ผมหนึ่งครับปกติผมไม่ค่อยชอบออกงานสังคมหรอกนะแต่วันนี้วันเกิดแม่ผมเลยต้องมา ใจจริงผมก็ไม่ค่อยอยากมาสักเท่าไหร่แต่ก็ขัดใจแม่ไม่ได้ ไม่งั้นผมคงโดนบ่นหูชาแน่ๆ และที่สำคัญน้องสาวของผมก็เรียนจบกลับมาเมืองไทยแล้วด้วย นี่ผมยังไม่ได้เจอหน้าน้องเลยวันนี้จะกอดมันให้หายคิดถึงสักหน่อย
ผมเดินเข้ามาในงานเจอสองน้องสาวสุดกวนทีนของผม เธอเห็นผมก็เดินเข้ามากอดทันที
“นึกว่าจะมาพรุ่งนี้แล้วนะเนี้ย..?”
ดูซิยัยน้องสาวตัวแสบมันแอบกัดผมเบาๆ ผมเลยยื่นมือไปยีหัวน้องเล่นขำๆ แล้วเรา 2 คน ก็เดินเข้ามากอดกันด้วยความคิดถึง
“คิดถึงพี่หนึ่งจังเลย น้องนึกว่าพี่หนึ่งจะไม่มาสะละ”
“ไม่มาได้งัยละ ถ้าฉันไม่มานะโดนแม่ด่าเละแน่”
“555 อ่อ แล้วนี่เจอแม่ยังอะ..?”
“ยังเลย…แต่อย่าเพิ่งบอกแม่นะ ว่าฉันมาถึงแล้วกะว่าจะเซอไพรส์สักหน่อย”
“สอง..”
แม่ตะโกนเรียกสองออกมา ผมตกใจมากจึงต้องรีบหลบก่อยที่แม่จะเดินเข้ามาใกล้
“คุยอยู่กับใครนะ…แม่เห็นหลังไวๆ เหมือนพี่เราเลย..?”
แม่ยืนชะเง้อมองมาทางที่ผมแอบอยู่
“ไม่ใช่แม่ นั่นมันลุงไหวงัย แม่ตาฝาดละ”
“ลุงไหว…ใช่หรอ?”
ลุงไหวเป็นคนขับรถให้แม่ผมเองครับ ยัยสองนี่จะหลอกแม่ก็ไม่เนียนเลย ลุงไหวผมขาวทั้งหัวละ
“ช่างเถอะแม่ เข้าไปในงานเถอะ ไปๆ”
ยัยสองกำลังรีบพาแม่เข้าไปในงานแต่ผมได้ยินแม่พูดกับยัยสองเรื่องใครคนหนึ่ง
“งั้นช่วยไปตามหนูพิมให้หน่อย นี่จะเริ่มงานแล้วไม่รู้หายไปไหน”
“ได้ค่ะ เดี๋ยวสองไปตามพิมเองไม่เข้าไปในงานก่อนนะคะ”
เมื่อกี้เหมือนผมจะได้ยินชื่อว่าพิม แม่ผมบอกว่าให้ยัยสองไปตามพิมนี่พิมมางานนี่ด้วยหรอเนี้ย
เวลา 4 ทุ่ม
ผมโทรหาสองให้เริ่มตามแผนการที่วางไว้ สองปิดไฟทุกคนก็ช่วยกันร้องเพลงวันเกิดให้กับแม่จนครบ 3 ครั้งผมค่อยๆเดินถือเค้กเข้าไปหาแม่ใกล้ๆ แม่ผมอธิษฐานและ เป่าเค้กจนเทียนดับลงและไฟภายในห้องก็เปิดขึ้นจนสว่าง แต่สายตาของผมก็หันไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเข้า เธอกำลังมองมาที่ผมพอดี และเราสองคนก็ยืนจ้องหน้ากันอยู่สักพักอย่างรู้สึกอึ้งๆ
“พิม...”
พิมมองมาที่ผมด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉย ไม่ยิ้ม ไม่รู้สึกดีใจที่ได้เจอหน้าผม เธอคงจะเกลียดผมมาก…ใช่สิผมทำกับเธอไว้ขนาดนั้น
“พี่หนึ่ง…”
พี่หนึ่งมองมาที่ฉันพอดีหลีงจากที่คุณป่าเป่าเค้กละไฟภายในห้องสว่างขึ้น ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าว่าถ้าฉันเจอหน้าเขาฉันจะทำอย่างไร จะพูด จะทัก หรือจะเดินหนีไปเลย ตอนนี้ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยขาของฉันก็ก้าวไม่ออกมันแข็งไปหมด
“พิม พิม…”
“คะแม่..?”
“เป็นอะไรหรือเปล่า แม่เรียกตั้งนานแล้วนะ…?”
“เปล่าค่ะ พิมไม่ได้เป็นอะไร”
ฉันหันหน้าหนีพี่หนึ่งแล้วตัดสินใจเดินจูงมือแม่ฉันออกมานอกงาน
“พิมรู้สึกปวดหัวจังเลยค่ะ...พิมว่าเรากลับบ้านกันดีกว่านะคะแม่”
ฉันได้ทีจึงชวนแม่กลับบ้าน
“พิมน่าจะยังปรับตัวไม่ได้เพราะอากาศที่นี่กับที่เมืองนอกไม่เหมือนกันด้วยนะคะ”
“อ้าวหรอ..? งั้นถ้าหนูไม่ไหวเราก็กลับกันเลยก็ได้แต่แม่ว่าเราไปลาคุณป้ากับคุณลุงก่อนดีกว่านะ”
“เอ่อ…แม่คะ แม่เข้าไปลาคุณป้าแทนพิมหน่อยได้มั้ยคะ พิมไม่ไหวจริงๆข้างในคนเยอะด้วยพิมรู้สึกเวียนหัวนะคะ พิมขอไปรอแม่ที่รถแล้วกันนะคะ พิมฝากขอโทษคุณป้ากับคุณลุงด้วยนะคะ”
“เอางั้นก็ได้จ่ะ…เดี๋ยวแม่ไปลาคุณป้าให้ พิมไปนั่งรอแม่ในรถแล้วกัน”
แม่จับแขนฉันเบาๆด้วยความเป็นห่วง แล้วก็เดินเข้าไปในงาน