แฝดฝาเดียวกัน

1740 คำ
“ไปไหนมา ไหนว่าแกเข้าบริษัทมาตั้งแต่บ่ายแล้ว” พอเดินเข้ามาในห้องทำงานอันใหญ่โตหรูหรา เสียงของคุณ แดนนี่ บิดาของแดนไทก็ถามขึ้น เมื่อเขาเข้ามารอที่ห้องทำงานของบุตรชายจนแทบหลับไปหลายรอบแล้วแต่แดนไทก็ไม่โผล่มาสักที “ผมเข้าไปดูฝ่ายบันเทิงมาน่ะครับ ว่าแต่คุณพ่อมีอะไรรึเปล่าถึงมาหาผมที่ห้อง” แดนไทเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อเช็คอีเมล์เมื่อคุณแดนนี่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาอยู่ในตอนนี้ “แม่กับน้องแกกำลังจะย้ายกลับมาอยู่ไทย แกจะ...” “ผมไม่ว่างไปทำเรื่องไร้สาระพวกนั้นหรอกครับ” “แต่แกเป็นพี่ ยังไงสองคนนั่นก็เป็น...” “ผมต้องไปแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” และสุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิม เมื่อแดนไทไม่เคยเปิดโอกาสให้คุณแดนนี่ได้พูดหรือเอ่ยถึงมารดาและน้องชายของเขาเลยสักครั้ง ส่วนแดนไท อันที่จริงเขาไม่ได้มีงานต่อ แต่ด้วยไม่อยากฟังบิดาพูดเขาเลยเลี่ยงออกมาจากห้องทำงานแทน “ไอ้แดนไท ไหนว่าแกมีประชุมวะ” “อืม ให้เลขาเข้าแทน” “ไอ้นี่ ถ้าแกไม่ใช่ลูกชายเจ้าของบริษัทคงถูกไล่ออกไปนานแล้ว” “อืม...” แดนไทพูดออกมาอย่างไม่สนใจเมื่อตอนนี้เขากำลังนั่งมองออกไปยังวิวของเมืองหลวงอันสวยงามยามค่ำคืนโดยมี อีวาน เพื่อนสนิทของเขาเดินเข้ามานั่งด้วยหลังจากเขาโทรเข้ามาเพื่อจะชวนแดนไทไปเที่ยวผับแต่กลับพบว่าแดนไทกำลังนั่งอยู่ที่ห้องอาหารกึ่งผับบนดาดฟ้าโรงแรมหรูเขาเลยเป็นฝ่ายมาหาแดนไทเอง “ว่าแต่แกดูเครียดๆนะ ที่บริษัทมีปัญหาอะไรรึเปล่า?” อีวานถามขึ้น เมื่อปกติแล้วแดนไทจะดื่มแค่เครื่องดื่มเบาๆอย่างพวกไวน์อะไรแบบนี้ แต่วันนี้ดื่มเหล้าเขาเลยเดาได้ว่าต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ “ฉันกลับไปอยู่อังกฤษดีรึเปล่า?” แดนไทถามขึ้น ทำเอาอีวานถึงกับตกใจ “นี่แกมีปัญหาใช่ไหม? บอกฉันมาปัญหานั่นคืออะไร!” อีวานรีบถามขึ้น เพราะแดนไทพึ่งกลับมาอยู่ไทยได้ไม่ถึงปีด้วยซ้ำ ดันมาบอกจะกลับไปอยู่อังกฤษอีกซึ่งปัญหาที่มีคงไม่ใช่เล็กๆแน่นอน “สองคนนั่นกำลังจะกลับมาอยู่ไทย...” “สองคนนั่นสองคนไหนห๊ะ! หรือว่า...” “อืม...” พอได้ยินแบบนั้น อีวานถึงกับเงียบไปทันที ส่วนแดนไทก็ไม่ต่างกัน สองหนุ่มยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มโดยไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก เมื่อต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันและกัน “น้องไอริสคะ อาทิตย์หน้าเราต้องไปงานเปิดตัวหนังสือของโฮมอินทรัคชั่นนะคะ ว่าแต่พี่จุ๊บแจงยังข้องใจอยู่เลยว่านายแบบคนนั้นอยู่สังกัดไหนกัน...หล่อจนลืมหายใจ หุ่นนี่ก็แซ่บเหลือหลาย แถมเป้านี่ตุงซะจนพี่จุ๊บแจงเปียกไปหมด” หลังจากจบงานอันยาวนานของวันนี้ จุ๊บแจงก็มาส่งไอริสที่คอนโดของนางแบบสาวและก็ไม่วายพูดถึงแดนไทอีกครั้ง ทำเอาไอริสแทบอยากไล่ผู้จัดการส่วนตัวของเธอกลับบ้านไป เมื่อนี่เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่จุ๊บแจงเอาแต่พูดถึงแดนไท “พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า ถ้าพี่จุ๊บแจงยังไม่กลับก็โทรไปยกเลิกงานให้หมดได้เลยนะคะ...” เสียงอันงัวเงียของไอริสบอกขึ้นพร้อมกับหันหน้าไปอีกทาง เมื่อเธอแทบไม่อยากลืมตาขึ้นมาอีก เธอเหนื่อยเกินกว่าจะลุกเดินไปเช็ดหน้าที่แต่งแต้มเต็มไปด้วยเครื่องสำอางด้วยซ้ำ “ก็ได้ค่ะ! อย่าลืมลุกมาทำความสะอาดหน้าก่อนนอนด้วยนะคะ เดี๋ยวสิวขึ้นก็มานั่งเครียดอีก งั้นพี่จุ๊บแจงไปแล้วนะคะ” “อืม...” และจากนั้น ผู้จัดการส่วนตัวของไอริสก็เดินกลับออกจากห้องพักของเธอไป ไอริสค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น เมื่อเธอต้องทำความสะอาดตัวเองก่อนนอน เพราะเธอไม่อยากที่จะไปเข้าคลินิกรักษาสิวอีกแล้ว “เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจดังขึ้น พร้อมกับมือก็เริ่มทำงานอัตโนมัติ พลันภาพการถ่ายแบบของวันนี้ก็ผุดขึ้นในหัวของไอริส เธอถึงกับเบิกตากว้างทันที “คิดบ้าอะไรของเธอไอริส! อ๊ายๆๆๆ คิดถึงอีตาบ้ากามนั่นได้ไงห๊ะ” ไอริสก่นด่าตัวเอง พร้อมกับเร่งมือเช็ดเครื่องสำอางออก แต่จะทำยังไงเธอก็ยังเอาแต่คิดไปถึงแดนไทอยู่ดี “ว่าแต่อีตานี่เป็นใคร...ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน...” ไอริสเอาแต่คิดเกี่ยวกับแดนไทอย่างลืมตัว ก่อนเธอจะรีบทำความสะอาดหน้าตาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป 1 อาทิตย์ต่อมา งานเปิดตัวอันยิ่งใหญ่ของโครงการบ้านจัดสรรก็เริ่มต้นขึ้น มีแขกมาร่วมงานจนแทบจะไม่มีที่ยืนเมื่อโครงการนี้ถูกจองจนเต็มหมดแล้วภายในเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ทั้งๆที่ราคาบ้านไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท “นายแบบนี่หน้าตาคุ้นๆนะครับ...ผมว่าผมเคยเห็นที่ไหนมาก่อน...” “ฮ่าฮ่าฮ่า จะไปเคยเห็นได้ยังไง จุดเด่นของปกนี่คือนี่ต่างหาก หนูไอริส ลูกสาวเพื่อนสนิทของผมเอง” คุณแดนนี่บอกขึ้นพร้อมกับมองปกนิตยสารของบริษัทฉบับใหม่อย่างภาคภูมิใจโดยไม่ได้มองหน้านายแบบที่หันข้างคนนั้นเลย เมื่อไม่รู้ว่านายแบบคนนั้นคือแดนไท ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง เพราะเขาคิดว่าไม่มีทางที่แดนไทจะถ่ายแบบวาบหวิวแบบนี้เด็ดขาด ขนาดแค่ให้สัมภาษณ์แดนไทยังไม่ทำเลย “เอ่อ ท่านประธานคะ ดิฉันรบกวนมาทางนี้หน่อยได้ไหมคะ” “หือ?...” เจนจิต เลขาของคุณแดนนี่เดินเข้ามากระซิบบอก ก่อนจะเดินเลี่ยงกันออกไปห่างจากคนที่มาร่วมงาน “มีอะไรรึเปล่า?” คุณแดนนี่ถามขึ้น “ค่ะ พอดีทีมงานติดต่อคุณแดนไทไม่ได้ ท่านพอจะรู้ไหมคะว่าตอนนี้คุณแดนไทอยู่ที่ไหน เอ่อ อีกสิบนาทีคุณแดนไทต้องไปสแตนด์บายที่หลังเวทีแล้ว ถ้าเกิดมาไม่ทัน เอ่อ...” เลขาของคุณแดนนี่บอกขึ้น เมื่อตอนนี้ทุกคนกำลังวิ่งวุ่นตามหาแดนไทอยู่ “อะไรกัน อีกเป็นชั่วโมงก่อนจะได้เปิดตัว” “แต่อีก 10 นาที นางแบบและนายแบบจะต้องโชว์ตัวแล้วนะคะ คุณแดนไทเป็นนายแบบต้องขึ้นเวทีพร้อมคุณไอริส แต่ตอนนี้...” “คุณว่ายังไงนะ? นายแบบอะไรกัน?” “เอ่อ ดิฉันคิดว่าท่านประธานรู้แล้ว คือนายแบบคือคุณแดนไทค่ะ” พอได้ยินแบบนั้น คุณแดนนี่ก็เดินกลับไปหยุดยืนอยู่ที่หน้าปกหนังสืออีกครั้ง ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อว่าเขาจะจำลูกชายตัวเองไม่ได้ “นี่แดนไทจริงๆเหรอเนี่ย...” “ค่ะ ดิฉันคิดว่าท่านประธานรู้แล้ว พอดีตอนถ่ายแบบนายแบบท้องเสียจนถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้วเราหาคนมาแทนไม่ได้ คุณแดนไทเลยอาสาเป็นนายแบบให้ค่ะ” “ฉันไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ...แล้วนี่...ให้คนตามหาให้เจอ ให้เปิดตัวพร้อมกับเดินแบบไปเลยยิ่งดี” และคุณแดนนี่ก็เปลี่ยนให้เปิดตัวลูกชายพร้อมๆกับการเปิดตัวนางแบบนายแบบของปกหนังสือไปเลย ทำเอาคุณเจนจิตถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อตอนนี้ยังติดต่อแดนไทไม่ได้เลยแล้วจะให้เปิดตัวกันได้ยังไงจากนั้นทั้งงานก็วิ่งวุ่น เวลาถูกเลื่อนออกไปอีก 20 นาทีเมื่อนายแบบหายตัวไป “อะไรกันคะ ทำไมนายแบบต้องมีปัญหาตลอดด้วย” ทางด้านไอริส พอได้ยินว่าเวลาถูกเลื่อนออกไป เธอถึงกับทำหน้างอเมื่อนายแบบของงานดันมีปัญหาอีกตามเคย “นั่นสิคะ ตอนนี้ทั้งงานกำลังวิ่งวุ่นตามหานายแบบคนนั้น...แต่ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลยนะคะ ที่จริงให้แค่น้องไอริสขึ้นเวทีก็ได้ ทำไมต้องตามหานายแบบมาด้วยก็ไม่รู้” “นั่นสิคะ ไม่เห็นสำคัญตรงไหน” จุ๊บแจงบอกขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างไอริส เธอพยายามค้นหาข้อมูลของแดนไท แต่กลับไม่เจอข้อมูลใดใด แม้แต่ชื่อยังหาไม่เจอเลยนี่สิ และหลังจากนั้น เวลาก็ค่อยๆผ่านไปเรื่อยๆ คนที่มาร่วมงานก็เริ่มเยอะขึ้นๆ ทีมงานก็พากันหัวหมุนจนแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อคนที่สำคัญที่สุดในงานดันหายตัวไปติดต่อไม่ได้ “คุณแดนไท!! โอ๊ยยยย รู้ไหมคะว่าตอนนี้ทุกคนกำลังตามหาคุณแดนไทจนแทบพลิกแผ่นดิน ไปค่ะ อีกไม่กี่นาทีต้องขึ้นเวทีแล้วค่ะ” “เอ่อ ผม...” “ไปเร็วค่ะ ท่านประธานกำลังโมโหมากแล้วค่ะ” คุณเจนจิตที่กำลังหมดหนทางเดินมาเจอแดนไทเข้าพอดี เธอรีบเดินนำให้เขาเดินตามไปที่ห้องแต่งตัว ทำเอาคนที่กำลังสับสนมึนงงค่อยๆเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเขาไม่ใช่แดนไท แต่เขาคือ แดนเทพ น้องชายฝาแฝดของแดนไทที่พึ่งบินมาถึงประเทศไทยได้เมื่อวานและวันนี้ก็อยากมาร่วมยินดีกับบิดาและพี่ชายเขาเลยแอบมาที่นี่ “มาแล้วค่ะๆๆๆๆ รีบๆเลยๆๆๆ งานจะเริ่มแล้ว” เจนจิตรีบร้องบอกทีมงาน ก่อนทีมงานจะกรูกันเข้ามาจับแดนเทพไปแต่งหน้าแต่งตัว ซึ่งแดนเทพเองก็ได้แต่มองคนนั้นที คนนี้ที เมื่ออยากปฏิเสธแต่ดูท่าทุกคนจะไม่ยอมให้เขาได้พูดเลย หรือเขาจะหน้าตาเหมือนพี่ชายจนแยกกันไม่ออกเลยไม่มีใครรู้ว่าคนละคนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม