นาราพรรณแย้มยิ้มออกมาได้กับคำปลอบประโลมของพระสวามี แต่ด้วยยังคงเขินอายกับถ้อยวาจาที่เธอไม่อาจรู้ว่าพระสวามีต้องการบอกรักกลายๆ หรือเปล่า หญิงสาวจึงแกล้งขึงตาใส่แล้วเอ่ยตอบอย่างงอนๆ “ใครบอกว่าน้ำค้างรักเจ้าชายกันเล่า” เจ้าชายชารีฟร์หัวเราร่วน ก่อนจะกดจุมพิตเร่าร้อนที่ปากอิ่มช่างจรรจา “อืม...หากเจ้าไม่รักเราก็ไม่เป็นไร เอาเป็นว่าเรารักเจ้าแค่ฝ่ายเดียวก็พอแล้ว” นาราพรรณเบิกตาโตด้วยความแปลกใจ ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำพูดบอกรักจากพระสวามี ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยออกมาเพราะรักจริงๆ หรือเพื่อต้องการเอาใจ หญิงสาวก็เป็นปลื้มหัวใจพองโตคับอก “อยากสัมผัสเราบ้างไหม อยากทำเหมือนที่เรากับเจ้าหรือเปล่ายอดรัก” เจ้าชายหนุ่มกระซิบเชิญชวนเสียงกระเส่า พลางถอดอาภรณ์ปกปิดเรือนร่างงดงาม ยิ่งกว่าประติมากรรมชิ้นเลิศออก คงเหลือไว้เพียงผ้าลูกไม้บางเบา ปลายนิ้วยาวขยับลูบไล้ตามขอบผ้าลูกไม้ ที่ประคับประคองดอกบัวปริ่มน้