“มอนิ่งซี” เสียงโต๋แฟนของนุกเกอร์ทักทายแต่เช้า เมื่อคืนนี้ฉันเมาหลับที่โซฟาบ้านนุกเกอร์ นุกเกอร์ก็หลับข้างฉัน เราสองคนชอบเมาแล้วหลับไปทั้งอย่างนี้บ่อยครั้ง เมื่อคืนนี้ทั้งที่เมาขนาดนั้นยังฝันถึงเรื่องเก่าได้
“มอนิ่งโต๋”
“กินข้าว”
“ขอบาย กลับบ้านก่อนป่านนี้มีคนคิดถึงแล้ว”
“ไม่น่าทันนะ นี่สิบโมงเช้า”
“ฮะ! นี่นึกว่าเช้าอยู่ โดนไอด่าหูชาแน่เลย”
“เมื่อเช้าเดินมาปลุกแล้ว ซีไม่ตื่น”
“งั้นกลับไปฟังแม่คนที่สองให้พรก่อนนะ”
“เชิญครับ” โต๋ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ให้กำลังใจดี
แต่ว่ายิ้มไปก็เท่านั้น ไม่มีใครช่วยอะไรได้ นอกฉันช่วยตัวเองด้วยการน้อมรับความผิด
เดินกลับมาบ้าน รถยังจอดไว้ที่บ้านของนุกเกอร์ เดินเข้ามาในบ้านน้องสาวสุดที่รักกำลังวุ่นอยู่ในครัว แม้วันนี้ไม่ได้เปิดรับออเดอร์แต่ว่าน้องสาวฉันสามารถหาอะไรทำได้ทุกวันโดยเฉพาะขนมหวาน ยัยไอชอบทำขนมหวานมาก ชอบชนิดที่เรียกว่าคลั่งก็ยังได้ ทั้งที่ชอบขนาดนี้แต่ก็ไม่คิดเปิดร้านขายขนม ซึ่งเรื่องนี้มันก็มีเหตุผลที่พอจะเข้าใจได้อยู่
“ทำไมไม่กลับบ้าน ไปต่อที่ไหนมา ไม่ห่วงคนที่บ้านบ้างเลยเหรอ ไม่คิดเหรอว่าคนที่บ้านจะเป็นห่วง บอกแล้วถ้าจะไปต่อที่ไหนให้ทักบอก ไหนว่าไปไม่นาน เมาทิ้งตัวจนเข้าบ้านผิดด้วย”
“ตอบคำถามไหนก่อนดี” ยิ้มรับความผิดไปสิ
“เฮ้อ ไม่ต้องตอบ ขี้เกียจฟัง”
“ขอโทษ”
“ไอไม่ได้จะว่าถ้าพี่จะค้างข้างนอก แต่พี่ช่วยทักบอกไอบ้าง พี่รู้ไหมว่าไอเป็นห่วง ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาไอจะอยู่ยังไง พี่คิดถึงใจไอบ้างสิ เรามีกันแค่สองคนพี่น้องนะ”
“พี่ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษที่ลืมทักบอกไอ ขอโทษนะ” ฉันเดินเข้ามากอดน้องสาว เรื่องของพ่อแม่เป็นปมในใจของไอมาตลอด สี่ห้าปีมานี้ทุกครั้งที่ฉันออกไปข้างนอกคนเดียวไกลสุดคือบ้านนุกเกอร์ ถ้าไปซื้อวัตถุดิบจะต้องไปพร้อมน้องสาวตลอด ถ้าไม่ไปด้วยกันน้องไม่ยอม มีเมื่อคืนที่ไปงานเลี้ยงเกษียณที่น้องสาวไม่ได้ไปด้วยเพราะไม่สะดวกพาเด็กน้อยไปด้วย ยัยไอก็เลยเป็นห่วงฉันมาก ฉันผิดเองที่ไม่บอกน้องว่ากลับมาถึงบ้านแล้ว
“ไปอาบน้ำเลยไป เหม็นกลิ่นเหล้า”
“ขอกอดอีกนิด” เรามีกันสองพี่น้อง เราสองคนผ่านเรื่องเลวร้ายด้วยกันมามาก กว่าเราสองคนจะอยู่สบายแบบทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“เจอเรื่องอะไรมา”
“เรื่องไม่ดี แต่ไม่เป็นไร ทุกอย่างมันจบแล้ว เคลียร์แล้ว” ถือว่าเคลียร์แล้วกัน “วันนี้ให้ไปส่งพีพีคนเดียวพี่ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร แต่ขอเตือนหน่อยนะพีพีโกรธพี่ด้วย”
“เย็นนี้ง้อด้วยไอติมร้านดังจะหายโกรธไหม”
“ไอติมชนะทุกอย่างอยู่แล้ว”
“งั้นไปรับพีแล้วไปห้างกันเนอะ”
“จ้า แต่ตอนนี้ไปอาบน้ำเลยไป เหม็นไม่ไหว”
“ค่าคุณแม่” หอมแก้มยัยไอแล้วฉันจึงเดินไปที่ห้องนอน
“เดี๋ยวเถอะพี่ซี” ยัยไอไม่ชอบที่สุดเวลาที่ถูกฉันเรียกว่าแม่
พีพีที่ถูกพูดถึงเป็นลูกชายของฉันเอง ลูกที่ชายที่เกิดจากคุณเจ เรื่องนี้มันเป็นความผิดพลาดของฉันเอง ถึงแม้คุณเจจะป้องกันมาตลอด แต่ด้วยความชะล่าใจของฉันไม่กินยาคุมซ้ำ ทำให้ถุงยางอนามัยที่ป้องกัน 98% นั้นได้ลูกชายที่น่ารักมา
เรื่องท้องเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย ตอนแรกที่รู้ฉันตกใจมาก เสียใจมากเพราะไม่รู้ว่าควรจะรับมือกับเหตุการณ์นี้ยังไงดี ในตอนนั้นในหัวฉันไม่มีความคิดเรื่องที่จะเอาเด็กออก เพราะฉันก็มีเงินเก็บที่ได้จากคุณเจมามากพอที่จะเอาไปต่อยอดและเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตได้ การเลือกเก็บเด็กไว้จึงเป็นสาเหตุที่ฉันดรอปเรียน
ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นฉันเป็นคนผิดจึงไม่คิดจะบอกคุณเจ ฉันคิดเอาเองว่าเขาที่รวยมาก เลี้ยงเด็กมาเยอะ ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนที่ผิดพลาดแบบฉัน ฉันไม่เสี่ยงบอกเขาดีกว่า ยังไงซะเขาก็ไม่คิดจะให้ฉันที่เป็นเด็กเลี้ยงได้เป็นแม่ของลูกเขา ถ้าเขารู้เขาต้องให้ฉันเอาเด็กออกแน่ ๆ ในเมื่อเขามองฉันเป็นแค่ของเล่นชั่วคราวที่ตกลงราคากันดิบดี หมดสัญญาแล้วก็ไม่รู้จักกัน เราพบเพื่อเพียงผ่านเท่านั้น สิ่งที่เกิดอย่างไม่ตั้งใจก็ถือว่าเป็นของขวัญให้ฉันก็แล้วกัน
ที่บอกว่าเป็นของขวัญก็เพราะว่าตอนแรกเพื่อยัยไอฉันถึงอยากมีชีวิตอยู่ต่อ การมีพีพีเข้ามาทำให้เพิ่มใครอีกคนที่ฉันรักและห่วงใย อยากมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อเห็นเขาเติบโต