1 - หลงทางกลางใจ
กำลังค้นหาผลการค้นหา...
ไม่พบผลการค้นหา
“อะไรวะเนี่ย”
ชายคนหนึ่งกำลังค้นหาอะไรบางอย่างในหน้าเว็บไซต์หน้าแรกบนโลกอินเตอร์เนต มันไม่ใช่เสิร์จเอ็นจิ้นที่ทุกคนนิยมใช้งานกันทั่วโลกแต่เป็นเบราเซอร์พิเศษที่ถูกคนบางกลุ่มคิดค้นมาเพื่อใช้งานโดยเฉพาะและถูกกฎหมายทั่วทุกมุมโลก เมื่อค้นหาแล้วไม่เจอทำให้ผู้ชายคนนี้หงุดหงิดในเวลาจริงจังไม่น้อยเพียงเพราะต้องการเติมส่วนทางใจที่หายไป
ผมชื่อนอร์ท ผู้ชายหน้าเห่ยไม่ได้หล่อเหมือนดารา แต่คนส่วนใหญ่บอกว่าผมหน้าตาคล้ายศิลปินลูกทุ่งที่ดังอยู่ตลอดเวลา แถมยังหน้าเหมือนแรปเปอร์ด้วย ผูกผ้าคาดหัวลายดาว ถือว่าดูดีระดับหนึ่ง ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบทำอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลาแต่ไม่ถึงขั้นเสี่ยงตาย เพราะการเรียนรู้คือสิ่งที่มีให้ตลอดชีวิตไม่มีสิ้นสุด ผมถึงอยากทำอะไรในชีวิตให้ดีขึ้น ถึงแม้ว่าผมจะชอบทำอะไรใหม่ ๆ ท้าทายทุกเรื่องแต่เรื่องเดียวที่ผมทำไม่ได้คือ
เรื่องความรัก...
ยิ่มผมพูดน้ำตาผมยิ่งไหลเพราะมันเป็นเรื่องเดียวที่ผมไม่สามารถทำได้เลยในชีวิต ถ้ามันง่ายเหมือนค้นหาบนกูเกิ้ลเจอภายในห้าวินาที ผมใช้มันแทนพระแม่ลักษมีผู้ที่จะตกงานเพราะโลกออนไลน์นี่แหละ ผมล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมผมถึงยังไม่มีความรักกับเขาเสียที แต่มันก็ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวหรอกแต่ตัวตนผมร้องคำว่าเหงามานานแล้ว
“ทำไมกูไม่มีแฟนสักทีเนี่ย”
ผมไม่รู้ว่าหน้าตาผมพื้นดวงหรือพื้นหน้ามีปัญหา ขนาดมีคนแนะนำให้ผมไปเสิร์ชหาความรักในเว็บไซต์ยังหาให้ผมไม่ได้เลย หรือว่าผมต้องเสี่ยงดวงไปขอพรให้พระแม่ลักษมีช่วยความรักให้ผมสมหวังสักที จะได้ไม่ต้องมานั่งรอให้ร่างกายมีรากงอกอย่างไม่มีค่า
แต่ว่าเว็บไซต์นี้มันใช้ได้จริงอย่างนั้นเหรอ...
หลายวันก่อน
นอร์ทชื่อของผมแปลว่าทิศเหนือ แสดงว่าจะเป็นคนที่ทำอะไรเหนือโลกกว่าคนอื่นและทำในเรื่องที่ดีต่อมนุษยชาติ ผมเป็นคนทำงานอยู่ตลอดเวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ อาชีพที่ผมทำถือว่าแปลกใหม่ท้าทายดีคือการลงทนด้วยเม็ดเงิยน้อยนิด ได้ผลกำไรกลับมามาก ได้กี่บิตคอยด์ลงทุนไม่มากแต่ได้ผลกลับมาดี แล้วอีกอย่างผมทำงานให้เสี่ยผู้เป็นที่รัก แต่ผมยอมรับว่าผมทำงานในทางที่ดีไม่ใช่ทำงานสีดำพร้อมโดนตำรวจพาไปห้องกรง ในประเทศนี้ถือว่าถูกกฎหมายแต่กฎแห่งกรรมยิ่งถูกกฎหมายกว่า
ผมอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นร้านโปรดที่ผมกับเพื่อนรักอย่างหยดน้ำ ผู้ชายหน้านิ่งปากอมชมพูตัดสกินเฮดดูแล้วเป็นผู้ชายแบดบอยใส่ต่างหูดูดีในสายตาผม รูปลักษณ์ภายนอกเขาดึงดูดบวกกับนิสัยใจคอทำให้ผมเข้าขากันได้ดีมาก
ผมกับเขานั่งอยู่ในร้านอาหาร ระหว่างรอผมก็หยิบอุปกรณ์คู่ใจออกมาทั้งโทรศัพท์และโน๊ตบุ๊คทำตัวเหมือนคนพร้อมทำงานตลอดเวลา อยู่กับหน้าจอทั้งวันทั้งคืนจนเพื่อนผมยังแซวเลยว่าผมกำลังทำงานแข่งกับตัวเองไม่ห่วงสุขภาพหรือไง มันบอกผมว่าผมจะกินหุ้นกินบิตคอยด์แทนข้าวไปแล้ว มันก็ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย ผมอยากให้การลงทุนไม่ต้องมีความเสี่ยงมากแต่ถ้าหัวใจผมพร้อมเสี่ยงลงสนามไม่คิดใจพร้อมเจ็บอยู่แล้ว
“มึงจะเทรนหุ้นอยู่นั่นแหละ ข้าวปลาไม่แดกสักที”
หยดน้ำเริ่มหมั่นไส้กับความข้าวปลาไม่กินจะกินหุ้นกับบิดคอยด์ให้ได้ ผมล่ะไม่เข้าใจเพื่อนผมเลยเพราะมันชอบอะไรที่เป็นเม็ดเงินเกินไปเหรอ แม้ว่าเงินจะเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดแต่ว่าถ้าสนใจมันมากไปจนไม่สนใจสิ่งจำเป็นกว่าผมว่านอร์ทอาจจะพลาดอะไรดี ๆ ในชีวิตไปนั่นคือความรักที่ใครคนหนึ่งอาจเดินเข้ามาไม่รู้ตัว
“ไม่รู้สิ หน้าตาแบบกูใครจะเข้ามาชอบ”
“คิดแบบนี้ไง คนถึงไม่ยอมเข้าหามึง หน้าตามึงเหมือนนักร้องลองทำเงาเสียงหรือหน้าตาเหมือนเขาสิ อาจจะดังจนผู้ชายเข้ามาชอบมึงก็ได้” ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่มันพูดมาคือมันแนะนำหรือประชดผมกันแน่ หน้าตาผมเหมือนศิลปินลูกทุ่งคนหนึ่งหรือไง แต่ว่าผมหล่อไม่แพ้เขานะครับ หน้าตาดีคารมดีและไม่มีข่าวฉาวด้วย
“ได้ข่าวว่ามึงมีความฝันอยากไปดูแสงเหนือเหรอ”
ผมได้ยินหยดน้ำพูดกับผมด้วยความใส่ใจ ผมเคยบอกเขาแล้วว่าผมอยากไปดูแสงเหนือไอซ์แลนด์ มันเป็นความฝันของผมที่ผมหวังไว้มานานแล้ว ทุกอย่างพร้อมหมดยกเว้นคนที่ผมอยากพาไปด้วยเท่านั้นเอง คนที่รู้หัวใจผมก็ยังหาไม่เจอแล้วแบบนี้ใครจะทำให้ผมดูแสงเหนืออย่างสบายใจได้ล่ะ ไปดูคนเดียวมันไม่ได้บรรยากาศเลย ผมอยากมีแฟนจะได้ชวนไปดูแสงเหนือก่อนดาวหางฮัลเล่ย์ก็ยังดี
“ก่อนมึงไปดูแสงเหนือ ไปดูดาวหางฮัลเล่ย์ก่อนดีกว่าไหม”
ผมแนะนำว่าชีวิตนี้ผมอยากให้ผมและนอร์ทได้เห็นดาวหางฮัลเลย์สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะมันจะโคจรมาเจ็ดสิบปีต่อครั้งเท่ากับอายุคน ๆ หนึ่งเลยก็ว่าได้ ถ้าใครโชคดีเกิดในช่วงดาวหางโคจรมาจะโชคดีและเป็นตัวแทนของการรอคอยความรักจากใครสักคน
“กูกับมึงรอจนแก่ ดาวหางฮัลเลย์ได้ดูทันอยู่แล้ว แต่จะตายเร็วเพราะปากมึงชอบเผือกเรื่องชาวบ้านไง”
“อ้าวไอ้เวรนี่...”
นอร์ทพูดแบบนี้ไม่แปลกที่มันไม่มีแฟนสักที ปากสุนัขแบบนี้ถึงได้ไร้คู่จนแก่ตาย ขนาดนกเขาไพรในเพลงสุนทราภรณ์ยังมีคู่เลยแล้วมันเป็นใครทำไมถึงไม่มีคู่ เพราะนิสัยและความไวของปากแบบนี้ไง
“จะว่าไปทำไมอากาศรอบข้างหนาวจังวะ...”
ผมกับนอร์ทรู้สึกว่าทำไมอากาศรอบข้างมันหนาวจนผมสัมผัสได้ว่าบริเวณโดยรอบคือขั้วโลกเหนือมากกว่าอยู่ในประเทศเขตร้อย ปกติเครื่องปรับอากาศไม่ได้หนาวขนาดปรับยี่สิบองศายังไม่หนาวจนน้ำในแก้วจะแปรสภาพเป็นน้ำแข็งแล้ว
“พวกนายย”
ผมและนอร์ทตกใจเมื่อเพื่อนรักอีกคนวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในร้านอาหาร ไม่สนสี่สนแปดว่าอากาศในร้านหนาวขนาดไหนจนผมกับนอร์ทกอดตัวเองแทนคนรักแล้ว ปอแก้วมันมีเรื่องอะไรถึงได้วิ่งตาตื่นพร้อมโทรศัพท์คู่ใจของมันมาด้วย ทำเหมือนวันนี้โลกจะคราวอวสานไปได้
“กูมีอะไรจะบอก...”
“ก่อนมึงจะบอก ไม่หนาวเหรอวะ” นอร์ทนั่งอยู่ในร้าน ผมกอดตัวเองจนไม่หาคนรักมากอดแล้ว ผมไม่รู้ว่าทำไมบรรยากาศในร้านมันหนาวเกิกว่ามนุษย์ในประเทศนี้จะอยู่ได้ ผมพูดกับปอแก้วมันก็มองหน้าผมก่อนจะแตะหูฟังของมัน มันเป็นจังหวะบังเอิญเกินไปหรือเปล่าที่ลมหนาวหายไปกลับมาเป็นปกติราวกับสั่งงานด้วยเสียงและปุ่มกด
“แปปนึงนะ ทำไมลมหนาวหายไปไวจังวะ”
“ก็ดีแล้วนอร์ท หนาวจะตายละ” หยดน้ำเห็นว่าอุณหภูมิในร้านกลับมาปกติแล้ว ผมมองดูถึงกับขนลุกเพราะไม่รู้มันมาจากไหนแล้วเราสองคนรู้สึกได้แค่พวกเราเหรอ ทำไมปอแก้วไม่รู้สึกเลย
“เห้ย ปอแก้วหูฟังมึงแปลกดีนะ”
นอร์ทเห็นปอแก้วใส่หูฟังแปลกกว่าคนอื่น ผมไม่เคยเห็นมาก่อนมันเป็นหูฟังแถบแม่เหล็กสีดำ มีขั้วเอ็นและเอสไว้ ผมคิดว่ามันคือแม่เหล็กมาเสมอแต่มันเป็นหูฟัง มันเหมือนจริงจนผมคิดว่าเป็นแบบนั้น ผมเห็นแล้วแปลกตาอยากลองใส่แต่ปอแก้วหวงมาก บอกว่าของแบบนี้ติดตัวไม่อยากเอาออก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรแค่แปลกตาและแปลกกับสิ่งที่ผมสัมผัสได้ มันน่าแปลกนะที่ปอแก้วอยู่ที่ไหนผมจะได้รับความเย็นเสมอ ราวกับเขาเป็นลมหนาวจากขั้วโลกเหนือเคลื่อนที่ได้ ชีวิตเขาเครื่องปรับอากาศคงไม่จำเป็นสำหรับเขา
“ว่าแต่มึงมีเรื่องอะไร ดูตื่นเต้นมากเลย”
“กูคิดว่า MR. NORTH POLE มีอยู่จริง...”