INTRO | เด็กมีปัญหา
ณ โรงเรียนนานาชาติชื่อดังแห่งหนึ่ง
ในวันจบการศึกษา grade 12
“เรียนจบวันนี้แล้วพวกเธอยังหาเรื่องตบตีกัน ตั้งแต่ grade 10 จนถึง grade 12 จะมีสักครั้งมั้ยที่กลุ่มของเธอสองคนคุยกันดีๆ”
บรรยากาศภายในห้องฝ่ายปกครองเงียบสนิท ไม่มีใครปริปากพูดอะไร มีเพียงหัวหน้าฝ่ายปกครองที่กำลังอบรมสั่งสอนพวกเราอยู่
ฉันมองไปที่ฮาน่าศัตรูหมายเลขหนึ่ง เธอก็มองหน้าฉันเหมือนกัน ทั้งฉันและมันต่างจ้องกันตาเขม็งอย่างไม่มีใครยอมใคร
“เมเบล ฮาน่า นี่ในห้องปกครองเธอสองคนยังไม่สำนึกอีกหรือไง!!”
“มันหาเรื่องหนูก่อนนะคะ” ฮาน่ารีบพูดแก้ตัว
“อีตอแหล” ฉันใช้เท้าทีบเอ้าอี้ที่ฮาน่านั่งจนเธอหงายท้องไปก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งคร่อมบนตัว แล้วตบหน้าเพื่อสั่งสอนคนตอแหลอย่างมัน
ฉันไม่เคยหาเรื่องใครก่อน แต่ทำไมคนอื่นถึงชอบหาเรื่องฉัน ตั้งแต่ย้ายมาเรียนที่นี่มันก็เหมือนกับว่าฉันตกนรกทั้งเป็น
ทุกคนต่างดูถูกที่เห็นว่าฉันเป็นเพียงลูกเลี้ยงของนักธุรกิจชื่อดัง ‘คุณป๋าหิรัญ’ ทุกคนต่างมองเหมือนว่าฉันเป็นตัวประหลาด แล้วยังไงฉันต้องยอมถูกคนอื่นรังแกหรือไง
“เมเบลหยุดก่อน เดี๋ยวเรื่องก็ถึงหรูคุณอาหิรัญหรอก แกอยากตายหรือไง” เอวาเพื่อนสนิทของฉันรีบมาดึงตัวฉันออกจากฮาน่า จากนั้นครูฝ่ายปกครองก็มาแยกตัวฮาน่าออกไป
“เรื่องนี้คงต้องถึงหูคุณหิรัญ” ครูฝ่ายปกครองพูดขู่ และฉันก็ไม่สนใจ อยากจะฟ้องก็ฟ้องไป
“หนูกลับได้แล้วใช่มั้ยคะ สวัสดีค่ะ” พูดจบฉันก็ยกมือไหว้จากนั้นก็ดึงเอวาออกมาจากห้องปกครอง
“เมเบลแกใจเย็นๆ ก่อนนะฉันรู้ว่าพวกนั้นมันยั่วโมโหแก แต่แกจะไปตามเกมมันตลอดแบบนี้ไม่ได้” เอวามักจะเตือนสติฉันทุกครั้งที่ฮาน่ามาหาเรื่อง แต่ด้วยความที่ฉันเป็นคนที่มีความอดจนต่ำจึงระงับความโกรธไว้ไม่ได้
“เป็นไงบ้างวะ จัดอีกแล้วหรอเมล” ฟาร์นที่ยืนรออยู่ที่หน้าห้องปกครอง พอเห็นฉันกับเอวาเดินออกมาก็รีบวิ่งมาถามไถ่ทันที
ฟาร์นเป็นเพื่อนสนิทอีกคนของฉัน มันจะชอบเรียกฉันว่าเมล ทั้งที่ชื่อของฉันคือเมเบล มีแค่สองคนนี้แหละที่ไม่เคยดูถูกและเป็นเพื่อนเล่นกับฉันมาตั้งแต่เด็กๆ
“หลังจากวันนี้ไปฉันคงไม่เจอพวกมันอีก !!” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ
ถึงภายนอกฉันจะเป็นคนแข็งกร้าว ไม่ยอมใคร แต่ลึกๆ แล้วฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ฉันมีความรู้สึก...
“กะ แกนั่นรถคุณอาหิรัญหรือเปล่า” เอวาชี้ไปยังรถสปอร์ตคันครูที่จอดรออยู่ไม่ไกลซึ่งนั่นก็คือรถของคุณป๋าจริงๆ
ข่าวไปถึงเร็วดีหนิ!!
“กลับก่อนนะ พรุ่งนี้เดี๋ยวฉันไปหาที่บ้าน” ฉันโบกมือลาเอวา และฟาร์น พรุ่งนี้เรามีนัดคุยกันเรื่องที่จะไปเรียนมหาวิทยาลัยไหนดี ตอนนี้ยังตกลงกันไม่ได้เลย
ฉันเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถคันหรูตรงเบาะด้านหลังมีคุณป๋านั่งอยู่แล้ว ส่วนฉันก็เข้าไปนั่งข้างๆ กับคุณป๋า ไม่ได้กลัวว่าจะถูกต่อว่าเรื่องที่มีปัญหากับเพื่อนที่โรงเรียน เพราะนี่มันไม่ใช่ครั้งแรก
ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศกระทบผิวเนื้อทำให้รู้สึกเย็นวาบ มือหนาของคุณป๋าจับปลายคางของฉันให้หันไปประจันหน้ากับตัวเอง
“ครั้งนี้มีเรื่องกับใครอีก ?” คุณป๋าถามเสียงเย็นแล้วใช้นิ้วหัวแม่มีกดลงมาที่แผลตรงมุมปากของฉัน ซึ่งฉันก็ไม่ได้แสดงท่าทางเจ็บปวดอะไรออกมาให้คุณป๋ารับรู้ ทั้งที่จริงแล้วมันเจ็บ
“ต้องบอกด้วยหรอคะ คิดว่าคุณป๋ารู้แล้วซะอีก” ฉันตอบเชิงประชด
“ฉันถามให้เธอตอบ ไม่ใช่ถามให้เธอย้อนมาถามฉัน” คุณป๋าพูดเสียงเข้มก่อนจะบีบปลายคางแน่น
“กับฮาน่าค่ะ”
“เมื่อไหร่เธอจะเลิกหาเรื่องปวดหัวมาให้ฉันสักที !!” คุณป๋าตวาดเสียงดังลั่น พร้อมกับสะบัดมือออกจากปลายคางฉันอย่างแรง
“ก็ไม่ต้องสนใจสิคะ” ฉันมองคุณป๋าอย่างท้าทาย
“ไม่ให้ฉันสนใจ” คุณป๋าตวัดสายตามองฉันอย่างเย็นชา “ถ้าเธอไม่ใช้นามสกุลของฉันอยู่ คิดว่าฉันจะเสียเวลามาสนใจเรื่องปัญญาอ่อนของเธอหรือไง!!”
“งั้นก็พาหนูไปเปลี่ยนนามสกุลตอนนี้เลยสิคะ จะได้หมดปัญหา ต่อไปคุณป๋าก็ไม่ต้องมาใส่ใจอีก”
“เธอมันก็เป็นแค่เด็กที่ชอบอวดเก่ง ฉันน่าจะปล่อยให้เธอตายตามแม่เธอไปซะตั้งแต่ตอนนั้น!!”
บ่อยครั้งที่คุณป๋าพูดคำนี้ ฉันไม่รู้ว่าพ่อกับแม่คือใคร ไม่รู้ที่มาที่ไปของตัวเอง ตอนที่คุณป๋ารับฉันมาเลี้ยงในตอนนั้นฉันยังเด็ก ฉันจำอะไรไม่ได้เลย
ตั้งแต่เล็กจนโตฉันถูกเลี้ยงมาด้วยเงิน ฟังดูคงจะเป็นชีวิตที่ดีใช่มั้ยล่ะ ชีวิตฉันคงมีความสุข แต่เปล่าเลยฉันไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ต้องการใช้ของแพงๆ ฉันแค่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่ แต่ที่ผ่านมาฉันไม่เคยได้สัมผัสมันเลย
คุณป๋าไม่เคยให้ความอบอุ่นฉันในฐานะคนในครอบครัวเลยสักครั้ง...