หล่อนใช้เวลาตลอดทั้งวันในการพักผ่อนฟื้นตัว ย่ำค่ำนางได้ลุกอาบน้ำในอ่างไม้โปรยด้วยกลีบกุหลาบหลากสี ส่งกลิ่นหอมอบอวน สาวใช้สองคนให้ความสะดวกช่วยขัดสีฉวีวรรณอย่างดี อดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่าที่นี่คือปราสาทต้องห้ามที่กล่าวขานกันว่าเสมือนขุมนรกโลกันต์จริงๆ น่ะหรือ
แต่ทำไมมันช่างแตกต่างจากคำร่ำลือได้ห่างไกลถึงเพียงนี้ ถ้าไม่เคยรู้เรื่องราวข่าวร้ายๆ มาก่อนหล่อนอดจะคิดไม่ได้ว่ามันคือสวรรค์ดาวดึงส์ชัดๆ
นอกจากตัวปราสาทที่เป็นสีดำ ประดับด้วยเครื่องตกแต่งด้วยสีดำเป็นส่วนใหญ่แล้ว นอกเหนือจากนั้นล้วนแล้วแต่เป็นความสวยงามวิจิตรตา รายละเอียดละเมียดละไมประหนึ่งเป็นพระราชวังสูงศักดิ์
"ท่านหญิง...ดื่มยาเสียท่านจะได้หลับสบาย พอฟื้นขึ้นมาท่านก็แข็งแรงขึ้นทันตาเห็นทีเดียว" อลิสกล่าวพร้อมรอยยิ้ม หล่อนไม่มีตรงไหนเลยที่บ่งบอกว่าเป็นแม่มดหมอผี จริตมารยาก็เฉกเช่นหญิงชาวบ้านทั่วๆ ไปแตกต่างตรงที่แลดูจะถูกอบรมมาเป็นอย่างดีเท่านั้น
"ขอบคุณท่านทั้งสองมากที่เป็นธุระดูแลข้า ทั้งที่..."
"อย่าคิดมากเลยค่ะท่านหญิง เพียงแค่นายท่านเอ่ยปากให้ท่านอยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว" สองนางยิ้มละไม พร้อมส่งถ้วยยาให้กับโรเซีย หล่อนยกดื่มครั้งเดียวเสร็จสิ้นและส่งคืนให้ หญิงรับใช้จึงลาออกไปจากห้อง หล่อนเพิ่งรู้ว่าคนต้องนอนเพียงลำพังในคราแรกนึกว่าจะมีคนมานอนเป็นเพื่อนด้วยเสียอีก
อาจเป็นเพราะอาการเจ็บไข้ดีขึ้นแล้วกระมัง...หญิงสาวทอดกายนอนดึงผ้าห่มผืนหนามาคลุมให้คลายความหนาวเหน็บ แม้ในห้องจะมีปล่องไฟคอยให้ไออุ่นแต่ด้วยด้านนอกหิมะยังตกหนัก อากาศเย็นยะเยือกจึงยังคงคลาคล่ำไม่เจือจาง
อาจด้วยฤทธิ์แห่งความอ่อนเพลีย...ด้วยต้องระหกระเหินหนีตายมาหลายวันพอได้ที่พักพิงอิงแอบให้อุ่นใจ นางจึงไม่อาจฝืนต่อนิทราอันเย้ายวนและเผลอไผลหลับไปในที่สุด
บางอย่างหนักอึ้ง...หล่อนสัมผัสได้ หายใจไม่ออกเหมือนกำลังจมลึกอยู่ใต้มหาสมุทรอันดำมืด ร่างเล็กพยายามดิ้นถีบดันควานหาช่วงชิงเอาลมหายใจกลับคืน แต่หล่อนไม่อาจทำสำเร็จ หล่อนกำลังฝันร้าย...
เด็กสาวพลิกดิ้นอย่างต้องการอิสรภาพ ความอึดอัดทำให้หล่อนที่ยังสิงสถิตอยู่ในนิทราต้องลืมตาตื่นในช่วงเวลาที่ทรมานนั้นคืบคลานเข้ามาเพียงไม่นาน ดวงตากลมสีเขียวอมเทาลืมตื่นเบิกโพลง หอบหายใจถี่ระรัว และยิ่งต้องตกใจเมื่อรับรู้ว่าแรงกดทับที่ทำให้รู้สึกเหมือนถูกถ่วงหน่วงเหนี่ยวนั้นแท้จริงเกิดจากใครบางคนทอดร่างอยู่บนตัวหล่อน
"กรี๊ด!!!" โรเซียร์ร้องลั่นด้วยความตื่นตระหนก หล่อนดิ้นสุดกำลังเมื่อสติหลุดพ้นจากนิทราตั้งแต่เสี้ยววินาทีแรก แต่ร่างใหญ่ทะมึนกลับจับของแขนขึงไว้กับที่นอน จนหล่อนทำได้เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยเท่านั้น
"ช่วย...ช่วยข้าด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที!!"
"ไร้ประโยชน์ท่านหญิง...ใครมันจะคิดสั้นเช่นนั้น"
เสียงที่ได้ยินเท่าเอาร่างระหงชาวาบ...หล่อนจำได้ถนัดใจแม้จะเพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกเมื่อตอนกลางวันนี้...
"ลูซิเฟอร์...ท่าน"
พรึ่บ!! "ใช่แล้วข้าเอง หึ หึ" ลูฟผละห่างในท่านั่งคร่อมหล่อนเอาไว้ ปล่อยมือเล็กจากพันธนาการ มือข้างหนึ่งของเขากางออกและบังเกิดดวงไฟลุกโชนอยู่ตรงกลางฝ่ามือ ส่องสว่างมากพอให้มองเห็นทุกๆ อย่าง โรเซียร์ยิ่งผวาเมื่อสัมผัสได้ถึงอำนาจเหนือมวลมนุษย์ของเขา
"ท่าน...ท่านต้องการอะไรลูซิเฟอร์" หล่อนถามออกไปทั้งที่สัญชาตญาณบอกตนเองเป็นนัยๆ ไปแล้ว ร่างเล็กถอยร่นชิดหัวเตียงเมื่อได้รับอิสรภาพ สายตามองดวงไฟที่ลุกโชนจากมนต์ดำของเขา ลูฟแสยะยิ้ม...
"เจ้าช่างเป็นของขวัญชิ้นเลิศที่ท่านแม่ประทานมาให้ข้าโรส...บัดนี้ข้ารู้แล้วว่าเพราะเหตุไดเจ้าจึงฝ่าด่านเวทย์มนต์เข้ามาได้"
"ท่านพูดอะไร! ข้าไม่เข้าใจ"
"เจ้าเป็นคนสำคัญท่านหญิงน้อย แม้แต่องค์พระบิดาข้ายังต้องการ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขารู้ว่าเจ้า...เป็นของข้า ผู้หญิงที่เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ตัว ทำ...แม้กระทั่วฆ่าแกงประชาชนตาดำๆ" ลูฟเผยแผนการอันดำมืดที่หลบเร้นอยู่ในใจ
"ท่าน!...ข้าหลงคิดว่าท่านจะเป็นคนดีที่แท้ก็ไม่ได้ต่างจากคำร่ำลือแม้แต่น้อย"
"ข้าไม่ใช่คนโรสที่รัก...ข้าเป็นพ่อมด พ่อมดที่ใครๆ พากันเกลียดชังแม้แต่พ่อแท้ๆ เขาอยากกำจัดเลือดชั่วอย่างข้า ไม่ต้องการให้ข้ามีชีวิต" พรึ่บ! ดวงไฟลุกโชนนั้นดับพรึ่บ แต่เทียนไขทั่วทั้งห้องกลับจุดสว่างขึ้นมาแทน โรเซียร์กวาดสายตามองอย่างหวาดระแวง
หล่อนเห็นร่างใหญ่ถนัดตาขึ้น ผมดำยาวสยายของเขาแผ่คลุมเคลียไหล่มาถึงด้านหน้า ดวงตาสีน้ำเงินเข็มเมื่อตอนกลางวันบัดนี้กลายเป็นสีอำพัน ภายในตาดำที่เคยกลมกลับรียาวขวางเฉกเช่นดวงตาของแมว ใบหน้าของเขาดูเข้มมีมิติมากขึ้น
"..." โรเซียร์ปากคอสั่น หายใจหอบโหยรู้สึกถึงเหงื่อแห่งความกดดันผุดพรายทั่วตัวแม้อากาศจะยังหนาวเหน็บก็ตาม
"หากหญิงงามที่พระบิดาหมายใจอยากครอบครองต้องตกมาเป็นสมบัติของลูกแสนชังเช่นข้า...เจ้าคิดว่าเขาจะแค้นใจสักเพียงไดกัน" แววตานั้นมองดูน่ากลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อมันฉายแววความเคืองแค้น
"ข้าไม่รู้...พระราชาอาจไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เพราะพระองค์มีหญิงงามนับหมื่นนับพันรอบกาย"
"แต่ข้ารู้นิสัยเขาดี หากเจ้าไม่สำคัญจริงๆ เขาคงไม่ลงทุนถึงขนาดฆ่าล้างครอบครัวเจ้าเพื่อช่วงชิงหรอก และเจ้า...ก็งามดุจเทพธิดาจริงๆ ไม่แปลกที่คนมักมากเช่นเขาจะต้องการครอบครองความงามที่เป็นหนึ่งในแผ่นดินนี้"
"แค่นี้เหรอ...ที่ท่านต้องการ แค่ได้เหนือเขาโดยการให้ข้าเป็นของท่าน"
ตุบ! ร่างใหญ่ขยับเข้าคร่อมประชิดใบหน้าห่างกันเพียงคืบ โรเซียร์สั่นผวา
"ข้า...เหนือกว่าเขาทุกอย่าง" ใบหน้าคมเข้มโน้มเข้าหาริมฝีปากซีดเซียว เขาประกบจูบหนักหน่วงตั้งแต่คราแรกสัมผัสหล่อนดิ้นหนีอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงการคุกคามอย่างแท้จริง
แต่แล้วเขาก็ผละห่าง...
"อย่ากลัวโรเซียร์...ข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกดี ได้โปรดตอบแทนที่ช้าได้ให้ชีวิตใหม่แก่เจ้า"
"อือ!!..." โรเซียร์ไม่ได้มีโอกาสหนีห่าง เมื่อเขาเว้นช่วงเวลาเพียงชั่วเสี้ยววินาทีและประทับจุมพิตหล่อนอีกครั้ง ร่างใหญ่ประชิดแนบแน่นจนหล่อนแทบแหลกคาหัวเตียงแข็งกระด้าง ก่อนจะถูกลากให้เคลื่อนลงมานอนแผ่หลา ร่างใหญ่ทาบลงนัวเนียเริ่มสำรวจสรีระอันอรชร
สัมผัสหวามไหวล้ำลึกอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เพราะถูกกันให้ห่างจากบุรุษเพศมาตลอด ควาใกล้ชิดแบบกลืนหายใจของกันและกันเช่นนี้มันทำให้หล่อนชา...ร้อนวูบวาบอย่างประหลาด
"ชอบจูบของข้ารึโรส..." เขาถามในขณะที่ยังเล้าเลียอยู่กับริมฝีปากอวบอิ่ม เรียวลิ้นอุ่นๆ จากเขากระตุ้นความเร่าร้อนในตัวหล่อนได้เป็นอย่างดีแม้จะยังตื่นตระหนกอยู่มากก็ตาม
"ท่านไม่ควรทำกับข้าเช่นนี้ลูซีเฟอร์ ข้า...อืม..." จังหวะได้ต่อปากต่อคำไม่มีมากนัก ลูฟสอดลิ้นเข้าหาโพรงปากหวานดูเม้มดี่มด่ำกล่อมให้หล่อนเผลอรับจุมพิตเขาอย่างลืมตัว
โรเซียร์กางแขนขึงกับที่นอนทั้งๆ ที่หล่อนไม่ได้ปรารถนาจะทำ หัวใจสาวเต้นระรัวสำนึกรู้ถึงอำนาจที่มองไม่เห็นซึ่งกำลังบงการร่างกายของหล่อน
"อื้อ!" หล่อนยังเหลือความรู้สึกนึกคิดทุกอย่าง เพียงแต่ไม่อาจบังคับตัวเองได้ ร่างกายไม่ตอบสนองต่อความต้องการเอาเสียเลย ชุดนอนผ้าฝ้ายที่สวมอยู่เริ่มตึงอย่างไม่มีสาเหตุรัดเนื้อหนังของหล่อนเสียใจแน่น และในที่สุด...