“นิสสาคุณเข้ามาหาผมในห้องหน่อย”
เสียงแข็งกร้าวตะโกนออกมาจากห้องนอนที่อยู่ภายในตัวห้องทำงาน คนตัวเล็กสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“คะ...ท่านประธาน”
น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้น นิสสาก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่กำลังเปลือยกายท่อนบน เห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ชวนมอง
“ไปเอายามาทาให้ผม พองหมดเลยคุณดูนี่”
นิ้วชี้ของคามินชี้ไปที่หน้าท้องที่มีซิกแพค มันเป็นรอยแดงจากการโดนของร้อนๆ หกใส่ เธอทำเขาเจ็บตัวขนาดนี้เลยหรือนี่ สายตาคู่สวยมองหากล่องเครื่องมือปฐมพยาบาล มันอยู่บริเวณชั้นวางของ หญิงสาวเดินเข้าไปหยิบมันมาแล้วพาตัวเองมาหยุดอยู่ตรงหน้าคามิน ยืนมองนิ่งราวกับถูกสาป
“จะมองให้มันหายรึยังไง ทาสิ!!”
“ให้นิสสาเป็นคนทาเหรอคะ”
“ก็ใครเป็นคนทำล่ะ คุณไม่ใช่เหรอ!!”
มือหนาเชยคางมนให้หน้านิสสาเชิดขึ้นมามองหน้าเขา สายตาคู่สวยสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เมื่อถูกแววตาแข็งกร้าวจ้องมองอย่างเอาเรื่อง เธอไม่เคยรู้สึกกลัวผู้ชายคนไหนเท่าคามินมาก่อนเลย แต่ทว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้จะต้องไม่สูญเปล่า เขาอาจจะรับเธอเข้าทำงานก็ได้ในเมื่อเขาให้โอกาสเธอเข้ามาดูแล รักษาบาดแผลถึงข้างในพื้นที่ส่วนตัว ที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้ามาเลยแม้แต่คนเดียว
“ทายาให้ผม”
พูดจบนิสสาก็ค่อยๆ บรรจงใช้มือข้างขวาบีบยาออกจากหลอดแล้วค่อยๆ บรรจงทามันทีละนิด ทีละนิด จนทั่วทุกตารางนิ้ว นิ้วเรียวสัมผัสหน้าท้องที่แข็งแกร่งทำให้เธอใจวาบหวิวอย่างห้ามไม่ได้
“เจ็บไหมคะ”
“อืม”
สายตาคมจ้องมองหญิงสาวที่กำลังบรรจงแต้มยาแก้อักเสบให้เขาอยู่ ความจริงเขาควรไล่ตะเพิดเธอออกไปจากห้องตั้งแต่ทำกาแฟหกใส่เขาแล้วเสียด้วยซ้ำ แต่ทำไมเขากับไม่ทำ คามินไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“เบาๆ หน่อย”
“ค่ะ”
“ท่านประธานจะไล่นิสสาออกไหมคะ”
“..........”
คำถามนี้ทำคามินนิ่งไปครู่หนึ่ง จนนิสสาต้องเงยหน้าขึ้นมามองหน้าคนที่อยู่ด้านบน ในใจเธอกลัวคำตอบว่า “ฉันไล่เธอออก” มากๆ เลย คนตัวเล็กทำตาปริบๆ มองหน้าคามินหวังให้เขาเห็นใจ
“ไม่”
ผิดคาดเธอไม่ถูกไล่ออก รอยยิ้มของนิสสาฉีกกว้างเกือบถึงใบหู เธอจับมือของคามินขึ้นมาแนบที่แก้มนวลแล้วบิดไปบิดมาอย่างลืมตัว จนเจ้าของมือถึงกับมองตาขวาง แล้วค่อยๆ ดึงมันออกจากมือของนิสสา เธอรู้สึกหน้าชาไปเลยทีเดียว ความโก๊ะของเธอมันทำให้เธอเกือบซวยอีกแล้ว
“ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะ”
“แฮร่ๆ ...ดีใจจนลืมตัวค่ะ ขอโทษนะคะท่านประธาน”
พูดจบเธอก็หยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวที่วางอยู่ปลายเตียงมาสวมให้คามิน กระดุมถูกติดทีละเม็ด ทีละเม็ด อย่างรู้งาน สายตาทั้งสองเชื่อมประสานจ้องมองกันเป็นหนึ่ง คามินยังคงอดสงสัยไม่ได้ว่า แววตาแบบนี้เขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน เขาพยายามจ้องมองลงลึกเข้าไปข้างในด้วยความสงสัย แต่หาคำตอบเท่าไรก็ไม่ได้เสียที
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
เสียงเล็กน่ารักของนิสสาเอ่ยขึ้นหลังจากเธอติดกระดุมเม็ดสุดท้ายเสร็จ มือหนาคว้ามือเรียวมาจับไว้ ก่อนที่จะยื่นหน้าเข้าไปหาเธอ ลมหายใจอุ่นๆ พ่นลดจมูกของอีกฝ่าย จนนิสสารู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง “นี่เขากำลังจะทำอะไร” นิสสาหลับตาปี๋ทันที
“หลับตาทำไม”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกเอ่ยถามนิสสาที่อยู่ๆ เธอก็หลับตาใส่เขา
“ก็...ท่านประธานจะจูบนิสสา....”
“อะไรนะ!!...ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณ”
โทนเสียงเคร่งขรึมเอ่ยขึ้น ก่อนที่คามินจะพาตัวเองออกมาจากห้องนอนเล็กๆ ที่อยู่ภายในห้องทำงานและมานั่งลงบนเก้าอี้ทำงานตัวหรู คามินสะบัดความคิดฟุ้งซ่านกับเรื่องบ้าๆ เกี่ยวกับนิสสาออก แล้วหันมาโฟกัสกับกองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า คืนนี้เขาคาดว่าจะต้องได้นอนค้างที่นี่เป็นแน่
“ไปทำงานได้แล้ว ผมให้คนเตรียมโต๊ะไว้ให้คุณแล้ว วันนี้อยู่ทำโอทีด้วย”
คำสั่งประกาศิตเอ่ยออกมาจากปากของคามิน นิสสาพยักหน้ารับคำอย่างรู้สึกงงๆ ทำโอที ทำอะไร ยังไง มีงานอะไรให้เธอทำบ้าง เธอคงต้องรีบเรียนรู้งานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะดูเหมือนว่าเจ้านายคนนี้ช่างเอาแต่ใจเสียเหลือเกิน
“มาดเข้มดีนัก เดี๋ยวจะทำให้รักให้ได้คอยดู”
นิสสาบ่นพึมพำอยู่คนเดียว ก่อนที่จะเดินย่างกายออกไปจากห้องทำงานของคามิน โต๊ะทำงานที่ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมกับเอกสารกองโตที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ นิสสาหยิบเอกสารขึ้นมาอ่านทีละแฟ้ม ทีละแฟ้ม ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัททั้งหมดเท่าที่จะทำได้ เธอหมกมุ่นอยู่กับเอกสารกองโตจวบจนเวลาล่วงเลยมาเกือบสองทุ่ม
คนตัวเล็กยกแขนซ้ายขึ้นมาดูนาฬิกาในข้อมือ เธอเห็นมันค่อนข้างที่จะมืดแล้วเลยเตรียมตัวจะกลับบ้าน เพราะในชั้นที่เธอทำงาน ตอนนี้ไฟปิดหมดแล้ว เหลือเพียงห้องท่านประธานและโต๊ะทำงานของเธอ และมีเพียงไฟกลางทางให้แสงสลัวๆ ไม่ชัดมาก
“ยังไม่กลับอีกเหรอครับ”
เสียงฝีเท้าเก้าเดินเข้ามาหาเธอทำให้นิสสาต้องเงยหน้าขึ้นมามอง เป็นเหมันต์ที่ยืนจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาเป็นประกายหวานหยาดเยิ้ม รอยยิ้มเล็กๆ ของนิสสาทำให้หัวใจของเหมันต์ฟองโตขึ้นมาทันที
“กำลังจะกลับค่ะคุณเหมันต์”
เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับเตรียมเก็บเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะ
“ผมนึกว่าคุณจะโดนเจ้าคามินมันไล่ออกไปแล้วซะอีก ฮ่าๆ”
นิสสายิ้มแหยขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำนั้น เธอก็คิดไว้เหมือนกับเหมันต์ไม่มีผิด แต่ดันผิดคาดที่คามินไม่ไล่เธอออก ถ้าเป็นคนอื่นคงโดนตะเพิดไปแล้ว
“ไปครับเดี๋ยวผมเดินไปส่ง”
“ใครให้คุณกลับ ผมยังไม่ได้บอกให้คุณกลับเลยนะนิสสา”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลังของนิสสา เป็นคามินที่เดินออกมายืนอยู่ด้านหลังนิสสาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้สีหน้าแววตาเขาดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“นิสสาเห็นว่ามันดึกแล้ว แล้วอีกอย่างก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้วด้วยค่ะ”
คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะโดนกลั่นแกล้งไม่ให้กลับบ้านในเวลานี้
“เอกสารในห้องผม คุณเห็นไหมกองบานเลย ช่วยไปเคลียร์ด้วย”
คามินพูดพลางเหลือบสายตาไปที่ห้องของเขา มือหนาคว้าข้อมือเรียวขึ้นแล้วลากเข้าไปในห้องทำงานราวกับว่าไม่อยากให้เธออยู่เสวนากับเหมันต์ อยู่ๆ เขาก็อยากกันท่าเพื่อนตัวดีขึ้นมาเสียอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะเขาหลงรักเธอหรอกนะ แต่เป็นเพราะงานเขายังไม่เสร็จต่างหาก
“เฮ้ยๆ แบบนี้ก็ได้เหรอวะ”
คามินไม่ได้สนใจคำพูดของเหมันต์แม้แต่นิดเดียว เขาลากนิสสาเข้ามาในห้องแล้วจัดการล็อกกลอนประตูเพื่อไม่ให้เหมันต์เข้ามาวุ่นวาย
“อ่ะ...งานที่คุณต้องทำ ส่วนผมขอตัวพักผ่อนก่อนนะ”
พูดจบคามินก็สาวเท้าก้าวเดินเข้าไปในห้องนอนทันที ปล่อยให้นิสสายืนเอ๋ออยู่อย่างนั้น เอกสารกองโตที่อยู่บนโต๊ะทำงานของคามินถูกนิสสาค่อยๆ เก็บงานทีละนิดทีละหน่อย จนเวลาล่วงเลยเกือบจะห้าทุ่มกว่าๆ เข็มนาฬิกาเดินไปเรื่อยๆ แต่เธอก็ยังคงต้องทำงานต่อไปเพราะนี่คือหน้าที่ของเลขาฯ อย่างเธอ
“เย้!!...ในที่สุดก็เสร็จสักที”
“เชี่ย!! จะเที่ยงคืนแล้ว กลับบ้านยังไงวะเนี่ย”
นิสสาลืมไปเสียสนิทว่าเธอขึ้นรถแท็กซี่มา ใจเธอตุ๊บๆ ต่อมๆ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก มีหนทางเดียวก็คือ ต้องให้ท่านประธานของเธอไปส่งที่บ้านเท่านั้น เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ เขาต้องรับผิดชอบ
นิสสาค่อยๆ ก้าวเดินเข้าไปใกล้ๆ ห้องนอนของคามิน มือข้างขวาของนิสสาจับลูกบิดประตู แล้วค่อยๆ เปิดมันออก เขานอนหลับอยู่ เธอถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจะทำอย่างไร จะให้ปลุกท่านประธานจอมโหดขึ้นมาจากภวังค์มีหวังต้องโดนฟันเละเป็นโจ๊กแน่ๆ
นิสสารวบรวมความกล้า ดันประตูเข้าไปแล้วแทรกตัวผ่านช่องแคบๆ ที่เธอแง้มประตูเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง นิ้วเรียวค่อยๆ สะกิดที่ตัวของคามินหวังจะปลุกให้เขาตื่น แต่เธอต้องตกใจเมื่อท่อนแขนแกร่งโอบรัดร่างบางรวบตัวของเธอเข้าสู่อ้อมอก คามินนอนกอดก่ายเธอราวกับว่าตัวเธอเป็นหมอนข้าง นิสสาพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่ดูเหมือนว่าจะพยายามเท่าไรก็ไร้ผล