EPISODE4 {100%}

3647 คำ
บนชั้นสองของคาสิโนตอนนี้กำลังมีคนตั้งใจฟังน้ำเสียงหนักแน่นของคนตัวเล็กอยู่ มาเฟียขอตัวจากคู่ค้าจากต่างประเทศที่เดินทางมาคุยเรื่องธุรกิจและถือโอกาสพามาเสี่ยงโชคที่คาสิโน ที่ขึ้นชื่อว่าหรูหราและดีที่สุดในประเทศ เขาได้ยินเสียงเอะอะจากด้านล่างมาสักพักแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งเสียงแข็งกร้าวนั่นดังขึ้น มันสะกิดหูเขาให้ต้องตั้งใจฟัง ทั้งยังสะกิดใจให้รีบออกมาดูให้แน่ชัดว่าใช่คนที่เขาคิดไว้ไหม “ดูท่าจะเก่งพอตัวนะครับคุณมาเฟีย” คินออกความเห็นถึงร่างเพรียวที่ยืนถือปืนหนัดแน่นท่ามกลางผู้คนรุมล้อมด้านล่าง เขาเองก็อดจะแปลกใจกับเด็กด้านล่างไม่ได้ วันก่อนที่เจอก็ทั้งอ่อยทั้งยั่วเจ้านายเขาไว้สารพัด แถมยังใส่ยาปลุกเซ็กส์เล่นงานเจ้านายเขาอีก แต่พอมาครั้งนี้การวางตัวของอีกฝ่ายแตกต่างจากครั้งก่อน จากหน้ามือเป็นหลังมือกันเลยทีเดียว ครั้งนี้ดูมีแต่ความเป็นผู้นำ หนักแน่น แน่วแน่ กล้าหาญ ไม่เกรงกลัวใครทั้งสิ้น เพราะแบบนี้หรือเปล่าที่เจ้านายเขาถึงอยากออกมาดู รวมถึงพาแขกคนสำคัญมาเสี่ยงดวงที่นี่ “ก็แค่เด็กอวดดีคนหนึ่ง” มาเฟียพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเคย ทว่าดวงตากลับไม่ละไปจากเหตุการณ์ด้านล่างเลย ทั้งที่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยสักนิด แต่เขากลับสนใจมันจนเลิกละสายตาไปไหนไม่ได้ “แต่ผมว่าเขามีดีให้อวดนะครับ และมีดีเยอะเลยด้วย” คินพูดแฝงความนัยย์ที่มาเฟียก็น่าจะรับรู้ ว่ามีดีให้อวดเยอะน่ะมันคืออะไร อย่างน้อยขาอ่อนที่วางเท้าบนโต๊ะคืนนั้นก็ทำให้เจ้านายเขาเผลอมองอยู่หลายวินาทีเลยทีเดียว มาเฟียไม่ได้โต้ตอบออกมาเป็นคำพูด เขาปรายหางตามองเลขาคนสนิท จากนั้นคินก็ปิดปากเงียบทันที สายตาไร้ความรู้สึกเมื่อครู่มันคือคำสั่ง ‘ให้หุบปากซะ’ ร่างสูงมองดูจนสถานการณ์ทั้งหมดคลายตัวลง และคนตัวเล็กส่งปืนให้ลูกน้องเก็บเข้าเอวแล้วเรียบร้อย เขาถึงกลับเข้าไปหาแขกคนสำคัญที่พามาด้วย อิ้งมองสมาชิกที่ก่อเรื่องทั้งสองฝ่ายด้วยสายตาคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ถึงปืนจะส่งให้เฮียใหญ่เก็บไปแล้วก็เถอะ ถ้าคนอย่างนายน้อยอิ้งจะชักออกมาลูกน้องที่จงรักภักดีอย่างใหญ่ก็พร้อมส่งปืนให้ทุกเมื่อ ร่างบางทิ้งสายตาเชิงตักเตือนให้กับผู้ที่ก่อเรื่องทั้งสองฝ่ายก่อนจะสะบัดตัวออกมา มือเรียวก็เรียกหาแก้วแชมเปญแก้วใหม่ไปด้วย ดีที่พนักงานในที่นี้รู้นิสัยใจคอนายน้อยคนนี้ดี เลยได้เตรียมเอาไว้ให้แล้ว เรียกหาเมื่อไรก็ส่งถึงมือทันที คนตัวเล็กเดินไปจิบแชมเปญไป กว่าจะถึงห้องทำงานร่างเพรียวก็เริ่มเดินไม่ตรงทาง แต่ก็ไม่มีพนักงานคนไหนในคลับกล้าเข้ามาประคองหรือแตะเนื้อต้องตัว ภาพที่คนทั่วไปเห็นนายน้อยของพวกเขาคือเด็กมหา’ลัยการเรียนพอถูไถ บ้านรวย เอาแต่ใจ ชอบเที่ยวกินเหล้าแล้วก็เมาไปวันๆ แต่สำหรับคนที่นี่ทุกคน นายน้อยของพวกเขามีค่ามีราคาเกินกว่าพวกเขาจะแตะต้องได้ ถึงจะไม่ค่อยตั้งใจเรียน เอาแต่ใจ เที่ยวเมาไปวันๆ แต่เรื่องจัดการในคาสิโนอิ้งไม่เคยทำพลาดสักครั้ง และทำมันได้ดีมาตลอดด้วย ไม่งั้นคงไม่ถูกวางตัวไว้เป็นทายาทสืบทอดกิจการนี้โดยตรง “ไปเอาบรั่นดีมา เบื่อแชมเปญแล้ว” อิ้งวางแก้วแชมเปญลงหลังจากถึงโต๊ะทำงาน จากนั้นก็เรียกหาเครื่องดื่มที่ดีกรีร้อนแรงมากขึ้น ทุกอย่างเหมือนถูกจัดเตรียมไว้รออยู่แล้ว ผ่านไปไม่กี่นาทีบรั่นดีราคาแพงก็อยู่ในมือของคนที่เรียกหา อิ้งนั่งดื่มมันอย่างหนักหน่วงคนเดียวในห้องทำงาน จนเดินไม่ตรงทาง ใบหน้าเรียวแดงซ่านเพราะฤทธิ์ร้อนผ่าวของแอลกอฮอล์ สติที่พอจะคิดไตร่ตรองได้ก็เหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น “ใหญ่! … ใหญ่! เข้ามาหาผมหน่อย” เสียงของร่างเล็กเริ่มยานฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเข้าไปทุกที แต่พอสิ้นสุดเสียงเรียกเฮียใหญ่ก็รีบวิ่งเข้ามาทันทีเช่นกัน เพราะถ้าชักช้านายน้อยคนเมาอาละวาดคาสิโนพังแน่ “ครับนายน้อย” “ผมจะกลับ อึก! คอนโด” อิ้งพูดไปก็สะอึกไป คนได้ยินคำสั่งก็ก้มศีรษะน้อมรับโดยไว รีบบอกให้เด็กด้านนอกนำรถออกเพื่อไปส่งนายน้อยที่คอนโด แล้วเรียกพนักงานผู้หญิงขึ้นมาสองคนเพื่อพยุงร่างหนักแรงโน้มถ่วงลงไปด้านล่าง ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงเศษๆรถของคาสิโนก็เข้ามาจอดหน้าคอนโดหรูของนายน้อย ส่วนรถที่นายน้อยขับไปก็ถูกขับไปจอดยังลานจอดรถแล้ว เหลือเพียงพาตัวคนเมาขึ้นห้องเท่านั้น แต่คนเมากลับไม่ยอมขึ้นหรือให้ใครแตะต้องตัวเลยสักคนเดียว อิ้งเปิดประตูเดินลงมาจากรถเอง พร้อมกับเอ่ยปากไล่ทุกคนให้ออกไปให้หมด เขาอยากอยู่เดียวไม่อยากเห็นใครทั้งนั้น จนในที่สุดก็เหลือแค่เขาคนเดียวที่หน้าคอนโด คนตัวบางทรุดตัวนั่งกับพื้น ก้มหน้าซุกระหว่างหัวเข่าสองข้าง เพราะตอนนี้รู้สึกหนักศีรษะเหลือเกิน พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นผีเสื้อกลางคืนตัวหนึ่งกำลังบินวนอยู่รอบกาย พอเอื้อมมือจะออกไปคว้ามันก็บินห่างออกไปอีก ทว่าพอหยุดนิ่งมันก็บินเข้ามาหา อิ้งมองผีเสื้อตัวนั้นด้วยสายตาเหม่อลอยไร้จุดมุ่งหมาย แล้วเดินตามมันออกมาเรื่อยๆเพื่อหวังจะคว้ามาให้ได้ เขาชอบผีเสื้อมาตั้งแต่เด็กเพราะมันมีชีวิตเหมือนเขา สวยงามจนใครต่อใครต่างชื่นชม บินไปที่ไหนก็ได้มีอิสระ แต่สวยไปก็เท่านั้น พอตายไปก็ถูกสตาฟฟ์แล้วตรึงหมุดอยู่ในกรอบ เช่นเดียวกับเขาที่ภายนอกดูดีจนใครต่อใครทั้งอิจฉาทั้งชื่นชม ดูเหมือนจะอิสระทำอะไรได้ตามใจ แต่สุดท้ายก็อยู่ในกรอบในจุดที่ครอบครัววางไว้ให้อยู่ดี นี่เลยเป็นอีกเหตุผลที่เขาเที่ยวหนัก ดื่มหนัก ใช้ชีวิตเต็มที่ เพราะหลังจากเรียนจบก็ต้องมาดูแลคาสิโนเต็มตัว ไม่มีเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนแบบนี้อีกแล้ว เอี๊ยดดดด! เสียงรถหรูเบรกดังลั่นในยามดึก คนประจำตำแหน่งคนขับแทบจะหัวใจวายที่เกือบจะชนเด็กด้านหน้าเข้า ส่วนคนที่นั่งมาข้างๆก็ใจหายวาบเช่นกัน ผิดกับคนด้านหลังที่นั่งกอดอกไขว้ขามองเด็กน้อยไล่คว้าผีเสื้อไม่พูดจาอะไร เสียงเบรกที่ดังขึ้นระยะประชิดตัวทำให้อิ้งหันมามอง เขาเมาจนไม่สังเกตเห็นแสงไฟหน้ารถที่ส่องมาหาตัวเลยด้วยซ้ำตอนนี้ แถมยังไม่ฉุนเฉียวที่รถเกือบจะชนด้วย และยังคงเดินวนเวียนตามผีเสื้ออยู่แบบนั้น ถ้าหากสติเขาครบถ้วนหรือยังหลงเหลือมากกว่านี้เขาคงโวยวายจนเกิดเรื่องไปแล้ว “ออกรถเลย” คินออกคำสั่งให้คนขับรถเคลื่อนตัวได้ หลังจากรอให้เด็กน้อยไล่จับผีเสื้อเดินหลบไปจนพ้นเส้นทาง ทว่าผู้เป็นนายกลับสั่งให้หยุด “ไม่ต้อง หยุดอยู่ตรงนี้ก่อน” มาเฟียนั่งมองอิ้งเดินตามและยิ้มให้กับผีเสื้ออยู่หลายนาที เขาแค่มองเฉยๆและไม่ได้รู้สึกว่าเด็กตรงหน้ามันน่ารักหรืออะไรด้วย ก็แค่อยากมองแค่นั้น.. “ลงไปดูเธอหน่อยไหมครับคุณมาเฟีย ดูเหมือนจะเมามาก” “ถ้าไม่เมาคงไม่บ้าไล่จับผีเสื้อหรอก” “ให้ผมลงไปดูเธอให้ไหมครับ” “ไม่ต้อง ฉันจะขึ้นห้องออกรถเลย” ถึงแม้รถจะเคลื่อนผ่านร่างบอบบางไปแล้ว แต่สายตาของมาเฟียก็ยังคงจับจ้องไปที่อิ้งไม่ลดละ การพบกันระหว่างมาเฟียกับอิ้งในวันนี้ควรจะจบลงแค่เท่านี้ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปในที่ของตนเอง มาเฟียคิดว่ามันควรจะเป็นแบบนั้น…และมันต้องเป็นแบบนั้นเท่านั้น! หมับ! “!!!” “มานี่” เสียงเรียบนิ่งแสนจะเย็นชาที่ออกคำสั่ง มันทำให้คนเมาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ นอกจากจะไม่ยอมเดินตามร่างสูงเจ้าของคำสั่งแล้วยังจะสะบัดข้อมือเล็กให้หลุดจากการฉุดรั้งด้วย “ยุ่ง!” น้ำเสียงแหบปนหงุดหงิดบอกคนตัวโตตรงหน้า ที่ไม่ยอมปล่อยข้อมือเขาให้เป็นอิสระสักที มาเฟียขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์กับคำที่ได้ยิน แต่พอคิดดูแล้วมันก็จริงอย่างที่คนเด็กกว่าว่าเขานั่นแหละ ‘ยุ่ง’ แล้วเขามาทำอะไรอยู่ตรงนี้!(?)ในเมื่อ5นาทีที่แล้วเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และควรจะเตรียมตัวนอนแล้วแท้ๆ ต้องโทษไอ้หัวสมองชอบจดจำของเขานี่เลย ที่มันดันจำภาพของเด็กตรงหน้ากำลังเดินตามผีเสื้อไร้จุดหมายในยามดึก ความเมามายที่อีกฝ่ายแสดงออกมามันอดกังวลใจไม่ได้ ว่ามันอาจจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับเด็กหนุ่มที่ทั้งเมา และแถมยังไปยืนเอาปืนจิ้มหน้าผากคนมีอำนาจมาอีก “….” คนโตกว่าไม่ตอบโต้คำตำหนิที่ได้ยิน เขาเลือกจะออกแรงดึงข้อมือเล็กให้เดินตามกลับเข้าไปในคอนโด แต่อีกฝ่ายก็ไม่คิดจะให้ความร่วมมือ ยื้อตัวเองไว้สุดแรงเท่าที่จะทำได้ช่างแตกต่างกับตอนแรกที่เจอกันซะจริง คืนนั้นแสดงออกชัดเจนว่าอยากจะได้เขามากมายขนาดไหน แต่พอเมาเข้าหน่อยสติเลอะเลือนจนปฏิเสธการฉุดรั้งของเขาขึ้นมาซะแบบนั้น อีกฝ่ายเมาแล้วเขาล่ะเป็นอะไร!(?) ทำไมถึงยังคิดจะพาคนเมากลับเข้าไปในคอนโดให้ได้อยู่อีก “เฮ้ย! ก็บอกว่าไม่ไป โอ๊ะ!?” อิ้งร้องตกใจ เพราะตอนนี้ร่างเขาได้ลอยเหนือพื้นที่ยืนอยู่ไปแล้ว เมื่อคนพี่ตัดสินใจจบปัญหาการยื้อยุดฉุดกระชากนี้ลง ด้วยการจับเด็กที่เมาไม่เหลือสติแบกพาดบ่าเดินกลับเข้าคอนโดให้มันจบๆไป อิ้งเองก็ไม่อยากถูกอุ้มแบกขึ้นบ่าไปแบบนี้หรอก ถ้าดวงตาสองข้างเขาในตอนนี้มันไม่พร่าเลือนซะเหลือเกิน มันมองเห็นไม่ชัดด้วยซ้ำว่าไอ้คนที่แบกเขาอยู่ตอนนี้มันเป็นใคร รู้แค่ว่าแรงเดินก้าวขาแต่ละครั้งของเจ้าของบ่ากว้างมันหนักแน่น มั่นคง ความเร็วเสมอต้นเสมอปลาย และมันกำลังทำให้เขาเวียนหัวอย่างหนัก ถ้ายังลืมตาต่อไปคงโลกหมุนจนอ้วกออกมาแน่ๆ คนเมากะว่าจะหลับตาแค่วูบเดียวเท่านั้นแค่ให้หายเวียนหัว เพื่อให้พอมีสติเพ่งมองได้ว่าใครกันที่มันกล้าอุ้มเขามาแบบนี้! ร่างสูงวางคนเมาที่นิ่งไม่ต่อต้านตั้งแต่อุ้มขึ้นบ่า ลงบนโซฟาตัวยาวในห้องรับแขก เปลือกตาสีอ่อนปิดลงสนิทขนตาเป็นแพกว้างเรียงตัวเป็นเส้นสวยจนผู้หญิงหลายคนยังต้องอิจฉา ลมหายใจสม่ำเสมอและแอบมีเสียงอึกอักในลำคอไม่สบอารมณ์ ตอนที่ถูกวางลงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดู “หึ” คนตัวโตมองภาพเด็กน้อยนอนขดตัวไม่ต่างจากลูกแมว แล้วเผลอผุดเสียงหัวเราะขึ้นมาในลำคอ ตอนตื่นมีสติช่างน่ารำคาญ ไม่ยอมคน เด็ดเดี่ยว พอตอนเมาก็…ไร้พิษสง ไม่หลงเหลือแม้แต่คราบว่าที่ทายาทคาสิโนที่ยืนถือปืนจ่อหัวคนเลยสักนิด คนอย่างมาเฟียยังไงก็คือมาเฟียวันยังค่ำ เขาไม่ได้ดูแลคนเมาที่ตัวเล็กดูแสนจะบอบบางมากอะไร นอกจากวางไว้บนโซฟาแล้วเดินกลับเข้าห้องไปนอน ไม่มีการเสียสละเตียงนอนหรือหาผ้าห่มมาคลุมเรือนร่างเพรียวบาง เขาไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยนใส่ใจผู้คนหรือละเอียดอ่อนแบบนั้น เขามันถูกสั่งสอนและดัดนิสัยมาให้แข็งแกร่งไม่เห็นใจใครทั้งนั้น จุดที่ผู้ชายอย่างเขายืนอยู่ความรู้สึกอ่อนไหวคือจุดอ่อนที่อันตรายที่สุด เพราะเขาพิสูจน์มันมาแล้ว . “อ๊ะ! ปวดต้นคอฉิบหาย” เสียงแหบแห้งสบทกับตัวเองทันทีที่รู้สึกตัวตื่น มือเรียวยกขึ้นนวดบริเวณลำคอ พอตั้งสติได้ก็ลืมตามองพื้นที่ที่ตัวเองขดตัวนอนอยู่ อิ้งก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมถึงตื่นมาปวดคอมากกว่าปวดหัวเพราะแฮ้งค์ ก็ขดตัวนอนบนโซฟาพื้นที่เท่ามดดิ้นแบบนี้นอนสบายก็บ้าแล้ว แต่ตอนนี้มันมีบางสิ่งให้ต้องสนใจมากกว่าอาการแฮงค์ และการปวดต้นคอ คือห้องนี้เป็นห้องของใครกัน แน่นอนว่ามันไม่ใช่ห้องของเขาแน่ แค่กลิ่นฉุน ดุดันเยี่ยงราชสีห์ที่ลอยอบอวลอยู่ทั่วห้องนี่ก็ไม่ใช่แล้ว การตกแต่ง โทนสีและบรรยากาศในห้องนี้ก็แตกต่างจากห้องเขาสิ้นเชิง เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่เห็นตอนนี้มีแต่ของนำเข้าจากต่างประเทศ แทบจะไม่มีชิ้นไหนที่หาซื้อได้ในประเทศนี้เลยด้วย และที่สำคัญ มันไม่ใช่ห้องของซันที่อยู่คอนโดเดียวกับเขาด้วย! เชี่ย! เมาจนไม่มีสติขนาดนี้เลยเหรอวะ!? อิ้งสบทหัวเสียกับตัวเอง คนตัวบางรีบดีดตัวเองให้ลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังลืมตาไม่สว่างดี ดวงตาสีเข้มสอดสำรวจไปทั่วห้อง มือบางก็ฉุดคว้าแจกันใกล้ตัวเข้ามาถือเป็นอาวุธ สิ่งที่อิ้งถูกสอนให้จำมาตั้งแต่เด็กคือเขาห้ามเผลอหรือไว้ใจใครง่ายเกินไป การที่คนตัวเล็กถูกวางตัวให้เป็นทายาทคาสิโนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ มันทำให้คนหลายองค์กรจับจ้อง การอยู่จุดสูงสุดของตระกูลมันไม่ง่ายอย่างที่คิด ภายในห้องชุดสุดหรูมันไม่มีอะไรบ่งบอกถึงเจ้าของได้เลยว่าเป็นใคร แม้แต่รูปสักใบก็ไม่มี อิ้งค่อยๆย่องเบาเข้าไปที่บานประตู ที่เจ้าตัวคิดว่ามันอาจจะเป็นห้องนอน แต่ว่ายังไม่ทันจะได้เปิดเข้าไปแจกันที่ถือแน่นอยู่ในมือก็ถูกยื้อออกไปเสียก่อน มีเหรอที่คนอย่างอิ้งจะเผลอไผลให้อีกฝ่ายแย่งอาวุธออกไปง่ายๆ แต่ยังไม่ทันจะออกแรงยื้อมากเท่าไร อิ้งก็ปล่อยร่างกายให้ไร้เรี่ยวแรงล้มหงายหลังลงไปกับพื้นห้องซะดื้อๆ พรึ่บ! เสี้ยววินาทีที่อิ้งทิ้งตัวลง มาเฟียรีบตามลงมาประคองเด็กน้อยที่ทิ้งตัวล้มอย่างไร้เหตุผลทันที มันสร้างรอยยิ้มของผู้ชนะบนริมฝีปากบางไม่น้อย คนตัวโตอาจจะคิดว่าเขาสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้หรือยังแฮงค์หนักจนหน้ามืด แต่ความจริงแล้วเด็กตรงหน้ามันร้ายกว่าที่มาเฟียคิดไว้หลายร้อยเท่า! “ฮะ..เฮียมา..” คนที่ถูกประคองร่างไว้ทันก่อนจะร่วงสู่พื้นเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาๆ ฝ่ามือนิ่มลากไล้ไปตามบ่ากว้างที่ปกปิดไว้ด้วยชุดคลุมอาบน้ำ แล้วประสานมันไว้ที่ท้ายทอยกำยำ ดวงตาสีเข้มช้อนขึ้นมองคนพี่พร้อมด้วยรอยยิ้มมุมปากนิดๆอย่างผู้ชนะ ย้อนกลับไปตอนที่รู้สึกถึงแรงรั้งแจกันในมือ อิ้งก็เกือบจะหันกลับไปกระแทกท้องอีกฝ่ายด้วยหัวเข่าซะแล้ว ดีที่สมองไร้ประสิทธิภาพเรื่องเรียนแต่คุณภาพเรื่องแรดมันจดจำผู้ชายตัวโตเจ้าของแรงยื้อมหาศาลได้ดี แค่เสี้ยววินาทีสมองเขามันก็สั่งให้หยุดห้ามออกแรงยื้อเด็ดขาด แล้วทำตัวไร้เรี่ยวแรงล้มลงไป นอนกับพื้นให้เขาตามลงมาซะ แล้วก็ค่อย… พรึ่บบ พลิกตัวขึ้นคร่อมซะ! ของแบบนี้ถ้าอีกฝ่ายไม่เริ่ม เราก็ต้องเริ่ม มันถึงจะได้! “ไม่คิดว่าลืมตาขึ้นมาแล้วอิ้งจะเจอเฮียมาใน…..” อิ้งเว้นวรรคคำพูดด้วยสายตาซุกซน มันเริ่มสำรวจร่างกายหนัดแน่นที่ตนเองคร่อมทับอยู่ รอยแยกหมิ่นเหม่ของชุดคลุมช่วงต้นขามันทำให้มือเรียวรู้สึกคันยุบยิบ อยากจะไปแหวกมันออกมาสำรวจให้สิ้นซากว่ามีอะไรซ่อนอยู่ จะมาโผล่ให้เห็นครึ่งๆกลางๆกันทำไม!!(?) “ออกไป” เสียงเรียบไร้อารมณ์ร่วมดังขึ้น พร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่ผลักร่างบางให้หลุดพ้นออกไปจากตัว “ที่ผลักเพราะไม่รู้สึกหรือกลัวจะรู้สึกครับเฮียมา” คำพูดของคนที่เพิ่งโดนผลักไม่ได้ทำให้มาเฟียรู้สึกอะไรแม้แต่น้อย ร่างสูงแค่ยืนขึ้นจัดชุดคลุมที่สวมอยู่ให้มันเรียบร้อยแล้วหันหลังเตรียมเข้าห้อง แต่ก่อนจะเดินเข้าไปก็ยังไม่วายทิ้งคำพูดแสนจะเย็นชาให้กับเด็กด้านหลัง “ผมไม่เอาคนอย่างคุณหรอก อย่าเสียเวลาเลย” “ไม่เอาแต่พามาที่ห้องตอนเมาเนี่ยนะเฮีย เหตุผลไม่ค่อยน่าเชื่อเลยนะครับ” อิ้งหลุดขำออกมาเบาๆ ก่อนจะพูดเชือดเฉือนกลับไป คำพูดของคนตัวเล็กไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายไขว้เขวสักนิด แถมยัง…ตอกกลับได้เจ็บแสบไร้ความรู้สึกเหมือนเคย “มันเกะกะ รำคาญตาเฉยๆ” คำพูดของมาเฟียทำคนขี้หงุดหงิดเริ่มจะหัวร้อนกรุ่นๆ จากที่เคยยืนพูดอยู่ด้านหลังก็แทรกกายมายืนเผชิญหน้า “รำคาญตาที่ไม่ได้เห็นใกล้ๆมากกว่ามั้งครับ” อิ้งพูดแล้วเชิดใบหน้าเรียวขึ้นด้วยความมั่นใจ ก้านนิ้วเรียวสวยยกขึ้นจรดที่เม็ดกระดุมเสื้อนักศึกษา แล้วเริ่มปลดมันออกทีละเม็ดอย่างช้าๆ เพราะตั้งใจจะยั่วให้อีกฝ่ายอดรนทนไม่ไหว พุ่งเข้ามาฉีกกระชากเสื้อเขาให้หลุดกระเด็นไปคนละทิศละทาง แต่…นอกจากมาเฟียจะไม่เข้ามาฉีกทึ้งอย่างที่คิด เขายังมองมันด้วยสายตาน่าเบื่อน่ารำคาญไร้เสน่ห์ให้เข้าหา ดวงตาคมกดตามองที่เนินเนื้อขาวช่วงอก มันค่อยๆเผยออกมาให้เห็นทีละนิดตามจำนวนกระดุมที่ถูกปลด แล้วเสสายตามองไปทางอื่นอย่างเบื่อหน่าย ทั้งๆที่ใครต่อใครก็อยากจะชื่นชมเรือนร่างบอบบางของทายาทคาสิโนกันทั้งนั้น! “เรือนร่างคุณมันไม่ได้น่ามองสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนอย่างผม” “แล้วรู้ไหมครับว่ายิ่งไม่อยากมองยิ่งอยากทำให้มอง เรื่องเอาชนะอิ้งเก่งมากเผื่อเฮียมายังไม่รู้” อิ้งยังคงจีบปากจีบคอตอบกลับไปลดละ เขาไม่เชื่อหรอกว่ามาเฟียจะไม่อยากมองร่างกายเพรียวบางสัดส่วนถนัดมือของเขาขนาดนี้ “แต่ผมไม่อยากรู้” ชิส์! สุดท้ายคนตัวบางก็ต้องจิ๊ปากขึ้นมาเสียงดังด้วยความไม่พอใจ เหมือนเขากับผู้ชายตรงหน้ากำลังคุยกันละเรื่องเลย ทั้งๆที่บทสนทนามันก็เป็นเรื่องเดียวกันแต่ทำไมฟังแล้วคุยกันไม่รู้เรื่องยังงี้ล่ะ “ก็พูดอยู่นี่ไงว่าอยากให้รู้” เพราะถูกตามใจมาตั้งแต่เด็กและเป็นผู้ชนะถือไพ่เหนือคนอื่นมาตลอด อิ้งเลยอดทนกับอะไรที่ขัดใจมากๆได้ไม่นาน แม้แต่เฮียมา เฟียที่เขาอยากได้นักหนายังเผลอขึ้นเสียงแสดงอาการไม่สบอารมณ์ใส่ มือเรียวยกขึ้นเท้าสะเอวหลังจากขึ้นเสียงเข้มใส่อีกคน แต่ก็ค้างอยู่แบบนั้นได้ไม่นาน เมื่อเห็นสายตาตำหนิของคนพี่ที่มองมาอิ้งก็สลดลงแทบจะทันที ผู้ชายตรงหน้าไม่ได้พูดอะไรออกมาเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่น่ารักหรือน่าเอ็นดูของอีกฝ่าย มีแค่สายตาคมเข้มตวัดมองมายังมือที่เท้าเอว แล้วไล่ขึ้นมาสบกับดวงตากลมด้วยใบหน้าเรียบตึงยิ่งกว่าครั้งไหน มาเฟียทำเพียงเท่านี้ร่างกายเพรียวบางก็ลดมือลงมาวางข้างลำตัวอัตโนมัติ จู่ๆคนที่ไม่เคยคิดจะรู้สึกผิดหรือกลัวอะไรมาก่อนกลับใจหล่นวูบ กับสายตาไร้ความรู้สึกที่มาพร้อมใบหน้าเรียบตึง ความรู้สึกเหมือนเพิ่งโดนตำหนิเป็นครั้งแรกและกำลังรู้สึกกลัวถูกลงโทษอยู่กลายๆถ้าหากยังยืนอยู่ในท่าเดิม อิ้งหลบตามาเฟียทันทีที่เริ่มรู้สึกแบบนั้น คล้ายเด็กกำลังหลบหนีความผิด “กลับไปซะ” “คอยดูนะ อิ้งจะทำให้เฮียจำอิ้งจนลืมไม่ลงเลย” ร่างบางพูดพร้อมกับเร่งติดกระดุมเสื้อไปด้วย ใบหน้าเรียวกลับมาเชิดหน้าสบตากับคู่สนทนาอีกครั้ง ดวงตาสีเข้มมีแต่ความมั่นใจไม่ต่างกับท่าทีมั่นอกมั่นใจที่เป็นเอกลักษณ์ประจำกาย ที่เห็นตั้งแต่ที่คลับก็จำได้มาถึงวันนี้ “จำไว้เลยว่าอิ้งอยากได้เฮียอิ้งก็ต้องได้ แล้วสักวันเฮียก็ต้องอยากได้อิ้ง อยากได้จนจะคลั่งตายด้วย”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม