอบมาเท่านั้น ก่อนจะขอตัวจากไปยังอีกโซน
เฮเว่นมองตามอย่างไม่ไว้ใจ
“มีอะไรหรือครับท่าน” เลขาภูมิที่สังเกตเห็นกระซิบเสียงเบาถาม
“ไม่รู้สิ” บอสหนุ่มตอบ ก่อนจะหันความสนใจมาที่ดอกเตอร์คนหนึ่งในกลุ่ม ที่พยายามอธิบายทฤษฎีที่ดูจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ของการสร้างเครื่องแยกมวลสาร