ตื่นตัว แต่ใจไม่ตื่น

1487 คำ
“นั่นใครน่ะ...นายแบบใหม่เหรอ?...ทำไม...” หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ แดนไทที่เดินออกมาพร้อมกับช่างแต่งหน้าก็ทำให้ทั้งห้องต้องตกตะลึง เมื่อร่างกายที่เต็มไปด้วยลวดลายอันสวยงามที่มีเพียงผ้าผืนเล็กคลุมท่อนล่างเอาไว้มาพร้อมกับหน้าตาและทรงผมที่เซ็ตเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะหาคนมาแทนได้ดีกว่าคนเก่าอย่างเทียบไม่ติดแบบนี้ “อ่าวๆๆๆๆ ตอนนี้นายแบบพร้อมแล้ว ทุกคนเข้าประจำที่ได้แล้วเร็วเข้าๆๆๆ” ผู้กำกับร้องบอกเสียงดังเมื่อเห็นว่าแดนไทพร้อมถ่ายแล้ว ก่อนที่ไอริสจะเดินออกมาจากห้องแต่งตัว “ว๊าย!! นี่ใครกันคะผู้กำกับ จุ๊บแจงไม่เคยเห็นมาก่อนเลย นายแบบใหม่เหรอคะเนี่ยยยย” จุ๊บแจงที่เดินออกมาก่อนถึงกับพูดขึ้นเสียงดังเมื่อเห็นนายแบบคนใหม่ยืนจังก้าอยู่ ส่วนไอริสที่เดินตามออกมาก็แทบยืนนิ่งเมื่อได้เห็นนายแบบคนใหม่ “ครับ...นายแบบผมเอง ไปเถอะครับ เดี๋ยวจะถ่ายไม่ทัน” และจากนั้นทีมงานก็เข้าไปจัดแจงนายแบบนางแบบ ซึ่งพอถอดชุดคลุมออกแล้วให้มายืนคู่กัน ยิ่งทำให้ทุกคนชื่นชมกับความเข้ากันของทั้งสอง ซึ่งปกติแล้วการที่จะหานายแบบที่เหมาะสมกับไอริสนั้นดูจะยากแต่แดนไทกลับดูเข้ากันกับเธอจนทุกคนพากันชื่นชมโดยไม่รู้เลยว่านายแบบคนนี้คือว่าที่ท่านประธานบริษัทของพวกเขาในอนาคตอันใกล้นี้ “ไปหามาจากไหนคะผู้กำกับ สังกัดไหนกัน” จุ๊บแจงรีบเข้าไปกระซิบถามอย่างสนใจ “ผมคงบอกไม่ได้ เขาให้เก็บเป็นความลับน่ะครับ” ผู้กำกับบอกขึ้น แต่ถึงยังไงวันเปิดตัวหนังสือทุกคนก็คงรู้จักนายแบบคนนี้อยู่ดี แต่ไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน ส่วนทางด้านแดนไท เขาประหม่าไปหมดเมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องมาทำอะไรแบบนี้ ถ้าทำได้เขาอยากย้อนเวลากลับไปแล้วเขาจะไม่เดินเข้ามาในห้องนี้อย่างเด็ดขาด “เดี๋ยวนายแบบนั่งบนเก้าอี้นะคะ ส่วนทางแบบจะเข้ามานั่งคร่อมแบบนี้” ทีมงานบอกขึ้นพร้อมกับเอาภาพที่ร่างเอาไว้มาให้นายแบบนางแบบได้ดู จากนั้นแดนไทก็ถูกจัดแจงให้ทำอย่างในแบบร่างและไอริสก็เดินเข้าไปนั่งคร่อมเขาอย่างไม่คิดลังเลหรือเขินอายเมื่อนี่มันเป็นแค่งาน “คุณโอเคไหม ไม่สบายรึเปล่า หรือช่างแต่งหน้าลงสีเยอะเกินไป” ไอริสถามขึ้นเมื่อมองหน้านายแบบของเธอกลับพบว่าสองแก้มเขาแดงก่ำ “อากาศมันร้อน...” เขาโกหกออกไปโดยที่แทบไม่ยอมมองหน้าของไอริส ทำเอาไอริสที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่อดพิจารณาหน้าตาของเขาไม่ได้ หน้าคมสัน ไร้สิวฝ้า เนื้อผิวภายใต้เครื่องสำอางนั้นดูสุขภาพดี ปากบางสีแดงน่าจูบ บวกกับผมสีน้ำตาลอ่อนที่ถูกเซ็ตเอาไว้อย่างลงตัวทำให้เธอแทบละสายตาจากเขาไม่ได้ เขาเป็นใครกัน...ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อน... ไอริสคิดขึ้นในใจ เมื่อเธอเองก็ผ่านงานถ่ายแบบมานับพันๆงานแล้ว แต่เธอกลับไม่เคยเจอเขาเลยสักงาน หรือเขาเป็นนายแบบใหม่เธอเลยไม่เคยร่วมงานด้วย “ถ้าจะจ้องผมขนาดนั้นไม่กินผมเข้าไปเลยล่ะ” คนถูกจ้องถึงกับทนไม่ไหวพูดขึ้น ทำเอาไอริสถึงกับได้สติกลับคืนมา เธอถึงกับอ้าปากค้างถลึงตาใส่เขาไปทันที “นี่นาย ฉันก็แค่มองเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ได้มีอารมณ์พิศวาสสักนิด! ดีกว่านายฉันก็ผ่านมาหมดแล้วย่ะ” ไอริสถึงกับโมโหกับสิ่งที่เขาพูดขึ้น ส่วนแดนไท พอได้ยินแบบนั้นเขาจึงค่อยๆหันหน้ามามองจ้องเธอด้วยสีหน้าคิ้วขมวด “ดีกว่าผมงั้นเหรอ? ใครกัน?” อีตาบ้านี่มันโรคจิตชัดๆ หลงตัวเองด้วย ไอริสที่ไม่รู้จะพูดคำไหนได้แต่คิดขึ้นในใจ “อย่างคุณไม่อยู่ในสายตาฉันหรอก! ได้มาถ่ายแบบกับฉันนี่ก็ถือว่าเป็นบุญของหน้าใหม่ในวงการแบบนายแล้วรู้เอาไว้ซะด้วย!” “เหรอ?...ไม่ยักรู้” “นี่คุณ!...” “ผมเองก็ไม่รู้สึกอะไรแบบที่คุณว่าเลยสักนิด แค่นางแบบจะอะไรนักหนา” นี่เป็นครั้งแรกในวงการหรือจะเรียกได้ว่าในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่ไอริสรู้สึกทั้งโกรธทั้งโมโหกับคำพูดของคนอื่นขนาดนี้ เธอดันอกเขาพร้อมกับทำท่าจะลุกหนี หมับ! แต่กลับถูกแดนไทเอื้อมมือมาโอบเอวของเธอเอาไว้แน่นแล้วกดเอาไว้ไม่ให้เธอลุกไปไหนได้ “นี่!” “เป็นมืออาชีพหน่อยสิคุณ คนอื่นมองอยู่นะ” แดนไททำเป็นไม่สนใจพร้อมกับตำหนิไอริสออกมา ยิ่งทำให้ไอริสโกรธหนักเข้าไปอีก เธอไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ “ไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอ หึหึหึ แต่ตรงนั้นของคุณมันตื่นแล้วนะ” พอรู้ว่ายิ่งพูดก็เหมือนยิ่งแพ้ให้กับเขา ไอริสเลยเปลี่ยนไปเป็นหัวข้ออื่นแทน เพราะตอนนี้เขากดเอวของเธอให้นั่งลงและที่เธอกำลังนั่งทับมันดันเป็นน้องชายของเขาที่กำลังเต้นตุ๊บๆตื่นตัวเต็มที่ ซึ่งเหตุผลที่แดนไทไม่ยอมให้เธอลุกอีกเหตุผลหนึ่งก็คือกลัวคนจะเห็นว่าเขากำลังขยายตัวนี่แหละ “ตื่นก็ใช่ว่าจะมีความรู้สึกอื่นนอกจากอยากปลดปล่อย มันเป็นธรรมดาของผู้ชาย” “ไอ้...นายมันเกินไปจริงๆ...” และสุดท้ายไอริสก็ยังแพ้ให้กับเขา จากนั้นไม่นานเสียงผู้กำกับก็ดังขึ้น เมื่อทุกอย่างพร้อมถ่ายแล้ว “นี่จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของนายกับฉัน” ไอริสทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น ก่อนเธอจะทำเป็นไม่สนใจแล้วเริ่มทำงานอย่างมืออาชีพ ซึ่งแดนไทเองก็ไม่ต่างกัน เมื่อเขาเป็นเหมือนหุ่นให้เธอได้กอดก่ายเพียงเท่านั้น ทำให้งานออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งชุดสุดท้ายถ่ายเสร็จ ไอริสก็สะบัดตัวเดินหนีเข้าไปในห้องแต่งตัวของเธอทันที “บอสครับ! โอ๊ยยยย ผมจะถวายชีวิตให้กับบริษัทเลยครับบอส งานออกมาดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้ซะอีกครับบอส!” ผู้กำกับรีบวิ่งเข้ามาหาเจ้านายหนุ่มด้วยสีหน้าอันขอบคุณ ต่างจากสีหน้าของแดนไท ที่บูดบึ้งขั้นสุด “ทั้งวงการมีนางแบบคนเดียวรึไง” แดนไทพูดขึ้นพร้อมกับสะบัดตัวเดินหนีเข้าไปในห้องแต่งตัวอีกห้อง ทำเอาผู้กำกับถึงกับอ้าปากค้าง เพราะเมื่อตอนทำงานก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรกันแท้ๆ “ก็ท่านประธานสั่งให้เลือกคนนี้นี่ครับ...เฮ้อ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ฮิฮิฮิ” ผู้กำกับพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มกว้างเมื่อเขาคิดว่าพอเปิดตัวต้องทำให้ทุกคนเซอร์ไพรส์อย่างแน่นอน ส่วนทางแดนไท พอเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วก้มลงมองกลางกายหนุ่ม ที่ขนาดตอนนี้ยังคงแข็งขึงดุนดันกางเกงในตัวน้อยอยู่ “เป็นบ้าอะไร ปกติก็เห็นสงบดีออก” เขาก่นด่าตัวเองออกมา เมื่อแค่สัมผัสกายสาว กลิ่นตัวหอมอ่อนๆของเธอแค่นั้นทำให้เขากลับตื่นตัวอย่างไม่ต้องปลุกเร้าอะไรเลย มันทำให้เขาหงุดหงิดตัวเองอย่างบอกไม่ถูก “คิดให้หนักๆเลยนะคะพี่จุ๊บแจง! เอาให้บริษัทเจ๊งไปเลยยิ่งดี!” “คะ? เอ่อ เกิดอะไรขึ้นคะน้องไอริส หรือใครทำให้ไม่พอใจเอ่ย” ไอริสหันมาหน้างอใส่ผู้จัดการของเธอ เมื่อความอดทนที่มีมาเกือบชั่วโมงหมดลงแล้ว “ก็ไอ้บ้านายแบบนั่นน่ะสิคะ ไอริสไม่เคยเห็นใครนิสัยเสียขนาดนี้มาก่อนเลย” “อ่าว แต่ เอ่อ เขาก็หล่อดี...แถมยัง...” “พอเลย! ไอริสหิว ไปเถอะ!” “ห๊ะ! เอ่อ ค่ะๆๆๆ” จุ๊บแจงถึงกับสับสนมึนงงกับอารมณ์แปรปรวนของนางแบบสาว แต่ก็รีบหอบของวิ่งตามหลังไอริสไปเมื่อสุดท้ายงานที่นี่ก็เสร็จอย่างไร้ปัญหา ถึงแม้เธอจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมไอริสถึงมีอาการแบบนี้ แต่ถึงยังไงงานไม่เสียหายเงินก็ได้เพิ่มอีก แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม