ตอนที่9 หาฤกษ์แต่งงาน

1599 คำ
​แพขนตางอนกระพริบไล่ความหมองมัวออกจากรัศมีม่านตา แสงแดดอ่อนยามรุ่งอรุณแห่งฤดูหนาวคือเครื่องบรรเทาความเย็นชั้นเลิศ มิราหนักศีรษะเพราะปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่ามาตรฐาน มันแปลเปลี่ยนวิธีการขับออกจากร่างกายโดยการอาเจียน "คุณหนูขา พี่แก้วจะไม่บอกเรื่องนี้กับคุณท่านนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณหนูต้องโดนดุแน่ๆเลยค่ะ" พี่แก้วซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของมิรามาตั้งแต่ยังแบเบาะ พวกเธอสนิมสนมกันเสมือนพี่น้องกันเสียมากกว่า "บอกเรื่องอะไรคะ" มิรานอนพลิกตัวไปมาบนที่นอนนุ่ม แท้ที่จริงเธอลุกไม่ไหวต่างหาก "เรื่องที่เมาจนอาเจียนทั้งคืนนี่ไงคะ บอกไม่ได้เด็ดขาด คุณหนูไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ" มิราครุ่นคิด เธอเรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาของคริสโตเฟอร์ดันโผล่ขึ้นมาในสารระบบ เธอเบะปากจากการสั่งการของสมอง ในขณะที่หัวใจกลับตั้งคำถาม "เขาอยู่ไหน" น้ำเสียงกึ่งพึมพำทำให้พี่แก้วฟังไม่ค่อยชัด "ว่าอะไรนะคะ" "เปล่าค่ะ เอ่อ หิวค่ะ" เธอโกหก "พอลุกไหวมั้ยคะ คุณท่านรออยู่ เห็นบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณหนูค่ะ" มิราตกใจเล็กน้อย คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เรื่องสำคัญที่ว่าหากเป็นเรื่องที่เธอเมาหัวราน้ำเมื่อคืนเธอก็ยอมโดนด่า แต่หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องของคริสโตเฟอร์ก็พอ "ไหวค่ะไหว ขอเวลาสักครึ่งชั่วโมงนะคะ" เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกยืนขึ้น "งั้นพี่แก้วขอตัวไปเตรียมดอกไม้ให้นะคะ คุณหนูจะได้จัดแจกัน" พี่แก้วจัดแจงผ้าเช็ดตัวและชุดลำลองสำหรับสวมใส่อยู่ที่บ้านให้เธอเรียบร้อยแล้ว "ขอบคุณพี่แก้วนะคะ มิราหมายถึงเรื่องเมื่อคืนน่ะค่ะ" พี่แก้วส่งยิ้มให้เธอด้วยสายตาเอ็นดู และเดินออกจากห้องนอนไป สิบนาฬิกา มิราเดินออกมาหาบิดาที่ชานเรือนซึ่งเป็นที่ที่บิดาชอบมานั่งจิบน้ำชาเป็นประจำ และวันนี้เป็นวันเสาร์ที่ทุกคนน่าจะอยู่บ้านแต่กลับไม่เจอใครเลย "พี่แก้วคะพี่แก้ว" มิราส่งเสียงเรียกหาพี่เลี้ยงคนโปรดเมื่อไม่เห็นใคร เธอไม่ได้สงสัยอะไรมากเพราะคิดว่าพ่อกับแม่คงออกไปธุระข้างนอก "เอ๊ะ สงสัยคุณพ่อรอนานเลยออกไปข้างนอกซะก่อน" เธอพึมพำกับตัวเอง "มีอะไรคะคุณหนู" พี่แก้ววิ่งเข้ามาหามิราด้วยความเป็นห่วง "ไม่มีอะไรค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ออกไปข้างนอกเหรอคะ" เธอยังคงสงสัย "อ๋อ ใช่ค่ะ คุณท่านกับคุณขวัญดาวบอกว่ามีธุระสำคัญกับพระที่วัดค่ะ" "ธุระสำคัญ" มิราขมวดคิ้วสงสัยแต่ก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจนักเพราะคิดว่าพ่อกับแม่คงไปทำบุญเท่านั้น "อ้อ แล้วก็...พี่แก้วเห็นคุณคริสโตเฟอร์มาที่นี่มั้ยคะ" เธอชั่งใจอยู่นานพอควรก่อนจะตัดสินถามออกไป "ไม่เห็นนี่คะคุณหนู ว่าแต่มีธุระกับคุณคริสเหรอคะ" พี่แก้วยิ้วหวานให้แม้จะมีแววตาสงสัยเรื่องที่เธอถามหาเขา "อ๋อ ไม่มีอะไรค่ะ ไปหาพี่น่านก่อนนะคะ" เธอหลบสายตาอ่อนไหวและน้อยใจเขาอยู่ลึกๆ "คนบ้า คนเลว ชาตินี้ขออย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย สาาาาธุ" เธอพูดคนเดียวระหว่างทาง มิราตั้งใจเดินไปหาน่านนทีที่ไร่ อากาศเย็นยะเยือกพัดโชยมาพร้อมกับกรุ่นกลิ่นหอมละมุนของสเลเตเตะจมูกโด่งเชิดรั้นเอาแต่ใจเข้าเต็มๆ เธอยืนสูดความหอมบริสุทธิ์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินตรงไปยังสวนดอกไม้ของน่านนทีที่เธอขันอาสาเป็นผู้ดูแลให้ตั้งแต่เริ่งลงแปลงจนมันเติบโต รวมไปถึงการตัดแต่งขยายพันธุ์และการกำจัดวัชพืช มิรามีความรู้เรื่องการเกษตรมากกว่าการบริหารโรงแรมเสียอีก เธอยิ้มแย้มและเอ่ยทักทายคนงานในไร่อย่างไม่ถือตน ทุกคนที่นี่จะไม่ค่อยได้เห็นบทเหวี่ยงและวีนของเธอสักเท่าไหร่ คริสโตเฟอร์สวมหมวกปีกกางสานจากไม้ไผ่และสวมใส่เสื้อม่อฮ่อมพื้นเมืองเดินเข้ามาหาเธอ ในมือถือดอกกุหลาบสีขาวที่เพิ่งตัดออกมาจากต้นหมาดๆ "ตื่นแล้วหรือครับ คุณหนูมิรา" ใบหน้าและแววตาที่สดใสของคริสโตเฟอร์ทำให้เธออดหมั่นไส้เขาไม่ได้ พลันเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาในหัวราวกับดอกเห็ด มือหนายื่นดอกไม้ให้เธอ ทุกๆสายตาของบรรดาคนงานกำลังจับจ้องมาที่เธอด้วยความเอ็นดู พวกเขาต่างชื่นชมว่าคริสโตเฟอร์เหมาะสมกับเธอราวกิ่งทองใบหยก "ทำไมยังอยู่อีก เมื่อไหร่จะกลับบ้านเมืองคุณไปสักที" มิราไม่ยอมรับดอกไม้และยังหันหลังให้เขา เธอเดินกลับมาที่บ้านของตนเองโดยที่คริสโตเฟอร์เดินตามหลังมา "จะกลับได้ยังไงครับ เมียอยู่ที่นี่ทั้งคน" คริสโตเฟอร์เร่งฝีเท้าให้ทันเดินเทียบเคียงเธอ เขามองดวงหน้าคมสวยและอมยิ้มให้กับความบูดบึ้งเอาแต่ใจของเธอ "ถ้ากล้าเรียกฉันว่าเมียอีกคำ ฉันจะต่อยปากนาย และก็สิ่งที่นายทำกับฉันเมื่อคืนมันไม่ได้หมายความว่านายจะทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันได้ คนอย่างนายมันก็แค่ผู้ชายห่วยๆ ไม่มีหัวนอนปลายเท้า เที่ยวนอนกับผู้หญิงไปเรื่อยๆคนไหนก็ได้ ทุเรศที่สุด" เธอมองเขาด้วยสายตาหมิ่นเหม่ ดวงตาคมกริบไร้แววเดียงสาบริสุทธิ์ หากคริสโตเฟอร์ไม่ได้สัมผัสเรือนร่างและพรากพรหมจรรย์ของเธอมาเมื่อคืน คงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงกร้านโลกคนหนึ่ง ภายนอกมิราอาจไม่แยแสกับการที่ต้องเสียตพรหมจรรย์ให้เขา แต่ในใจกลับปวดร้าวระบมเสียยิ่งกว่าการถูกทำร้ายใดๆ "ผมไม่รู้ว่าจะขอโทษคุณยังไงกับเรื่องเมื่อคืน เอาเป็นว่าผมจะรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น ผมรู้ว่าคนไทยถือเรื่องพวกนี้" เธอเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเขาไปแล้วในเวลานี้ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเขาจะพยายามไม่โกรธ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทนความปากร้ายของเธอได้สักเท่าไหร่กัน "ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่ถือ ดีเสียอีกจากนี้ไปฉันจะนอนกับผู้ชายคนไหนก็ได้ ไม่ต้องหวงความบริสุทธิ์อีกต่อไป" เธอประชด "พูดบ้าอะไรของคุณ คุณไม่หวงแต่ผมหวง อย่ามาพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าผมอีก" เขาจริงจังและเขาก็หวเธอมากจริงๆ มือหนาบีบข้อมือเรียวเล็กอย่างลืมตัว ผิวขาวซีดของมิรากลายเป็นสีแดงอย่างเห็นได้ชัด "ปล่อยนะ" เธอแกะมือเขาออกทว่ายากเย็น "ไม่ปล่อย" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ มิราเอนตัวหลบเพราะเกรงจะหลงไหลในเสน่ห์ของเขาไปมากกว่านี้ ภาพบนเตียงของเธอและเขาผุดขึ้นมาในความคิดอีกหน ความรู้สึกหวามไหวแผ่ซ่านไปทั้งตัวคล้ายสารอะดรีนาลีนกำลังหลั่งไหล คริสโตเฟอร์ถือโอกาสหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ มือหนาคว้าเอวคอดดึงเข้ามาใกล้เสียจนแนบชิดกับเป้ากางเกงที่ดูตุงกว่าปกติ น้องชายของเขาเกิดซุกซนจนไม่สามารถควบคุมไว้ได้เพียงเพราะกลิ่นแชมพูอ่อนๆของเธอ "ปล่อยนะ เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า" มิราดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแข็งแรงทั้งที่หัวใจเรียกร้องกลิ่นกายของเขา "ใครเห็นก็ช่างสิไม่เห็นต้องแคร์ ไหนๆอีกหน่อยเราก็จะต้องแต่งงานกันแล้ว" คำว่าแต่งงานทำให้มิราหยุดปฏิกิริยาดิ้นรน เธอมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง "หมายความว่ายังไง" มิราถามเสียงดุดัน "ก็หมายความว่าพ่อกับแม่ของคุณกำลังไปหาฤกษ์แต่งงานของเราไงครับ" คริสโตเฟอร์ฉวยโอกาสที่เธอกำลังอึ้งโขมยจูบเธอมาอย่างง่ายดาย เขาบดขยี้หนักหน่วงขึ้นเมื่อเธอออกแรงขัดขืน โพรงปากนุ่มยังคงกลิ่นหวานไม่ลดน้อยลงจากเมื่อวานเลย "งื้ออออ" มือขาวซีดทุบอกกว้างด้วยแรงอันน้อยนิด ใบหน้าขาวซีดปราศจากการแต่งแต้มใดๆแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย สีผิวขาวซีดของเธอไม่สามารถปกปิดอาการเหล่านี้ได้เลย มิหนำซ้ำยังแสดงออกอย่างชัดเจน "นี่ ฟังนะ ผมบอกเรื่องของเรากับพ่อคุณแล้วนะครับ ผมอยากรับผิดชอบกับสิ่งที่ผมทำกับคุณเมื่อวาน" คริสโตเฟอร์กุมมือเธอไว้ ดวงตาสีฟ้าจ้องลึงเข้าไปในดวงตาคมคู่สวยของเธอ ยิ่งมองยิ่งหลงไหล เวลานี้เขาควรนอนกอดเธออยู่บนเตียง ไม่ใช่มายืนทะเลาะกันเป็นเด็กๆแบบนี้ "ฉันไม่แต่ง โดยเฉพาะกับผู้ชายเลวๆแบบคุณ ฉันเกลียดคุณ" เธอตะคอกคำว่าเกลียดใส่หน้าเขา ยังไม่สิ้นคำดีริมฝีปากหยักได้รูปก็สุดจะทนที่จะบดจูบริมฝีปากแสนร้ายกาจนั่นเสีย เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของเขา "หยุดนะ!!!" เสียงดุดันและทรงพลังดังขึ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม