Chapter 13

1425 คำ
Chapter 13            ระยะทางอีกไม่ไกลจึงเกิดความเงียบขึ้น นัยน์ตาคู่เรียวคมทอประกายแวววาวใต้แสงไฟสลัวจากภายนอกรถยนต์ที่แล่นฉลิวไปในช่วงหัวค่ำพาเสียงตึกตัก... ดังตามมา            ไม่รู้จะมองอะไรนักหนา! “หมอไอ... มองอะไรคะ? คือ.. ฉันขับรถไม่ถนัด” “มองคนสวย...” เปลือกตาขาวกะพริบอยู่สองสามครั้ง ใช่ว่าไม่เคยถูกชมเสียเมื่อไร เป็นเรื่องปรกติที่ไม่รู้ว่าทำไมดันไม่รู้สึกว่ามันปรกติเอาตอนนี้ “หมอไอชมฉันตรง ๆ แบบนี้ ฉันจะเข้าใจผิดนะคะ” “คุณอริสาจะเข้าใจอะไรผิด ก็อย่างที่คิดนั่นแหละ” “ฉันไม่ได้คิดอะไรเลย...”  “เมื่อกี้บอกว่าจะเข้าใจผิด ตอนนี้บอกไม่คิด หมอชักเริ่มงง ตกลงเอายังไงแน่ครับ?” ในน้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ คนที่กำลังใช้สมาธิทั้งขับรถและคุมสติตนเองให้ไปในทิศทางเดียวกันคงเป็นเรื่องยาก อริสาลอบถอนหายใจเบา ๆ “ฉันไม่รู้จะตอบยังไงแล้วค่ะ รู้แค่ว่ากำลังจะไปไหน” “ไปไหนครับ?” “ไปโรงพยาบาลค่ะ” “ชอบหมอไอไหม?” “ชะ...” ถ้อยคำที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากสะดุดไป ขณะที่เขาไม่ปล่อยให้เธอได้แก้ตัวเป็น ‘ไม่ชอบ’ หรือ ‘ฉันเปล่า’ ชิงถามขึ้นด้วยคำถามเดิม “จีบได้ไหม?” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นมองค้อนคนข้างกันก่อนกลับมามองทาง ดวงตาร้อนแรงที่จับจ้องมาอย่างเต็มไปด้วยเสน่หาพร้อมขนมจีบลูกใหญ่ทำให้ต้องอมยิ้มแก้มตุ่ย “ไม่รู้ค่ะ... ไม่คุยด้วยแล้ว”  “ไม่คุยก็ไม่คุย...” เขายิ้ม แล้วจึงไม่ได้พูดอะไรต่อ ถึงยังไงเขาก็ไม่ต้องการคำอนุญาต ไม่นานก็มาถึงโรงพยาบาลสัตว์เอกชนในเมือง คุณหมอหนุ่มใช้เวลาไม่นาน นำยาปริมาณมากพอสำหรับม้าเจ็ดตัวคืออะโทรปิน ซัลเฟต เมื่อผลตรวจจากห้องแล็บออกมาตรงกับสารตัวง่าย ๆ ที่หาซื้อกันได้ทั่วไปคือยาฆ่าแมลง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้ม้าเด็กสุดในคอกล้มไปในระยะเวลาสั้น ๆ  ทุกวินาทีมีค่ากับอีกเจ็ดชีวิตจากแปด คงเป็นเรื่องยากที่จะไม่โทษตัวเองว่ามันตายไปแล้วหนึ่งตัวเพราะเขาไปที่ฟาร์มช้าเกินไป            ดวงหน้าแดงก่ำที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตายังติดอยู่ในหัว และถ้าหากว่าเป็นไปได้ เขาไม่อยากจะเห็นผู้หญิงคนนี้ต้องเศร้าใจอีก ถึงเธอจะจำเรื่องราวของคนผ่านทางอย่างเขาไม่ได้ก็ตามที... “ไอ้วิทย์! ไปสั่งคุณเกศให้ต้อนรับแขกดีๆ วันนี้มีบัสลงหลายคัน ฟาร์มข้างนอกน่ะ โชว์ อาหาร ให้พร้อม เพิ่มเวลคั่มดริ้ง ขนมจุกจิกอะไรได้ก็เอาให้ลูกค้าไป อย่าให้บริษัททัวร์ยกฉันอีกล่ะ” น้ำเสียงแกมหงุดหงิดของหนุ่มวัยสี่สิบออกคำสั่ง ชายร่างกำยำสามคนจึงรีบไปหาเลขาฯประจำฟาร์ม ไม่ให้มีการผิดพลาดใด ในวันที่เจ้านายดูอารมณ์ไม่ค่อยจะดี            อันที่จริงก็ไม่มีวันไหนที่เมธพนธ์จะอารมณ์ดี ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของเขาซึ่งเป็นคนเจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ หากไม่ใช่ลูกค้าที่มีผลประโยชน์ต่อกันทางธุรกิจ มีความจำเป็นต้องกระชับสัมพันธ์ นับถ้อยคำดีๆที่หลุดจากปากของชายคนนี้ได้            ฟาร์มพีควัลเล่เพิ่งเปิดกิจการมาได้เพียงหนึ่งปี มีบริการห้องพัก การแสดงสัตว์แสนรู้ ให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ ยังมีอาหารรสชาติถูกปากลูกค้าขนาดว่าต้องกลับมารับประทานอีก ด้วยฝีมือเฉียบขาดของพ่อครัวใหญ่ ถูกดึงตัวมาจากอีกฟาร์มของนายพิภพ เพราะเงินเดือนที่เขาเสนอให้มากกว่าถึงสามเท่า            อาหารอร่อย ที่พักบรรยากาศดี แจกสินน้ำใจใส่ซองเล็กๆให้คนรถ มัคคุเทศก์ ราคาเป็นกันเองกับบริษัททัวร์ ผู้คนก็เริ่มทยอยมาใช้บริการเป็นเรื่องธรรมดา ฮึ! ไอ้พิภพ คราวนี้ฟาร์มมึงอย่าหวังจะได้ผุดได้เกิด! มุมปากหนาหยักได้รูปยกยิ้มร้ายกาจ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายปานเทพบุตรซาตานสาดประกายอำมหิตผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ บนเก้าอี้ทำงานที่หมุนเข้าหาทิวทัศน์ภูเขาลำธารเย็นอันไม่สามารถสงบจิตใจรุ่มร้อน หลังส่งคนไปจัดการฟาร์มรุ่นเก๋าอย่างเจ็บแสบ แน่ว่าไม่ใช่ครั้งแรก.. ฟาร์มที่ดำเนินกิจการมาก่อนถึงสามสิบปีเป็นฝ่ายเปิดศึกสงครามทางธุรกิจกับฟาร์มของเขาและธุรกิจท่องเที่ยวสถานที่อื่นๆ มีการตลาดการชักชวนผู้คนไปใช้บริการ ด้วยความมีฝีมือของนักธุรกิจรุ่นเก่าแก่ พิภพนั้นนั่งเก้าอี้ผู้บริหารกับหุ้นส่วนอีกหลายมือ ดูแลกิจการรีสอร์ตระดับสี่ดาว ครอบคลุมตลาดคนมีฐานะ และระดับกลางให้เข้ามาใช้บริการฟาร์มม้า พักผ่อนหย่อนใจชมวิวสุดแสนธรรมชาติ ในพื้นที่ทำเลทองกว่าฟาร์มของเมธพนธ์มาก ขณะที่บุตรสาวของนายพิภพจบปริญญาโท เอกสัตวศาสตร์ จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อกลับมาทำงานด้านประกอบการผลิต งานวิจัยในฟาร์มที่มีสัตว์ประเภทอื่นๆ ขยายไปในทางตลาดการส่งออก เช่นแพะ แกะ สัตว์เลี้ยงในครัวเรือน แม้แต่ไก่ยังสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ หล่อนยังจัดการพนักงานและคนได้ดีเยี่ยม พื้นที่ในเขาใหญ่ปัจจุบันจับจองโดยเศรษฐีและผู้มีอิทธิพลมาช้านาน หลังจากที่อริสากลับมาจากเมืองนอก หล่อนเริ่มมีเส้นสายกับพวกเล่นปืน ผู้มีอิทธิพลขาใหญ่ในละแวกนี้ ทุกคราวที่มีศึกนองเลือด เขาจะได้รับการตอบรับกลับอย่างเจ็บแสบด้วยเช่นกัน เมธพนธ์จึงระวังตัวมากกว่าเดิมหลายเท่า            “เรียบร้อยแล้วครับนาย คุณเกศจัดโชว์คาวบอยพิเศษด้วยครับ ลูกค้าไปยืนมุงดูกันสนุกเชียว” วิทยากลับมาเอาหน้าในอีกครู่หนึ่ง            ดวงตาคู่คมเข้มปรายมองไปทางประตูที่เปิดอ้าไว้ “เรื่องฟาร์มไอ้พิภพ ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”            “ผมสั่งคนของเราที่ทำงานอยู่ในนั้นทุบกล้องหมดทุกตัว ไม่มีหลักฐาน จับมือใครดมไม่ได้ แต่เรื่องยา.. พวกมันไหวตัวทันครับ”            “ไม่เป็นไร แค่ฟาร์มมันปิดไปสักพัก ลูกค้าคงต้องเลือกมาเที่ยวรีสอร์ตเรา” ในน้ำเสียงเย็นยะเยือก ซ่อนความไม่ประสงค์ดีไว้บนใบหน้านิ่งเฉย ลูกน้องหนุ่มยังเป็นกังวล            “มันมีแบ็กดีครับนาย พลตำรวจเอกปรีชา ผู้หมวดผู้กองเป็นพรรคพวกมันมานาน ล้างสน.แต่ละที เปลี่ยนย้ายคนใหม่มา ตำรวจละแวกนี้เป็นพวกเดียวกับมันหมด”            “ฉันไม่สนตำรวจ” ตอบทันที เมธพนธ์เองก็เป็นผู้มีอิทธิพล ทำตัวเหนือกฎหมายเพราะไม่มีหลักฐานการกระทำความผิดจึงไม่มีใครแตะต้องเขาได้ นักเลงท้องถิ่นหรือแม้แต่มือปืนในเมืองนี้รู้จักเขาทั้งนั้นว่าการเปิดฟาร์มครั้งนี้เป็นการฟอกเงินจากธุรกิจสีเทาๆ ที่เขาจับมานานนับหลายปีจนร่ำรวยเป็นเศรษฐี “ฉันจะให้แกไปจัดการธุระอีกเรื่องหนึ่งสักหน่อย” “เรื่องอะไรครับนาย?” ลูกน้องหนุ่มถามพลางมองตามร่างสูงที่ก้าวไปคว้าขวดโหลแก้วทรงสวยที่มีน้ำสีอำพันเทลงในแก้วบรั่นดีด้วยท่าทีเคร่งขรึม วิทยาเลยเอ่ยขึ้นเสียก่อน “กะเมาแต่หัววันเลยเหรอนายหัว หงุดหงิดเรื่องผู้หญิงล่ะสิ”            “รู้แล้วยังจะถาม” มือหนายกแก้วขึ้นกระดกพรวดเดียว ยามหัวคิดถึงเจ้าของใบหน้าสดสวยโฉบเฉี่ยว ละมุนหวานในดวงตาคู่กลมโต ทรวดทรงสะโอดสะองเอวบางร่างน้อย แม้ริมฝีปากอิ่มงามกระจับจะสาดถ้อยคำร้ายกาจออกมาราวพ่นพิษ ยิ่งท้าทายเพลย์บอยอย่างเขาที่กราดกินไปทั่วจนนึกอยากจับเจ้าหล่อนมาขย่มบนเตียงเล่นสักคืน            “ผมให้คนแอบตามอยู่ห่างๆ ไม่มีพิรุธให้เธอจับได้แน่นอน ขอแค่นายสั่ง...” ลูกน้องหนุ่มบอกอย่างรู้กัน            วงหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรซาตานกระตุกยิ้มมุมปาก ดวงตาสีดำเข้มจัดลุกวาวอย่างน่ากลัว            “แกนี่มันรู้ใจฉันดีจริงๆ แต่ช่วงนี้ฉันยังไม่ว่างจัดการนังตัวแสบนั่น ตามไปก่อนละกัน อย่าให้ใครมาแตะของเล่นชิ้นใหม่ของฉันล่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม