Chapter 9

1483 คำ
Chapter 9            “รับทราบค่ะ” สาวใสซื่อฉลาดขึ้นมาในสัญญาณที่รู้กันเพียงสองคน            เป็นเรื่องดีกับอริสาหากมีคนคอยช่วยเหลืออีกแรง นั่นทำให้พิภพไม่พอใจ เขาบ่นอยู่สองสามคำเรื่องหญิงสาวรุ่นลูกว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ก่อนกระโดดขึ้นหลังเจ้าแบล็คแทนที่เธอ เพื่อนำมันไปเก็บที่ฟาร์มม้า ทำเอาหญิงสาววัยยี่สิบหกปีถึงกับหน้าเจื่อน            อริสาจึงพาทุกคนขึ้นรถกอล์ฟสี่ที่นั่งที่จอดอยู่ข้างหน้าร้านอาหาร ไปชมฟาร์มในช่วงเย็นวันนี้ที่นับว่าอากาศโปรงสบายดี เหมาะสำหรับการชมวิว ต้นไม้ใบหญ้าพัดผ่านรถกอล์ฟแล่นฉลิวไปเป็นระยะ เธออาสาขับรถกอล์ฟด้วยตนเอง ไม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของลุงเกษม แน่ว่าเจ้าที่รักมักตามเธอไปด้วยทุกที่เป็นเรื่องปรกติ “ม้าเป็นสัตว์ที่ต้องการพื้นที่ในการวิ่งเพื่อออกกำลังกาย ม้าหนึ่งตัวต้องการพื้นที่มากกว่าสองถึงหกไร่ ที่นี่มีทั้งม้าไทยม้าเทศทั้งหมดสามสิบตัว มีฟาร์มแกะกระต่าย ข้างในร่มรื่นมาก ๆ มีไก่ หมู เป็ด ห่าน หงส์ ฟาร์มคุณพ่อมีพื้นที่กว่าร้อยไร่ค่ะ” อธิบายแล้วก็ก้มหน้าลงดูโทรศัพท์ในมือ บทความ งานวิจัยน่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์ที่คุณหมอหนุ่มส่งมาก็ยังมีอยู่เรื่อย ๆ พวงมาลัยที่จับอยู่จึงไม่ตรงทิศทางสักเท่าไร “มัวแต่เล่นมือถือแบบนี้ มีได้ชนต้นไม้สักต้นแน่ ๆ ให้ผมขับดีกว่าไหม?” เตชินไม่ได้เอะใจอะไร เพราะดูท่าทางแล้วหน้าตาเครียด ๆ ของหญิงสาวคงจะทำงานอยู่ตลอด กระทั่งแม่ของเขาเป็นคนถามขึ้นมา “ตกลงหมอไอนี่ใครจ๊ะ ป้าถามได้ไหม? อริสก็รู้ว่าป้าอยากให้หนูกับเตกลับมาสนิทสนมกันเหมือนเมื่อตอนตัวเล็ก ๆ” “แฟนพี่อริสค่ะคุณป้า” คนตอบฉีกยิ้มกว้างหวานให้สาวใหญ่ที่มีสีหน้าตกใจ มือของหล่อนกำลังจับหมวกปีกกว้างกลัวว่ามันจะหลุดลอยไปกับความหวังอันน้อยนิด  “ไหนอาภพบอกป้าว่าอริสไม่มีแฟน” “อาภพไม่รู้หรอกค่ะ มันเป็นความลับ พี่อริสบอกพายคนเดียว คุณป้ากับอาภพเลิกล้มความตั้งใจเถอะนะคะ เป็นมือที่สาม เจตนาให้คนรักกันต้องพรากจากกัน มันเป็นบาปกรรมนะคะ” ไม่บอกเปล่า ขณิกานั่งอยู่ข้าง ๆ คนขับ จงใจพูดเข้าข้างตัวเอง “เนอะพี่เนอะ” ชะโงกคอมองสุนัขข้างหลัง “ใช่ไหม? เจ้าที่รัก” “ผมเห็นด้วยกับคุณพาย เพราะผมไม่คิดอะไรกับคุณอริสาอยู่แล้ว และที่บอกว่าสนิทสนมกันน่ะ มันตอนไหนมิทราบ มีแต่คุณอริสาตามตอแยผมมาแต่เด็ก มาขอแต่งงานอยู่ได้ ไล่เท่าไรก็ไม่ไป” เบ้ปากต่อว่า ยามพูดถึงเรื่องราวในวันวานของเด็กน้อย บัดนี้เติบใหญ่เป็นหญิงสาวผู้หยิ่งผยอง เตชินนั้นเดินด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าห้องตรวจ เห็นชื่อนามสกุลของสัตวแพทย์หนุ่มชัดเจน เขาขับรถไปหัวเราะไป “ตกลงว่าเอาหน้าผากชนกันครั้งเดียวเป็นแฟนกันแล้วรึ? คุณหมอไอศูรย์น่ะ” “มันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน... ฉันอาจจะเจอเขามาก่อนก็ได้” ในน้ำเสียงขุ่นเคือง หากเป็นธรรมดานิสัยของอริสาแล้วเธอคงนั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไร แต่เป็นเพราะว่าญาติดีกับญาติสนิทในวัยเยาว์ไม่ไหวจริง ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เตชินเป็นยิ่งเสียกว่าขวากหนามก้อนใหญ่ในชีวิต “ผมเป็นคนพาหมาคุณไปหาหมอ มันก็ต้องเป็นธุระของผม จะไม่เป็นได้ยังไง อีกอย่าง ผมดันเป็นว่าที่ลูกเขยอันดับหนึ่งของอาภพเสียด้วย” อริสาหัวเราะออกมาแต่เป็นการประชดเสียมากกว่า “ลูกเขย? แน่ใจมากนะคะคุณเตชิน ขอโทษที ไม่มีใครบังคับฉันได้” “ใช่ค่ะ พนักงานที่นี่นะ ระหว่างอาภพกับพี่อริส เจอพี่อริสพูดคำเดียวจอด ขนาดลุงเษมยังเชื่อพี่อริสมากกว่าอาภพเลย ผู้คนไหนถ้าพี่อริสไม่แล ไม่แคร์ อาภพก็ทำอะไรไม่ได้” ขณิกาเข้าข้างพี่สาวเต็มที่ ตามความจริงที่เธอเห็น คนเป็นแม่สื่อเห็นจะทนไม่ไหว “อริส... ลูกป้าน่ะหล่อนิสัยดี ป้ารับประกัน หนูรับพิจารณาพี่เตไว้อีกสักคนนะจ๊ะ เรายังไม่ได้แต่งงานนี่ แค่คบหากัน คบอีกคนก็ได้น่ะ” ขณิกาเบิกตากว้างมองคนที่ยื่นหน้ายื่นตามา ยังไม่เลิกล้มความพยายาม “คบซ้อนมันไม่ดีนะคะคุณป้า คุณป้าทำแบบนั้นเหรอคะ?” “เอ๊ะ ยัยหนูนี่ ไม่ใช่เรื่องของเราเลยนะ” ขวัญฤดีเริ่มจะหงุดหงิดอยู่น้อย ๆ เพราะแผนการแม่ชักพ่อสื่อไม่สำเร็จเสียที ขณิกาได้ทีฟ้องคนข้าง ๆ ที่ลอบมองกระจกมองหลังอยู่ด้วยความสงสัย “นั่น... คุณเตชิน คุณป้าเคยคบซ้อนจริง ๆ ด้วย” “จริงเหรอแม่? แม่เคยคบซ้อนเหรอ?” กลายเป็นว่าตอนนี้ทุกสายตาพุ่งไปที่ขวัญฤดี สาวใหญ่กลอกตาไปมา “เอ้อ.. ตอนสาว ๆ แม่ก็สวยไหมล่ะ ดู ๆ ใจกันไป คนไหนมาจีบแม่ก็คบไปก่อน ค่อยมาเลือกพ่อแกทีหลัง” เด็กรุ่นลูกแต่ละคนมองคุณป้าคนสวย ไม่เว้นแม้แต่อริสาที่เงยหน้าขึ้นจากจอ ขวัญฤดีแก้ตัวหน้าเจื่อน “มองอะไรกันเล่าเด็กพวกนี้ สมัยก่อนไม่มีโซเชียล ไม่มีสเตตัสโสด มีแฟน ใครยังไม่แต่งงาน มีสิทธิ์ที่จะเลือกคู่ครองทั้งนั้นแหละ” “ที่คุณป้าพูด ฟังดูน่าสนใจนะคะ เรื่องคบทีหลาย ๆ คนไว้เลือกก่อนน่ะ เนอะพี่อริส” ขณิกาเริ่มจะเห็นด้วยขึ้นมา ส่งสายตาแห่งความหวังดีให้พี่สาวคนสวยที่ส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ทว่าชัดเจนในคำตอบว่าคงไม่ทำแน่ ผ่านมาถึงหน้าร้านเบเกอรี่ริมบึงน้ำธรรมชาติ มีลูกค้าจากรีสอร์ตมานั่งดื่มกาแฟอยู่หลายโต๊ะ เตชินชักชวนทุกคนไปซื้อเครื่องดื่ม และขนมอร่อย ๆ รับประทาน ทำหน้าที่แทนลูกสาวเจ้าของฟาร์มที่ยังคงก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์ ทว่าพอเขาจอดรถเรียบร้อยดี เธอกลับเดินกระฉับกระเฉงนำเข้าร้านไปรับไหว้ทักทายพนักงานไปยกโทรศัพท์ไป โดยมีเจ้าที่รักกระดิกหางต้อนรับนักท่องเที่ยว เดินอวดโฉมตัวขนสีทองประกาย ต่างคนตรงไปซื้อเครื่องดื่ม แต่ก็แย่งขวัญฤดีชำระเงินไม่ทัน หลังเจ้าตัวปฏิเสธลูกเดียวว่าจะซื้อให้เอง ด้วยมาเที่ยวพักผ่อนฟรีทุกอย่างก็แสนเกรงใจ อริสาจึงก้าวไว ๆ ไปตรงมุมร้าน นั่งยองลงหยิบขนมในกระเป๋า “ที่รัก โชว์ตัวเสร็จแล้วหรือลูก เก่งมาก เอ้านี่.. ขนมจ๊ะ” มีบางอย่างในปากของเจ้าที่รัก มันคายแหมะลงบนพื้นเพื่อฉกขนมไปจากมือ กระเดือกกลืนลงคออย่างตะกละตะกลาม เสร็จก็เห่าใส่หน้าเจ้านายเป็นคำขอบคุณ  คิ้วเรียวสวยขมวดม้วนเข้าหากันเป็นปม ทันทีที่พบซองกระดาษใสซองเล็ก ๆ มีเม็ดยาอยู่ข้างในเจิ่งนองน้ำลายข้นเหนียว ความที่เธอเป็นคนรอบคอบอยู่เสมอ อริสาหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อ คลุมมันไว้มิดชิดก่อนเก็บขึ้นมาพิจารณา ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงมองสีแสดแดงของเม็ดยา ตัวอักษรภาษาอังกฤษพิมพ์ลงบนนั้น เธอเคยเห็นมาก่อนคราวไปหาลุงปรีชาที่สถานีตำรวจ ไม่ผิดแน่ ๆ มีไอ้ชั่วตัวเดียวที่ทำเรื่องแบบนี้กับฟาร์มของเธอได้! ใบหน้านิ่งงามเก็บข่มโทสะไว้ในแววตาดุจเปลวไฟ พับผ้าเช็ดหน้าเก็บซองยาไว้อย่างดีลงในกระเป๋าสะพาย พลันสะบัดกายไปหาพนักงานร้านอาหาร มีผู้จัดการร้านออกมายกมือไหว้ทักทายเจ้าของ ซึ่งพวกเขาต้องตกใจในทันที “หมดลูกค้าชุดนี้ปิดร้านก่อนนะคะ ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้น เป็นคำสั่ง” อริสาไม่มีเวลาพูดพร่ำอะไรต่อ เหตุด้วยของไม่พึงประสงค์ที่อยู่ในกระเป๋า จึงโยนภาระทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของลูกสาวของนายพลตำรวจใหญ่ ที่ถึงแม้ว่าหน้าตาใสซื่อก็ไม่ได้หมายความว่าโง่ “เดี๋ยวพายดูแลแขกเองค่ะ พี่อริสไปจัดการธุระเถอะ” ขณิการับคำเป็นอย่างดี พอได้ยินแค่คำว่าให้โทรหาพ่อ ‘ด่วน’ ความหมายคือมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นในฟาร์ม และถ้าหากว่าตรึกตรองด้วยเหตุผลให้ดี จุดประสงค์ของผู้ร้ายคงไม่ใช่เท่านี้ 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม