9
“อืม...ก็อาจมีบ้างตามประสาแม่ผัวไม่ชอบหน้าลูกสะใภ้ โดยเฉพาะลูกสะใภ้ที่ไม่ต้องการ” เขาตอบตามตรง และคิดว่าเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอน “ว่าไงล่ะ เธอจะรับทำงานนี้ไหม”
“รับค่ะ” ภัทรียาคิดว่าไม่มีอะไรเสียหาย ถึงแม้จะต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านเขา และมีความเสี่ยงเมื่อต้องอยู่ร่วมห้องกับชายที่เพิ่งรู้จัก เธอเชื่อมั่นในตัวธัชธรรม์ และเชื่อว่าเธอปกป้องตัวเองได้ แต่จะว่าไปเธอก็ไม่มีทางเลือก พูดได้ว่าเป็นทางรอดทางเดียวที่จะไม่ถูกยึดค่ายมวย แต่ปัญหาที่ภัทรียาหนักใจคือ เรื่องค่าจ้าง “แล้วเรื่องค่าจ้างล่ะคะ คุณจะให้ปรางเท่าไหร่”
“เธอก็เรียกมาสิว่าจะเอาเท่าไหร่”
เขาเปิดโอกาสให้ภัทรียาเสนอเงินค่าจ้าง
หญิงสาวตอบแบบไม่หยุดคิด ราวกับมีจำนวนเงินในใจ “แปดแสน”
รุ่งราตรีตกใจเมื่อได้ยินจำนวนเงินที่ภัทรียาต้องการ เธอคิดว่ามันสูงมาก และธัชธรรม์อาจปฏิเสธเพื่อหาคนอื่น ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอต้องอดได้ค่านายหน้าจำนวนหนึ่งแสนบาทไปด้วย
รุ่งราตรีจึงนั่งลุ้นว่าธัชธรรม์จะตอบอย่างไร ภัทรียาก็ลุ้นด้วยเช่นกัน
ว่าที่นายจ้างมองหน้าภัทรียาซึ่งมองเขาตาปริบๆ เงินที่เธอเสนอมาไม่มากไปสำหรับเขาที่ร่ำรวยมหาศาล ธัชธรรม์คิดว่ามันน้อยนิดด้วยซ้ำ ประกอบกับเขารู้เรื่องหนี้สินของภัทรียาจากรุ่งราตรี แต่ไม่รู้จำนวนเงินที่แน่นอน รู้เพียงว่านับแสนบาท รวมทั้งรู้ภาระอันหนักอึ้งที่เธอต้องแบกรับต่อจากบิดาซึ่งเสียชีวิต ตอนนั้นเขารู้สึกทึ่งในความสามารถของภัทรียา พอเห็นหน้าและได้พูดคุย เขาก็อยากจะช่วยเธอ เพราะคิดว่าต่างคนต่างช่วยซึ่งกันและกัน
“ฉันให้เธอหนึ่งล้าน แต่เธอต้องมาเป็นเมียให้ฉันหกเดือน เพื่อให้คุณแม่ตายใจ เลิกล้มที่จะหาเมียให้ฉัน และฉันจะให้ค่าจ้างในแต่ละเดือนต่างหากอีกเดือนละหนึ่งแสน ขอเพียงเธอทำงานให้คุ้มกับเงินที่ฉันจ้างเธอ แค่นี้เธอทำได้ไหม”
สองสาวตาโตกับจำนวนเงินที่ธัชธรรม์เสนอมา ตอนแรกพวกเธอนึกว่าเขาจะปฏิเสธหรือให้เงินในจำนวนที่ต่ำกว่านี้ แต่กลับกลายว่ามากกว่าและได้รับเป็นรายเดือนอีกต่างหาก รุ่ง-ราตรียิ้มกว้าง รู้สึกยินดีที่ภัทรียาจะมีเงินไปใช้หนี้เสี่ยหมี แล้วเธอก็จะได้เงินหนึ่งแสนบาทเป็นค่าตอบแทน
“ทำได้ค่ะ ตกลงตามนี้ค่ะ” ภัทรียารีบตกลงอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวเขาเปลี่ยนใจ
“พรุ่งนี้ตอนเก้าโมงเช้าเจอกันที่เขตสายไหม เธอเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าไว้เลยนะ จดทะเบียนสมรสเสร็จ ฉันจะพาเธอไปหาคุณพ่อคุณแม่เลย” ธัชธรรม์นัด
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาค่ะ แต่ปรางขอเงินก่อนได้ไหมคะ คือปรางจะเอาไปใช้หนี้ ปรางอยากเคลียร์เรื่องหนี้สินก่อนค่ะ ปรางถึงจะทำหน้าที่เมียกำมะลอให้คุณได้อย่างเต็มที่”
“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เธอบอกเลขที่บัญชีมาได้เลย ฉันจะโอนเงินผ่านเน็ตให้ตอนนี้เลย เธอจะได้จัดการเรื่องหนี้สินให้เรียบร้อย”
ภัทรียารีบหยิบสมุดธนาคารที่พกติดตัวส่งให้ธัชธรรม์ เขาทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ตไม่กี่นาทีก็เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว
“ฉันโอนเงินเข้าบัญชีของเธอแล้ว เอาไปใช้หนี้ได้เลย” เขาพูดพร้อมกับส่งสมุดบัญชีคืนให้ภัทรียา “ส่วนเธอ ฉันจ่ายเป็นเช็คให้ก็แล้วกัน”
“ค่ะ คุณอ๋อง ขอบคุณมากค่ะ” รุ่งราตรีกล่าวแล้วยื่นมือไปรับเช็คเก็บเข้ากระเป๋าสะพาย
“ขอบคุณค่ะคุณอ๋อง ปรางขอตัวไปเคลียร์เรื่องหนี้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ รับรองว่าปรางไม่เบี้ยวแน่นอน” ภัทรียาพูดเสียงใส ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม รู้สึกดีใจที่มีเงินไปใช้หนี้เสี่ยหมี เพราะมันหมายความว่าเธอรักษาค่ายมวยของบิดาไว้ได้ในที่สุด
“อืม เจอกันพรุ่งนี้”
สองสาวยกมือไหว้ลาธัชธรรม์ ก่อนจะลุกและเดินออกไปจากห้องทำงานอันแสนโอ่อ่าของเขา
ธัชธรรม์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่หาภรรยาจำเป็นได้ในระยะเวลาไม่กี่วัน แต่เขาเพิ่งแก้ปัญหาได้เพียงหนึ่งเปลาะ เนื่องจากพรุ่งนี้มีอุปสรรคใหญ่หลวงรออยู่ เขานึกไม่ออกเลยว่าหากมารดารู้ว่าเขาจดทะเบียนสมรสกับภัทรียา อะไรจะเกิดขึ้น บ้านจะแตกหรือหัวเขาจะแตก งานนี้ลุ้นกันตัวโก่ง
ตกค่ำวันเดียวกัน
สุมณฑาเดินเข้ามาในบ้านเพื่อนรักหลังเลิกทำงาน แทนที่จะรีบกลับบ้าน เพราะวันนี้ภัทรียาตกลงรับงานว่าจ้างเป็นเมียจัดฉากของ ธัชธรรม์ ภาสวัชร์ ด้วยค่าจ้างที่สูงถึงหนึ่งล้านบาท แถมยังได้เงินเดือนอีกเดือนละหนึ่งแสนตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน สุมณฑาดีใจแทนเพื่อนที่ถปลดหนี้สินรุงรังมานานกว่าสี่ปีได้สำเร็จ แถมยังมีเงินเหลือสำหรับดูแลค่ายมวยอีกด้วย
“ฉันดีใจกับแกด้วยนะปรางที่ปลดหนี้ได้สักที” สุมณฑาพูดเป็นประโยคแรกเมื่อเข้ามาในห้องนอนของภัทรียาที่กำลังเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า
“ฉันก็ดีใจที่สุดเลย แม่กับองุ่นก็พลอยดีใจกันใหญ่”
ภัทรียาบอกพร้อมรอยยิ้ม
“ว่าแต่แม่แกว่าไงบ้างเรื่องที่แกต้องไปอยู่กับคุณอ๋องที่บ้านเขาน่ะ”
เรื่องที่รุ่งราตรีเสนองานนี้ให้ภัทรียา สุมณฑาเธอได้เล่าให้วลัยพรและอิสรียารับรู้ พอทั้งสองรู้ว่ามีช่องทางหาเงินมาใช้หนี้ก็ดีใจมาก ราวสรวงสวรรค์มอบปาฏิหาริย์ให้ครอบครัว ความหวังที่ไม่เคยมีฉายวับขึ้นทันใด อีกทั้งงานนี้ไม่มีอะไรเสียหาย เป็นแค่เมียในนามเท่านั้น แต่ที่กังวลคือเรื่องค่าจ้าง ทั้งสองไม่แน่ใจว่าธัชธรรม์จะให้เงินค่าจ้างตามที่ภัทรียาขอหรือไม่
“แม่ก็ไม่ว่าอะไร แม่รู้ว่าฉันเอาตัวรอดได้”
หลังจากภัทรียานำข่าวดีกลับมาบอกวลัยพร ว่าชำระหนี้สินครบถ้วนทั้งต้นและดอก รวมทั้งฉีกสัญญาเงินกู้ที่จ่าดาบทำไว้กับเสี่ยหมีด้วยมือตัวเอง ตอนนี้ครอบครัวเธอไม่มีหนี้สินอีกต่อไปแล้ว แถมยังมีเงินทุนอีกก้อนโตไว้ใช้จ่ายในบ้านและปรับปรุงค่ายมวย วลัยพรกับอิสรียาดีใจจนน้ำตาไหล สามคนแม่ลูกกอดกันกลม ก่อนที่ภัทรียาจะบอกมารดากับน้องสาว ว่าเธอต้องไปอยู่บ้านของสามีกำมะลอเพื่อความสมจริงรวมถึงจดทะเบียนสมรสด้วย
‘มันจำเป็นนะแม่ที่ปรางจะต้องไปอยู่บ้านเขา เป็นข้อตกลงที่ปรางเลี่ยงไม่ได้ อีกอย่างปรางก็รับเงินเขามาแล้ว ใช้หนี้เสี่ยหมี่เสร็จสรรพ คงจะแก้ไขอะไรไม่ได้’ ภัทรียาบอกมารดา
‘แม่รู้และเข้าใจ และรู้ด้วยว่าความจำเป็นมันบังคับให้ปรางตัดสินใจแบบนี้ แล้วแม่ก็เชื่อว่าปรางของแม่เก่ง ดูแลตัวเองได้’ วลัยพรพูดอย่างรู้นิสัยลูกสาวคนนี้
‘เชื่อมือปรางเถอะแม่ มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทองซะอย่าง สบายไปสิบแปดอย่าง’ ภัทรียาพูดให้มารดามั่นใจและคลายความวิตกกังวล