ความเดิม- "ครับ ขอบคุณครับ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ แล้วเดินออกไป
......................................
ตัดมาที่มานิดาหลังจากเจ้าของบ้านออกไปแล้วเด็กสาวถึงกับพรูลมหายใจ และรูสึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง ด้านแม่บ้านได้แต่ยิ้มเอ็นดู
"คุณแกใจดี ใจดีทั้งพี่ทั้งน้องเลย บ้านนี้ใจดีทุกคน เมื่อก่อนคุณท่านอาจจะดุบ้าง แต่ตอนนี้ท่านไม่ดุแล้วค่ะ" นางเขียน แม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยยิ้ม ๆ
"คุณป้ากินข้าวกี่โมงคะ หนูกินด้วยนะ" มานิดาเอ่ยยิ้ม ๆ รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมามากทีเดียว
"ก็เกือบเก้าโมงน่ะค่ะ พอคุณ ๆ ทานกันเสร็จพวกเราก็ทานกัน คุณพยาบาลมานพก็มาทานกับพวกป้าบ่อย ๆ ค่ะ บางครั้งมื้อเที่ยงก็ตำส้มตำกินกัน แล้วแต่ว่าอยากกินอะไร มะละกอก็มีในสวนด้านหลังบ้านนู้น พริก มะเขือ มะนาว พืชผักสวนครัวที่ต้องใช้บ่อย ๆ ลุงแกปลูกไว้ ว่าง ๆ จะพาไปทัวร์ค่ะ จะได้ไปเก็บมากิน" นางเขียนเล่ายิ้ม ๆ มือก็หยิบนั่นจับนี่อย่างคล่องแคล่ว
"ผักได้หรือยังคะ"
"ได้แล้วค่ะป้า" มานิดาตอบอย่างกระตือรือร้น
"จ้ะ ดีจ้ะ โอ้ลืมเลยป้าลืมผักโรยหน้าข้าวต้ม ในตู้เย็นไม่มีซ๊ะด้วย ในสวนน่าจะมี เดี๋ยวป้าไปในสวนหน่อยนะคะ รฝากดูหม้อข้าวต้มหน่อยนะคะ ป้าไปแป๊บเดียว เดี๋ยวมา" นางเขียนบอกเสร็จก็รีบสับเท้าไปด้านหลังบ้านอย่างเร่งรีบอยู่ในที
อีกด้านของผู้มาใหม่
"สวัสดีคร้าบ มีใครอยู่บ้างมั๊ยคร้าบ.." ปกรณ์เอ่ยทักทายคนในบ้านคล้ายว่าไม่เห็นใครสักคน ความจริงก็ถูกคนข้าง ๆ บังคับให้พามาแหละ ก็เจ้าของบ้านส่งข้อมูลไปให้ไง
"อ้าว..นายกรมีธุระอะไรเหรอ มาแต่เช้าเลย/สวัสดีครับคุณหมอธันทร ทานอะไรมาหรือยัง ดื่มกาแฟมั๊ยครับเดี๋ยวผมบอกเด็ก ๆ ให้" เปรมมนัสเอ่ยทักทายเพื่อนรักและเพื่อนของเพื่อนรักเสียงดังพร้อมกับส่งสายตาให้เพื่อนรักเป็นเชิงบอก
"ได้ก็ดีซิ ตอนเช้าจิบไปนิดเดียวเอง คาเฟอีนยังไม่ถึง มีแซนด์วิชมั๊ย หรือขนมปังก็ได้" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ และส่งสายตาให้เพื่อนรัก
"มีซิิ ข้าวต้มก็มีนะ เอาข้าวต้มมั๊ย/คุณหมอธันละครับทานอะไรดี" เปรมมนัสเอ่ยถามในฐานะเจ้าบ้านที่ดีแต่แอบสังเกตเห็นอีกคนชะเง้อคอยาวคล้ายกำลังมองหาใครอยู่
"อย่าว่าอย่างงี้อย่างงั้นเลยนะ ขออนุญาตลุยครัวเองเลยแล้วกัน อยากทำเองน่ะ" ปกรณ์เอ่ยยิ้ม ๆ พร้อมกับกระพริบตาหนึ่งข้างให้เพื่อนรักเป็นการส่งสัญญาณ
"เอาซินายกร/คุณหมอธันก็เชฺิญตามสบายเลยนะครับ หาอะไรไม่เจอก็ถามคนในครัวนั่นแหละมีแม่บ้านอยู่ข้างในครับ" เปรมมนัสเอ่ยยิ้ม ๆ
"โอเคเลย ขอบคุณมากเพื่อนรัก" ปกรเอ่ยพร้อมกับตบบ่าเพื่อนรักไปหนึ่งทีแล้วเดินเข้าไปในครัวในท่าที่สบาย ๆ
อีกด้านของคนที่อยู่ในครัว
-..เอ..ทำไมป้าเขียนไปนานจัง..เหลืออะไรบ้างเนี่ย ยิ่งทำกับข้าวไม่ค่อยเป็นอยู่ เมนูสุขภาพก็ทำไม่เป็นอีก มีแต่พี่นพทำ เฮ๊อ….- มานิดาได้แต่พึมพำอยู่คนเดียว และคนหม้อข้าวต้มไปโดยไม่ทันสังเกตว่ามีใครเข้ามา
"ให้ผมช่วยมั๊ยครับ ทำอะไรอยู่เหรอ" ธันทรเอ่ยเบา ๆ แต่ทำคนฟังถึงกับสะดุ้งสุดตัว ทำเอาชายหนุ่มถึงกับยิ้มขำเบา ๆ แต่เก็บอาการเอาไว้
"โอ๊ะ นายธัน น้องเค้าตกใจนะไอ้นี่" ปกรณ์แกล้งพูดแก้เก้อให้เพื่อนรัก
"เออ..คุณหมอ จะเอาอะไรคะ ป้าแม่บ้านไม่อยู่นะคะ ไปเก็บผักมาใส่ข้าวต้ม เดี๋ยวมาค่ะ คือหนูไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน ป้าแกให้เฝ้าหม้อข้าวต้มให้อย่างเดียว..แฮร่.." มานิดาตอบหน้าตาเลิ่กลั่ก
"จะมาหากาแฟดื่มน่ะ ก็เลยจะทำแซนด์วิชกินด้วย ขนมปังอยู่ตรงไหนเหรอ ผักด้วย" ธันทรยังทู่ซี้ถามทั้ง ๆ ที่อีกคนบอกว่าไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน
"คะ..คือ หนูไม่รู้ค่ะ หนูเพิ่งมาอยู่วันเดียวเอง รอป้าเขียนมาทำให้ได้มั๊ยคะ แกไปเก็บผักสวนครัวแป๊บเดียวเองค่ะ เสร็จแล้วเดี๋ยวจะยกไปให้ที่โต๊ะอาหารนะคะ" หญิงสาวตอบอย่างรักษามารยาท
"แต่ผมอยากดื่มกาแฟตอนนี้นิ่ รู้สึกตื้อ ๆ ถ้าไม่ได้ดื่ม" คนตัวโตยังแกล้งได้อีก ธันทรนึกสนุกเมื่อได้แกล้งให้คนตัวเล็กโกรธ
ด้านปกรณ์ได้แต่ยืนยิ้มมองดูเพื่อนรักทำกรุ้มกริ่มกับเด็กสาวอยู่ห่าง ๆ และเดินไปหยิบถ้วยกาแฟและเปิดตู้หยิบขวดกาแฟมาเปิดและชงดื่มมันตรงนั้นเสียเลย
"อ่าส์..ชื่นใจ ได้ดื่มแล้ว นายเอาเลยมั๊ย หรือจะให้น้องเค้าชงให้ แต่เค้าไม่ใช่ลูกจ้างนะเค้าเป็นน้องสาวของคุณพยาบาลมานพต่างหาก" ปกรณ์เอ่ยขึ้นเป็นการเตือนเพื่อนรักว่าเกินขอบเขตไปแล้ว เพราะคนอื่นอาจเข้าใจผิดว่าเพื่อนรักดูถูกเหยียดหยามเด็กคนนี้ทั้งที่จริงแล้วมันตรงกันข้าม
"ก็รู้ไงว่าไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นลูกศิษย์ ถึงแม้จะเป็นลูกศิษย์ในอนาคตก็เถอะ เปิดเทอมนี้ก็ต้องได้เจอกันแน่ ๆ จริงมั๊ย มานิดา" ธันทรพูดยิ้ม ๆ พร้อมกับย่างสามขุมเดินเข้าไปใกล้ ๆ คนตัวเล็กเพื่อเปิดตู้เย็นที่อยู่ข้างหลังหญิงสาวพอดี
"คะ คือ คุณหมอจะเอาอะไรคะ หนูจะหยิบให้ก็ได้" คนตัวเล็กถอยกรูดจนหลังชนที่ตู้เย็น
"จะทำแซนด์วิชไง นี่ไงเจอแล้ว ขนมปัง เบคอน ไส้กรอก ครบเลย อ๊ะ! หม้อข้าวต้มจะไหม้แล้วนั่นปิดแก๊สได้แล้ว" ธันทรทำทีเป็นไม่รู้เรื่องอะไร แถมแกล้งคนตัวเล็กต่ออีกต่างหาก
"ห๊ะ! ขะ..ค่ะ..ปิด..ปิดแล้วค่ะ" ฟู่ว…. (เสียงเบ่าปากจากมานิดา) มานิดาตกใจสุดขีด พอปิดเตาแก๊สได้ถึงกับเป่าปากและลูบหน้าอกตัวเองอย่างปลอบประโลมพลางนึกในใจ เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ เพราะอิอาจารย์นี่คนเดียวเลย บ้านตัวเองรึ๊ก็ไม่ใช่ เจ็บใจนักอย่าให้แม่มีโอกาสนะ แม่จะเอาคืนให้ดู