(JOSEPH)
บริษัทเชาวกรกุล กรุ๊ป
ก๊อก! ก๊อก!
“เข้ามาได้เลย” ผมเอ่ยอนุญาตบุคคลที่เคาะประตูซึ่งน่าจะเป็นเลขาของผมที่เอางานเข้ามาให้เซ็น
“บอสค่ะ...เอกสารวันนี้ฉบับสุดท้ายละก็เสร็จแล้วค่ะ” เธอก้มลงหาผมพร้อมร่องนมสวย ๆ หึ
“รอก่อนอย่าพึ่งกลับ” ผมบอกเธอแค่นั้นแน่นอนว่าเรามีกิจกรรมอื่นนอกจากการทำงานที่ต้องไปทำอยู่
“ได้ค่ะมารินจะรอ” เธอยิ้มหวานก่อนจะเดินด้วยท่าทางยั่วยวนส่งมาหาผม เธอเป็นเลขาคนที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ซึ่งผมไม่ได้จำเป็นพึ่งรู้ชื่อเมื่อกี้เธอมาทำงานได้อาทิตย์หนึ่งแล้วและเป้าหมายของเธอชัดเจนนั่นคือไม่ได้มาทำงานแต่มาหาผมต่างหาก
แกร๊ด! ผมวางปากกาหลังจากที่เซ็นเอกสารฉบับสุดท้ายของวันนี้เสร็จแล้ว ความจริงผมมีเลขาที่ต้องทำงานโดยเฉพาะอยู่ผู้หญิงพวกนั้นแค่เอาเล่นสนุก ๆ เท่านั้นแหละเมื่อน้ำแตกก็ต้องแยกทางไม่มีสิทธิทำงานที่นี่ต่ออีกต่อไปแล้วซึ่งที่ผ่านมาก็ยอม ๆ ทั้งนั้นเพราะผมตอบแทนด้วยเงินจำนวนหนึ่งที่เยอะพอสมควร ถ้าทุกคนกำลังว่าผมเลว...ก็ได้ผมยอมรับ^^
ชีวิตของผมไม่ได้มีอะไรมากแค่ทำงานและล่อหญิงแค่นั้นแต่ผมไม่เคยไปบังคับใครนะครับอาชีพของผมคือผู้บริหารบริษัทเชาวกรกุล กรุ๊ป เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับงานวิจัยและวิทยาศาสตร์ซึ่งตัวผมเองก็เป็นนักวิทยาศาสตร์เหมือนกันเพียงเน้นไปทางบริหารซะส่วนใหญ่เพราะพ่อผมไม่ยอมทำงานด้วยข้ออ้างอยากพักผ่อนเพราะทำงานเลี้ยงลูกอย่างผมมานานหลายปี พวกท่านอยากให้ผมแต่งงานได้แล้วแต่ในสมองที่แสนฉลาดของผมมันบอกว่าอย่าแต่ง!! สนุกกับสาว ๆ ต่อไปดีกว่า!!
Rrr
“เฮ้อออ” แค่นึกถึงก็โทรมาเลยแหะพ่อ!!ผมเองแหละไม่อยากรับแต่ถ้าไม่รับผมได้โดนชายชุดดำลูกน้องพ่อจับไปแน่นพร้อมกับให้กินยาพิษที่คิดค้นมาเองอีก
“คร้าบบบบ ไม่ทราบว่าคุณพ่อมีธุระกับลูกชายคนนี้เหรอครับ?”
(จะคุยกับลูกชายต้องมีธุระ?)
(เหอะ! ใช่สิฉันมันไม่ใช่สาว ๆ ในสต๊อกของแกนิ)
“รู้ตัวก็ดีแล้วครับพ่อว่าแต่มีอะไรพูดมาเลยผมมีธุระต่อ”
(มีเลขาใหม่ละสิเลิกสันดานสมภารกินไก่วัดสักทีเถอะไอ้เชฟ!!!) ผมรีบเอาโทรศัพท์ออกจากหูเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของพ่อ แสบแก้วหูฉิบหาย
“เถอะน่าผมไม่ได้เก็บไว้นานสักหน่อย”
(กลับบ้านเดี๋ยวนี้!!!ฉันเรื่องกับคุยกับแก!!)
“ไม่ไปผมมีนัดแล้ว”
(ถ้าไม่มาสมบัติทั้งหมดฉันจะยกให้วัด!!!ทำการกุศลส่วนแกออกจากบ้านและไม่ต้องนับฉันเป็นพ่อแล้ว!!!)
“พ่อ!!” ทำงานมาทั้งชีวิตจะเอาไปให้คนอื่นทำไม?!!
พ่อนะพ่อเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ!!!
บ้านเชาวกรกุล
ผมเดินเข้าบ้านที่ไม่ได้กลับมานานด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวเพราะรู้ว่าที่พ่อแม่เรียกนั่นเรื่องอะไรแต่ถ้าไม่มาก็ข่มขู่ว่าจะยกสมบัติให้วัดบ้างตัดขาดความเป็นพ่อแม่ลูกบ้างและลูกที่กตัญญูอย่างผมจะทนได้ยังไงละครับ?
“คุณเซฟกลับมาแล้วเหรอคะ?” เสียงพร้อมร่างกายวัยชราปรากฏขึ้นตรงหน้าของผมเป็นแม่บ้านที่ทำงานที่นี่มามากว่า 25 ปี
“พ่อแม่อยู่ไหน?” ผมถามหาเพราะอยากคุยและรีบกลับคอนโดเพราะนัดแม่เลขายั่วสวาทเอาไว้
“ห้องนั่งเล่นค่ะคุณท่านทั้งสองบอกว่าถ้าคุณเซฟมาแล้วให้ไปที่นั่นได้เลย”
“ขอบคุณครับ” ผมกล่าวก่อนจะเล่นไปห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้มีพ่อแม่จอมเผด็จของผมรออยู่
ห้องนั่งเล่น
พรึ่บ!
“ผมยังไม่มีแพลนจะแต่งงาน” เมื่อนั่งปุบไม่มีการยกมือไหว้สวัสดีใด ๆ ทั้งนั้นเจอกันเกือบทุกวันที่บริษัทแค่วันนี้ไม่ได้เจอเท่านั้น
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย”
“แค่เห็นหน้าผมก็รู้แล้วว่าพ่อแม่เรียกผมมาทำไม” ทำไมผมจะไม่รู้ว่าพวกอยากให้ผมแต่งงานแค่ไหนแต่ผมยังไม่อยากแต่งไง!! ยังไม่เจอใครที่ผมจะสามารถหยุดเพื่อเธอได้ถ้าผมแต่งงานไปโดยไม่รัก อะหรือรักแต่ผมยังไม่หยุดเรื่องผู้หญิงคนเป็นภรรยาของผมนั่นแหละที่จะเจ็บปวดไม่ใช่ผม
“รู้ก็ดี”
“ผมบอกไปแล้วนะว่าผมไม่แต่งงานและเลิกหาผู้หญิงมาให้สักทีเพราะแต่ละคนที่แม่เลือกมาผมรับไม่ได้อะ!” ไม่สาวเฉิ่ม ก็พวกแม่ชีที่เหมือนพึ่งศึกออกมาจากวัดอ่ะ
“คนนี้รองรับแกชอบแน่^^” พ่อผมยิ้มอย่างภูมิใจ
“ไม่เอาอ่ะ”
“แกไม่มีสิทธิเลือกเพราะอีกสองวันแกเตรียมตัวแต่งงานได้เลย!! ไม่ต้องทำอะไรทั้งฉันจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้ว!!”
“มะแม่เอาจริงดิ?!” ได้ยินแบบนี้ก็ตาโตสิครับ
“เออ!! และถ้าวันงานฉันไม่หน้าแกเตรียมตัวหมดตูดและออกจากบ้านนี้ไปเลย!!” พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินหนีผมออกไป
“พ่ออออออออออออออออออ”
“แม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ปัดโถ่เว้ย!! จะไม่แต่งก็ไม่ได้ ถ้าแต่งไปจะเจอบ้างวะ?!!!
“คอยดูนะไม่ว่าเธอจะเป็นใครฉันจะทำให้เธออยู่ไม่ได้เลย!!!”