Chapter 1
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติสิขสิทธิ์ปี พ.ศ.2537
ไม่อนุญาตให้คัดลอก ทำซ้ำ ตัดแปลง ส่วนใดส่วนหนึ่งของนิยายต้นฉบับนี้
โดยไม่ใด้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งเป็นของ นามปากกา MaNIE-STORY
Writer : MaNIE-STORY
Ilust : Himefreeze
โรงพยาบาลมิวนิค
บรรยากาศของโรงพยาบาลสุดหรูแห่งนี้ที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่เริ่มแรกเดิมทีเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรม จนกลายมาเป็นโรงพยาบาลที่ครบวงจรในปัจจุบัน มีหมอหนุ่มมากฝีมือหลายต่อหลายรุ่น
และหนึ่งในนั้นคือ หมอมาร์เวล หมอหล่อพ่วงด้วยดีกรีหมอฝีมือดีอันดับต้นๆของโรงพยาบาล ไม่เพียงใบหน้าหล่อเหลา และฝีมือดี แต่ตัวตนจริงๆของหมอมาร์เวล ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย
"ออกเวรแล้วเหรอคะคุณหมอ" พยาบาลสาวสวยเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นหมอมาร์เวลเดินกลับเข้าห้องพักแพทย์
"ครับ"
"น้องมารีนมานั่งรอคุณหมออยู่ที่ห้องนะคะ"
"มารีนมานานแล้วเหรอครับ"
"มาเมื่อกี้ค่ะ"
มาร์เวลขมวดคิ้วไม่น้อย เมื่อจู่ๆน้องสาวคนเล็กของบ้านก็มาหาเขาโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวแม้แต่น้อย แม้ว่าทั้งคู่จะชอบเถียงกันเป็นประจำ แต่เขาก็รักมารีนมากกว่าใครๆเช่นเดียวกับมาเฟียพี่ชายคนโต
"มาหาเฮียมีอะไรละจ๊ะ เฮ้ย!! หนูไปโดนอะไรมามารีน!"
มาร์เวลที่เอ่ยทักอย่างอารมณ์ดีกลับต้องตกใจ เมื่อเห็นมารีนที่มีแผลเลือดอาบที่มือมา แต่ก็ต้องตกใจซ้ำ เมื่อหันไปเห็นบอดี้การ์ดคนสนิทของน้องสาวที่หน้าผากแตกเช่นกัน
"ไคเลอร์!! หน้าผากไปโดนอะไรมาอีก"
"เฮียทำแผลให้หน่อยซิ อย่าบอกเฮียมาเฟียนะ"
"เฮียไม่บอก เฮียมาเฟียก็รู้อยู่ดี แผลหนูชัดขนาดนี้"
"กว่าเฮียจะกลับจากต่างประเทศ แผลหนูหน้าจะใกล้หายแล้วมั้ง"มารีนเอ่ย
"ไปโดนอะไรกันมา ยับมาทั้งคู่"
"เอ่อ..."
"ไคเลอร์ พูด!" มาร์เวลใช้ความเป็นเจ้านายสั่งบอดี้การ์ดของน้องสาวให้พูด
"คุณหนูโมโหนิดหน่อยครับ ผมไม่ระวังเลยถูกฝ่ามือคุณหนูเข้า เลยกระแทกกับกำแพงหน้าผากเจ็บนิดหน่อยครับคุณมาร์เวล"
"กูว่าไม่นิดนะ แตกขนาดนั้น มารีนหนูกินยาที่เฮียสั่งให้ครบมั้ยครับ"
"ก็..ครบค่ะ"
"หนูไม่ได้โมโห แต่หนูตกใจอะไรใช่มั้ย?"
"หนู...."
มารีนที่แพนิคอย่างหนักยังไม่หายสนิท เธอมีภาวะระแวงร่วมด้วยโดยที่ไม่มีใครทราบสาเหตุ จู่ๆมารีนก็ตกใจที่ไคเลอร์เดินเข้าไปหาในขณะที่เธอกำลังดูบางอย่าง ทำให้เธอตกใจหนักจนหงุดหงิด เลยจะฟาดมือใส่กระจกโดยที่ไม่รู้ตัว ไคเลอร์เห็นเข้าเลยเอาตัวเองขวางเพราะกลัวมารีนเจ็บ แต่ที่ไหนได้ แรงของมารีนกลับผลักเขาจนกระแทกกระจกแตก บาดมือมารีนไปด้วย แต่หากไม่ขวางคงเจ็บกว่านี้
หมอมาร์เวลทำแผลให้มารีนและการ์ดของเธอจนเสร็จ ก่อนที่มารีนจะขอตัวกลัว เขามองน้องสาวก่อนจะค่อยๆถอนหายใจออกมาและเริ่มถอดเสื้อกราว เวลานี้เขาอยากกลับบ้านพักผ่อนเต็มที่ เพราะเจอแต่เคสหนักตลอดทั้งวัน จนกระทั่ง3ทุ่มเลิกงาน
"คุณหมอคะ รบกวนคุณหมอไปที่ห้องตรวจ 1 หน่อยได้มั้ยคะ มีเคสเข้ามา หมอเวรรับเคสอุบัติเหตุหมดเลยค่ะ"
"ผมรับเคสเดียวนะ ผมเหนื่อยวันนี้"
จากที่จะเปลี่ยนชุด หมอมาร์เวลกลับต้องสวมชุดกราวน์และใส่แว่นอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องพักแพทย์ไปที่ห้องฉุกเฉินตามที่พยาบาลแจ้ง เมื่อรับแฟ้มประวัติคนไข้ ปรากฏว่าเคสนี้เป็นเคสฉุกเฉิน เพราะเป็นหญิงสาวถูกทำร้าย มีเพื่อนข้างห้องพาเธอมาส่งโรงพยาบาล
"สวัสดีครับคุณซีรีน" หมอมาร์เวลเอ่ยทักเพื่อเช็คว่าเธอยังมีสติสัมปะชัญะครบถ้วน
"ค่ะ"
"หน้าผากคุณมีแผล กระแทกอะไรมาครับ"
"ไม่รู้ค่ะ"
"ถ้าแบบนั้นเดี๋ยวทำแผลแล้ว ผมขอสแกนดูหน่อยว่ามีอะไรช้ำมากมั้ย"
"รีบทำแผลเถอะคุณหมอ ฉันจะกลับบ้าน" หญิงสาวใบหน้าลูกครึ่งเอ่ยขึ้น
"คุณควรไปแจ้งความสักหน่อยนะครับ เห็นรายงานจากคนที่พาคุณมาส่งว่าคุณถูกทำร้าย"
"คุณหมอมีหน้าที่ทำแผล ทำแค่นั้นเถอะค่ะ"
"ได้ครับ"
หมอมาร์เวลที่ทำแผลด้วยตัวเองแทนที่จะเป็นพยาบาล เขามือเบาเพราะดูคนไข้ค่อนข้างห่วงผิวหนังของตัวเองมาก ระวังทุกการขยับตัวจนเขาคิดว่า น่าจะเหมาะกว่าหากเป็นเขาที่ทำแผลเอง
"เรียบร้อยครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
เมื่อทำแผลเสร็จ เธอรีบคว้าเสื้อคลุมขึ้นใส่ เพราะชุดที่เธอใส่มาตอนนี้น่าจะเป็นชุดนอน เพราะมันทั้งขาสั้น ทั้งบาง แต่เสื้อคลุมที่สวมก็สั้นไม่ต่างกัน คลุมได้แต่ท่อนบน ไม่ปิดท่อนล่างสักนิด
"คุณจะกลับทั้งชุดนี้เหรอ?"
"มาชุดนี้ ฉันก็ต้องกลับชุดนี้ซิคะ"
เธอเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเดินออกไปรับยาและจ่ายเงิน เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ไม่สนใจใบหน้าของเขาแม้แต่น้อย ทำเอาหมอมาร์เวลยืนกอดอกกระตุกยิ้มพรางมองตามคนไข้คนดังกล่าวจนเธอเดินออกไป
หญิงสาวที่ออกจากโรงพยาบาลมาก่อนจะขึ้นแท็กซี่เพื่อกลับไปที่ห้องพักซึ่งเธอใช้เวลานั่งรถไม่นานนัก
“แกก็ทนมันได้เนอะ ป้าบอกแล้วว่าให้เลิกกับมันซะ“
ป้าที่อยู่อยู่ข้างห้องของเธอซึ่งเธอเองก็นับถือป้าคนนี้เหมือนกับญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เพราะตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ป้าก็มักจะแวะเวียนมาทักทายและมีกับข้าวที่เป็นฝีมือตัวเองมาฝากเธออยู่เสมอ
” ซีรู้แล้วจ้ะป้า ซีขอไปพักผ่อนก่อนนะจ๊ะ“
หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องก่อนปิดประตูและยืนหลังชนประตูก่อนค่อยๆทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างอ่อนแรง สภาพภายในห้องข้าวของกระจัดกระจายและแน่นอนว่าสิ่งที่ป้าเตือนเธอก่อนจะเข้ามาในห้องเมื่อสักครู่ คือสิ่งที่ฝากรอยแผลบนร่างกายของเธอในตอนนี้จนต้องเข้าโรงพยาบาลฉุกเฉิน
” เฮ้อ“
มือเรียวค่อยๆหยิบถังขยะและเก็บเศษซากกระป๋องเบียร์ที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะหน้าทีวีและขยะจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นของแฟนหนุ่มของเธอที่นั่งดื่มกับเพื่อนเมื่อคืนในขณะที่เธอไปทำงาน เธอและแฟนหนุ่มไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมงหรือเป็นเรื่องเป็นราวในห้องเดียวกัน แต่จะเป็นการไปมาหาสู่อยู่บ่อยครั้ง และบางครั้งก็จบด้วยรอยแผลบนร่างกายของเธอเช่นกัน
เมื่อเก็บกวาดห้องจนเรียบร้อย เธอนอนลงอย่างหมดแรงเพราะทำงานมาตลอดทั้งคืนและตอนนี้ร่างกายยังบอบช้ำทำให้เธอรู้ว่าคืนนี้เธอคงต้องงดไปทำงานชั่วคราวหนึ่งถึงสองวันจนกว่าแผลที่เห็นชัดจะจางลงจนสามารถใช้เครื่องสำอางปกปิดได้
กระทั่งผ่านมาสองวัน หญิงสาวที่กำลังนั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกก็ค่อยๆใช้เครื่องสำอางปกปิดรอยแผลที่มันยังคงหลงเหลือรอยช้ำจนหมด ใบหน้าเรียวได้รูปและการแต่งหน้าที่ค่อนข้างมืออาชีพของเธอยิ่งส่งให้ใบหน้าคมคายลูกครึ่งยุโรปของเธอยิ่งดูเตะตามากยิ่งขึ้น บวกกับทรวดทรงองค์เอวรูปร่างที่สาวๆหลายคนใฝ่ฝันอยากจะมี ทำให้เธอถือว่าเป็นพนักงานเบอร์ท็อปของที่แห่งนี้
” พี่ซีรีน วันนี้แขกเยอะมากเลยค่ะพี่ หัวหน้าบอกว่าให้พี่ออกโชว์ไวหน่อยนะคะ“ พนักงานในร้านเดินเข้ามาตามหญิงสาวในห้องแต่งตัว
” พี่เสร็จพอดีเดี๋ยวพี่ตามออกไปนะ“
” ได้ค่ะพี่“
หญิงสาวยืนมองตัวเองในกระจก ที่นี่เป็นที่ทำงานของเธอมาหลายปี เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา เด็กกำพร้าแบบเธอต้องปากกัดตีนถีบดิ้นรนสู้ชีวิตเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในแต่ละวัน แต่ยังโชคดีที่พ่อแม่ที่จากไปได้ทิ้งรูปร่างหน้าตาสวยสุดของเธอไว้เพื่อเป็นจุดที่ทำให้เธอหาเลี้ยงตัวเองได้ในวันนี้
ภาพของหญิงสาวในชุดสีดำสนิทสะโพกผายกระโปรงสั้นระย้าพร้อมรองเท้าส้นสูงกว่า 4 นิ้วที่ทรวดทรงองค์เอวได้รูปหน้าอกกลมสวย อวบอิ่มกำลังเดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อเข้าไปยังจุดที่เธอทำงาน
ที่นี่เป็นบาร์อะโกโก้ที่ดังมากๆในย่านนี้ซึ่งแน่นอนว่าซีรีน คือเบอร์ท็อปของที่นี่ และเป็นคนทำเงินให้กับบาร์แห่งนี้ในแต่ละคืนมากมายเม็ดเงินสะพัดหลากหลายแสน ด้วยความเป็นมืออาชีพและทักษะการเต้น เทคนิคการยั่วยวนของเธอ มักจะดึงดูดหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้ามาใช้บริการที่นี่เป็นจำนวนมาก แต่ถึงแบบนั้นเธอก็ไม่เคยขายร่างกายของเธอให้กับผู้ชายเหล่านั้นแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเธอเองก็มีแฟนหนุ่มที่คบกันมาเกือบสองปีอย่าง เชน
บ้านปีกขวา
ในช่วงค่ำคืนนี้มาร์เวล ที่มีขึ้นเวรตอนดึกในวันนี้ก็กำลังอาบน้ำเตรียมตัวจะออกจากบ้าน ก่อนที่จะเดินออกไปเอารถก็สวนกับพี่ชายคนโตอย่างมาเฟีย
“ เข้าเวรหรอ”
“ ครับ แล้วนี่ทำไมเฮียเพิ่งกลับป่านนี้ น้องสาวเฮียพาเมียเฮียไปใจแตกข้างนอกแล้วมั้งครับ” มาร์เวลเอ่ย
“ อะไรของมึง”
“ ก็มารีนพาดานีนออกไปข้างนอกตั้งแต่บ่ายแล้วครับ”
“ บางทีมีเมียเป็นเพื่อนสนิทน้องสาวก็มีจุดบอดเหมือนกันว่ะ” มาเฟียเอ่ย
“ ผมก็ว่างั้นแหละเฮีย งั้นผมไปก่อนนะเดี๋ยวขึ้นเวรสาย”
“ อืม”
หมอมาร์เวลที่กำลังขับรถมาที่โรงพยาบาล ก่อนจะแวะซื้อกาแฟที่ร้านดังร้านหนึ่งแล้วไม่วายที่จะแอบหยอดพนักงานซึ่งเขาพบอยู่เป็นประจำในวันที่ต้องเข้างานดึก
“ คุณหมอนั่นเอง”
“ ทำไมครับ ผมไม่ได้มาซื้อกาแฟสองวันคิดถึงเหรอครับ”
“ คุณหมอปากหวานแบบนี้หนูตายเลยค่ะ”
“ ผมก็แซวเล่น อเมริกาโน่ไม่หวานแก้วนึงนะครับ”
ตามนิสัยขี้เล่นและปากแรงของหมอมาร์เวล ซึ่งปกตินิสัยขี้เล่นจะเป็นกับคนอื่น แต่ปากแรงปากจัดมักจะเป็นกับน้องสาวอย่างมารีน เพราะทั้งคู่ชอบ ปะทะฝีปากกันอยู่เป็นประจำ แต่มาร์เวลก็รักมารีนที่สุดเสมอ
อะโกโก้คลับ ซอย15
เสียงดนตรีระทึกคึกโครมที่กำลังปลุกเร้าอารมณ์ พร้อมกับท่าทางการเต้นสุดยั่วยวนของหญิงสาวตัวท็อปอย่างซีรีน ที่ตอนนี้เธอกำลังโชว์ฝีไม้ลายมืออยู่บนเวที หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่เข้ามาใช้บริการในวันนี้ ต่างก็พากันจดจองหมายปองอยากจะได้เธอมาเฉยชมด้วยกันทั้งสิ้น มือนะถือเงินสดปึกใหญ่มูลค่าหลายหมื่นบาท พร้อมที่จะมอบเงินให้กับหญิงสาวเพื่อได้โอกาสเข้าใกล้เธอ
ด้วยอาชีพที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เธอจึงได้แต่รับเงินแต่ก็ พยายามปกป้องร่างกายไม่ให้ชายเหล่านั้นได้แตะต้อง ถึงแม้งานของเธอจะดูเปลืองเนื้อเปลืองตัวไปมากสักหน่อย แต่เธอก็ไม่เคยให้ชายอื่นได้แตะต้องเพราะตอนนี้เธอมีแฟนหนุ่มเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว
“ พี่เก่งมากเลยนะคะพี่ซีรีน เต้นแต่ละทีได้ทิปเป็นแสน ทุกรอบเลยค่ะ”
“ ไม่ใช่ของพี่คนเดียวสักหน่อย”
สิ่งที่หญิงสาวพูดคือทิปหลักแสนที่เธอได้ 40% เธอต้องแบ่งเข้าที่คลับแห่งนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ และตัวเธอเองได้เพียง 60% เท่านั้น แถมทุกวันที่ทำงานก็อยู่ได้ด้วยทิป เพราะนักเต้นแบบเธอทุกคนไม่ได้เงินเดือนตายตัวเหมือนพนักงานคนอื่นๆ
“ จะไปไหนซีรีน?” เสียงหัวหน้าของเธอเอ่ยขึ้นเห็นหญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ วันนี้ซีทำงานได้เท่านี้ค่ะพี่ พอดีมีธุระค่ะ”
“ แขกเต็มร้านเลยนะวันนี้ ท่าเต้นต่อน่าจะได้อีกหล่ย นะ”
“ ซีก็อยากได้ค่ะพี่ แต่วันนี้ซีมีธุระจริงๆค่ะ”
หญิงสาวที่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเดินออกจากคลับ ใจจริงวันนี้เธอก็ยังอยากทำงานต่ออีกหน่อยเพราะลูกค้าค่อนข้างเยอะมากกว่าทุกวัน แต่เธอกำลังสิ่งสำคัญที่เธอจำเป็นจะต้องไปทำมากกว่างานในคืนนี้ เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเชนแฟนหนุ่มเธอ เธอตั้งใจจะกลับไปฉลองวันเกิดกับเขา และมีของขวัญที่ซื้อเตรียมไว้อยู่ในกระเป๋า
หญิงสาวเดินอมยิ้มเล็กน้อยกลับไปที่ห้องเช่าที่เธออยู่ เพราะวันนี้เธอนัดแฟนหนุ่มให้เข้ามาหา แม้ว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอกับเขาจะเพิ่งทะเลาะกันแต่มันคือเรื่องปกติ ทั้งคู่มีปากเสียงแบบนี้บ่อยบ่อยและยังทันจน 24 ชั่วโมงก็คืนดีกันเป็นแบบนี้ประจำ และเชนค่อนข้างติดเหล้าอย่างหนักเค้าเมาแล้วมักจะเผลอทำร้ายร่างกายของเธอจึงเกิดรอยช้ำอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอรู้ดีว่านั่นเป็นเพราะเขาเมา
แต่รอยยิ้มนั้นกลับหายไป เมื่อเธอเปิดประตูห้องเข้ามากลับพบว่า เชนพาเพื่อนอีกสองคนเข้ามานั่งกินเหล้าอยู่ในห้องของเธอ ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันเกิดของเขา เขาและเธอควรได้อยู่กับกันตามลำพัง
“ เชน”
“ แฟนกูมาแล้วเว้ย ทำไมวันนี้เลิกงานไวจัง”
“ ก็วันนี้วันเกิดเชนไง ซีเลยเลิกงานเร็ว”
“ ดีเลย ฉันกำลังดื่มอยู่พอดี เธอมาดื่มด้วยกันสิ”
สาวได้แต่ทำตามโดยที่เธอไม่กล้าจะหยิบของขวัญออกจากกระเป๋าให้เขาด้วยซ้ำไป วันเกิดที่เธอวาดฝันไว้มันพังทลายจนหมด เมื่อเชนดื่มเหล้าสังสรรค์อย่างเมามันส์ในห้องของเธอโดยที่ไม่ได้สนใจความรู้สึกแฟนสาวแบบเธอแม้แต่น้อย
“ เชน วันนี้วันเกิดเชน ซีขอเวลาอยู่กับเชนตามลำพังได้ไหม”
“ เธอจะไล่เพื่อนฉันรึไง”
“ ซีก็แค่...”
“ อย่าไร้สาระน่ะ วันเกิดมันก็แค่วันธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษขนาดนั้น ทำไมเธอต้องทำหน้าซีเรียสด้วย”
“ แต่ซีมีของขวัญนะ”
“ เดี๋ยวคืนนี้ตอนเรานอนกันค่อยแกะก็ได้”
สุดท้ายแฟนหนุ่มของเธอเอาแต่สนใจเพื่อนสองคนมาด้วยและยังคงดื่มเหล้ากันไม่หยุด หญิงสาวได้แต่เดินหลบเข้าห้องนอนไป ก่อนจะนั่งมองกล่องของขวัญที่เธอตั้งใจซื้อเป็นนาฬิกาแบบที่แฟนหนุ่มเธออยากได้ ไม่นานหลังจากอาบน้ำเสร็จเธอเดินออกไปปรากฏว่ากลุ่มแฟนหนุ่มของเธอกำลังดูบอลและดื่มเหล้าก่อนจะสูบบุหรี่ในห้องซึ่งที่นั่นเป็นห้องส่วนตัวของเธอ
“ ซีบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้สูบบุหรี่ในห้อง”
“ นิดหน่อยมันจะเป็นอะไรไป ฉันก็สู้แบบนี้มาตั้งนานแล้วเธอไม่ชินหรือไง”
“ แต่นี่มันห้องนอนซีนะเชน”
“ ทำอย่างกับไม่ชินแบบนั้นแหละ เวลาเธอไปเต้นแก้ผ้าที่คลับ ไอเสียแก่ๆพวกนั้นก็สูบบุหรี่ ทำไมไม่เห็นโวยวายเลยล่ะ”
“ ซีไม่ได้ไปเต้นแก้ผ้า แล้วก็ไม่เคยให้ใครแตะตัวด้วย ซีไปทำงานเพื่อหาเงินเท่านั้น”
“ ทำงานหาเงิน จริงๆเธอหาเงินได้เยอะกว่านี้นะถ้าไปนอนกับไอ้เสี่ยพวกนั้น”
ด้วยอาการมึนเมาทำให้แฟนหนุ่มของเธอหลุดพูดจาดูถูกออกมา ทำให้หญิงสาวทนไม่ไหวเธอจึงฟาดฝ่ามือลงบนใบหน้าของแฟนหนุ่มเต็มแรง แต่กลับถูกเขาสวนกลับจนล้มลงกับพื้น
“ ถ้าเธอกล้าทำแบบนี้อีกก็ลองดู!!!”
พูดจบเจนก็ออกจากห้องแล้วพาเพื่อนของเขาออกไปด้วยแต่ก่อนออกจากห้อง เขาโมโหจากถึงขั้นกวาดเท้าของจนหล่นจากโต๊ะเต็มพื้นพร้อมขวดเหล้าที่หล่นแตกทำให้มันกระเด็นบาดเป็นแผลเล็กๆเข้าที่ตามร่างกายของสาว
น้ำตาหยดแล้วหยดเหล้าไหลอาบแก้ม แรงตบที่ทำจนปากของเธอแตกเลือดออกไม่ได้ทำให้เจ็บเท่ากับรับรู้ว่าคนที่ตบคือผู้ชายที่เธอรัก แม้จะบอบช้ำแค่ไหนแต่หญิงสาวก็ยังพยายามพยุงตัวเองออกจากห้องเพื่อไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพราะร่างกายของเธอมีรอยแผลที่เกิดจากขวดที่แตกกระเด็นบาดจนเลือดออก
โรงพยาบาลมิวนิค