“อืม...ไม่มีปัญหา แต่หากวันใดผมขออาศัยอาหารจากบ้านของนายหญิงสักมื้อ หวังว่านายหญิงฮาริย่าจะเมตตาผมอีกสักครั้ง” อานีสต์เอ่ยอย่างยั่วยวน พอนึกถึงวันที่มีหญิงสาวนั่งร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำใต้แสงจันทร์ด้วยกัน ทำให้รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ “เราไม่รับปากเจ้าเรื่องอาหาร” ฮาริย่าตวาดปฏิเสธเสียงห้วนจัด จนนัยดาหญิงคนสนิทที่ยืนฟังอยู่นาน ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายหญิงของเธอ ฮาริย่าผู้เย็นชาไม่เคยแสดงอาการโกรธกริ้วใครง่ายๆ กลับกลายเป็นคนที่โมโหฉุนเฉียวเมื่อได้ต่อปากต่อคำ กับบุรุษหนุ่มหน้าบากผู้นี้แค่ไม่กี่นาที “ตกลงกันตามนี้ เจ้าลำเลียงสินค้าของเจ้าไปที่บ้านพักของเราด้วย” ฮาริย่าสั่งเสียงเข้มตัดบทการสนทนา ที่จะทำให้เธอเสียเปรียบบุรุษหนุ่มผู้นี้อีกหลายยก อานีสต์หัวเราะฮึๆ กับคำสั่งราวกับนางพญาของหญิงสาว และก่อนที่ร่างอวบอิ่มจะเดินจากไป เขาก็ได้เอ่ยถาม