ตอนที่ 20
เพราะท่านเพิ่งเดินเหินได้สะดวกอันที่จริงเป็นโรคของคนแก่ทั่วไป ข้อเข่าเสื่อม กระดุกพรุนทำนองนี้ เลยต้องไปหาหมอ เพื่อตรวจรักษาอาการอย่างต่อเนื่อง
วันนี้คาดเดาอีกว่าคุณอภิวานต์คงจะกลับมาแต่หัววัน อย่างที่เขาให้สัญญาปากไว้ และช่อดมิสา ก็ตั้งหน้าตั้งตาคิดอย่างนั้นจริงๆ ก็ผู้ใหญ่ฝากคำกับเด็กไว้ หนุ่มใหญ่ผู้นี้ ทำให้หล่อนเก้อเขินมากทีเดียว
ตั้งแต่ครั้งนั้นท่าทีจู่โจมของฤทธิ์เสน่หาแต่ถึงอย่างไร เขาก็ยังยับยั้งจิตใจทันไม่ใช่เป็นคุณอา ที่ละโมบโลภมากเอาแต่ได้ เขายังพอฟังเหตุผลถึงแม้ไม่ได้เห็นใจเธอมาก นอกเหนือจากนั้นหน้าที่อีกอย่าง จะต้องระลึกและท่องมันไว้ในใจด้วยซ้ำว่า หล่อนเกิดมา เพื่อเป็นสมบัติของผู้ชายคนนี้ อย่างที่มารดาเห็นพร้อมด้วย ถึงขนาดยกหล่อนให้เขา
แม่ และอีกครั้ง ที่หล่อนคิดถึง อยากจะเห็นหน้า ถามไถ่อย่างใจคิด ใครจะไปรู้คาดคิดได้ว่า เรื่องราวบ้าบอ มักจะเกิดขึ้นกับชีวิตของหล่อนอย่างช่วยไม่ได้ ไม่น่าเชื่อ แต่ก็จำต้องเชื่อ เนื่องจากมันมีมูลเหตุของความจริง
แต่กลับกลายเป็นว่าในวันนี้ สองทุ่มตรง อภิวานต์ขับรถกลับเข้ามาบ้าน และที่เห็นลักษณะ ท่าทางแปลกจากตัวเขา นั่นคือกลิ่นแอลกอฮอล์ ที่คลุ้งคละรอบกาย กับท่าทีการเดิน ที่ไม่ตรง ส่ายเซ ดูเปะป่ายของเขา
ช่อดมิสาจึงคิดว่า เขาอาจจะไปร่ำสุรา มาจากที่ไหนสักแห่ง ปกติหล่อนไม่เห็นอภิวานต์กินเหล้า วันนี้นึกยังไงของเขา แต่เขาไม่ได้ตรงมาหาช่อดมิสา กลับเดินขึ้นบ้านเฉย
ทั้งๆที่ช่อดมิสายืนมองภาพ จากด้านสนามหญ้า แล้วจากนั้นช่อดมิสาก็ลงมาเดินเล่น หลังจากที่ไม่มีอะไรทำ และแสงไฟก็สาดสว่าง เพิ่งเสร็จจากการพาคุณย่า ที่กลับมาก่อนเขาสักครึ่งชั่วโมง เข้าไปอาบน้ำแต่งกาย แล้วให้ท่านทานยา เพื่อจะเข้านอน
แต่ท่านบอกกับช่อดมิสาว่า “อยากจะอ่านหนังสือธรรมะ จนกว่าจะหลับ ”
เพียงเท่านี้หล่อนก็ไม่ได้รบกวนแต่ก็มีเสียงโหวกเหวกโวยวายมาจากข้างบนบ้านด้วยคำพูดที่ไม่พอใจ อภิวานต์นี่เอง หรือว่าเขาจะตามหาหล่อน แต่ว่าไม่เจอ จึงโวยเสียงลั่นบ้าน เสียงก้องเข้มอย่างนั้น เอากับคนใช้คนอื่น แปลกพิลึกคนจริง หรือมองไม่เห็น ว่าหล่อนอยู่ข้างล่าง
ช่อดมิสาตัดสินใจเดินขึ้นไปข้างบน รับหน้ากับ กล่ำและพวง เด็กสาวใช้คนหนึ่งที่เพิ่งมาอยู่ใหม่ หล่อนมองเห็นภาพตรงหน้า ร่างคนตัวสูงใบหน้าแดงก่ำด้วยพิษสุรา กำลังทำหน้าตา หันรีหันขวางเขียวปั้ดใส่
“ไป๊ ออกไป ฉันอยากอยู่คนเดียว เอามาทำไมน้ำ ฉันไม่อยากกิน ไปเอาเหล้ามาสิ ฉันจะกิน ”
น้ำเสียงคนพูดบอกเจตนาดังเข้ม
ช่อดมิสายืนอยู่ตรงนั้นกำลังตัดสินใจ คนที่พูด ยังหายใจฮึดฮัดทำเอาสาวใช้คนใหม่ที่รับศึกไม่ทันเหมือนหล่อนหน้าตาเลิกลัก เหมือนหันไปขอความเห็นจากหล่อน
ช่อดมิสาเลยบอก “พวงกับกล่ำ กลับเข้าไปในห้องก่อนเถอะ คุณว่านกำลังอารมณ์ร้าย เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เด็กสาววัยเพิ่งจบชั้นประถม พยักหน้ารับ แล้วจึงเดินจากไป
“คุณอภิวานต์คะถ้าเมาแล้วก็ขอให้กลับเข้าไปนอนจะดีกว่าเพราะที่นี่ไม่มีเหล้าหรอกค่ะถ้าคุณอยากทานเหล้า ต้องออกไปทานข้างนอก”
เขายิ่งเสียงเข้มแบบไม่พอใจอย่างมาก
“เรื่องของฉัน อยากจะกินเหล้า ไปจัดการให้เดี๋ยวนี้ บนห้องของฉันมี”
เห็นทีจะพูดกับคนดื้อรั้นยากเสียแล้วนอกจากเอาแต่ใจตนเอง ยังตะเบ็งเสียงเข้มใส่หล่อนปกติเขาไม่เคยเหลวไหลถึงขนาดนี้
ไปพบเจออะไรร้ายแรงข้างนอกล่ะถึงกับมาอาละวาด และระบายอารมณ์ใส่กับคนในบ้าน ช่อดมิสาได้แต่ยืนมอง ส่ายหน้าไม่เข้าใจเขานี่ค่ำสนิทแล้ว
“นี่ คุณเป็นอะไรคะ คุณว่าน ถึงได้หน้าหงิกกลับมาอย่างนี้ อาบน้ำน่าจะดีกว่านะคะไม่รู้ว่าคุณทานข้าวมาแล้วหรือยัง ดิฉันจะไปเตรียมจัดมาให้”
“ฉันไม่หิวข้าวฉันหิวแต่เหล้า”
สีหน้าแดงก่ำเสียงเข้มดังเหมือนคนตะบึงตะบอน ที่จะเอาแต่ตัวเองให้ได้รู้ว่าเจอศึกหนักจะงัดเอาคำพูดไหนมาใช้ ถ้าให้ตอบสนองเขา ไม่หรอก หล่อน ไม่อยากให้เขากินเหล้า ในเวลาที่คุณย่าของเขาเพิ่งหายป่วยและไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจด้วย
คุณอภิวานต์ก่อมลพิษในบ้านมากแค่ไหน ไม่ใช่แค่เสียงยังอารมณ์ และคำพูดด้วย
พูดจาตะคอกไม่มีหางเสียงช่อดมิสาหน้าบึ้งไม่อยากเอาใจใส่
“ถ้าอย่างนั้นคุณจัดการเอาเองเถอะดิฉันจะไปนอนก่อน”
“นั่นเธอ จะไปไหน” น้ำเสียงนั้นเข้มเฉียบขาด
ช่อดมิสาหันกายกลับมาบอกเขา
“อ้าว ก็กลับไปนอนสิคะ”
“ใคร บอกให้เธอไปนอน อย่าเพิ่งนอนนะ มานั่งเป็นเพื่อนฉันก่อน”
“เอ๊ะคุณจะบ้าหรือยังไง พรุ่งนี้ ดิฉันต้องไปโรงเรียนแต่เช้า”
เขาจ้องมองหน้าหล่อน พร้อมออกคำสั่ง
“ต้องนั่งคุยกันก่อนฉันยังไม่ให้ไป ทำไม นั่งแค่นี้ ไม่ได้หรือไง หรือนึกว่าฉันจะพิศวาสเธอนัก แค่เมียปลายแถว ยศศักดิ์ก็ไม่มีสักอย่าง แถมต่ำด้วย ก็แม่เธอขายเธอให้ฉันนี่ มันจนตรอกขนาดไหนคิดดู ”
ทำไม เขาจะต้องพรั่งพรูคำพูด และว่าร้ายมารดา พร้อมครอบครัวหล่อนด้วยคำนี้มันเสียดแทงใจ
ทำให้รื้นน้ำตาข้างในได้มันซึมอยู่ที่หัวตากับน้ำเสียงที่เขาดูถูก ใช่สิหล่อนเป็นผู้หญิงที่ไม่มีค่าเลย ที่เขาได้มาด้วยการใช้เงินซื้อแล้วก็นำมาเลี้ยงอุปการะ
จำกัดสิทธิ์ความรู้สึกจะไม่ให้หล่อนแสดงออกมาให้เขาเห็นแน่ล่ะ มันไม่ได้มีเกียรตินี่ ช่อดมิสาคิดอย่างนั้น
วันหนึ่งถ้าเขาพบเจอผู้หญิงที่เหมาะสมวันนั้น
ช่อดมิสา ไม่รู้ว่าเธอจะยืนอยู่บนตำแหน่งใด
“ทำไมล่ะพูดแค่นี้ถึงกับร้องไห้เชียวหรือน้ำตาซึม ทำเป็นอ่อนแอ ฮึ มายาทั้งเพ ฉันรู้ว่า ผู้หญิงอย่างพวกเธอ มันต้องใช้น้ำตาเป็นเครื่องมือเข้าล่อผู้ชายให้สงสาร นึกว่า ฉันจะใจอ่อนหรือยังไง ”
ช่อดมิสาไม่ตอบโต้คำถามของเขาหล่อนสะอึก และจุกไปหมดในลำคอ
“มานี่ สิ ช่อดมิสา มานี่ ”
หนุ่มใหญ่ที่กำลังเมามายไม่ได้สติเท่าที่ควร กระชากร่างบางระหง เข้ามาในอ้อมกอดรัดหล่อนเอาไว้แน่นใช้ปลายจมูกซุกไซ้ดอมดมที่พวงแก้มการกระทำของเขารวดเร็วกะทันหัน