เมื่อการขู่สารพัดวิธีไม่ได้ผล บุรุษหนุ่มหล่อเหลาที่ทำให้เธอใจเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่ยอมปล่อยแขนจากเรือนร่างของเธอสักที หญิงสาวจึงจำเป็นต้องทำตัวเหมือนพวกที่บ้าอำนาจ ยกเจ้าชายทั้งสองที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย มาขู่ให้บุรุษหนุ่มผู้นี้ได้หวาดกลัว ‘เออแฮะ! เพิ่งรู้ว่าท่านพี่ทั้งสองมีน้องสาวด้วย’ เจ้าชายชารีฟร์งึมงำอยู่คนเดียว ริมฝีปากสีสดไม่แพ้อิสตรีแย้มยิ้มนิดๆ ตรงมุมปาก คิ้วเข้มหนาเลิกขึ้น นัยน์ตาคมกริบจ้องมองสาวน้อยในอ้อมแขนอย่างล้อเลียน ก่อนจะเอ่ยถามยิ้มๆ “อืม...เป็นขนิษฐาของเจ้าชายทั้งสองพระองค์หรอกหรือ” “ใช่! ปล่อยฉันได้แล้ว ถ้าหากเจ้าชายฮารีฟร์รู้ว่าคุณรังแกฉัน คุณจะต้องถูกเอาไปตัดคอแน่” นาราพรรณตีสีหน้าขึงขังขณะขู่เสียงเข้ม ภาวนาให้ชายคนนี้ได้กลัวอำนาจบารมีของประมุขแห่งอัลนูรีน และปล่อยเธอเร็วๆ ก่อนที่เธอจะทรุดไปกองกับพื้น เพราะเริ่มเวียนหัวจากกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เธอได้กลิ่นอยู่ตลอดเวลา