บทที่ 1 ตอนที่ 1
"นาย! นายอยู่ไหนคะ!" เสียงเจื้อยแจ้วป่นหอบตะโกนเรียกหามาปแต่ไกล หากแต่ยังมองไม่เห็นตัวเพราะมีพุ่มองุ่นกั้นเอาไว้เป็นแนวรอบ
"ฉันอยู่นี่..." บอกออกไปแต่เท้ายังก้าวเดือนไม่ได้หยุดจนกระทั่งเจ้าของเสียงนั้นวิ่งตามมาถึงตัว ร่างเล็กหอบตัวโยนยืนขวางเขาไว้ไม่ให้เดินห่างออกไปอีก
"มีอะไรเนื้อทอง...ฉันจะกลับบ้าน"
"พ่อให้เนื้อทองมาตามคุณ แสงสร้อยมันกำลังจะออกลูกค่ะ" เด็กสาวในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดบอกพลางหอบพลางด้วยความเหนื่อย
"ไปตามสัตวแพทย์หรือยัง แล้วทำไมเพิ่งมาบอก!"
"ก็...ก็หานายไม่เจอนี่คะ..."
"ไม่ได้เรื่องสักคน!" ว่าแล้วร่างกำยำก็เปลี่ยนทิศทางไปยังคอกม้าซึ่งตอนนี้แม่ม้าตัวโปรดของเขากำลังจะมีสมาชิกใหม่ เนื้อทองจ้ำอ้าวตามหลังชายที่เธอเรียกว่า 'นาย' ไปด้วยทันที
"จะไปไหน!"
"ก็...ไปที่คอกม้าค่ะ...จะไปดูนังแสงสร้อย"
"กลับบ้านไปดูคุณหม่อน!"
"ค่ะ..." คนตัวเล็กตอบเสียงอ่อย หลุบตาก้มหน้าต่ำเพราะถูกดุเสียงเข้ม แม้จะได้ยินเป็นประจำทุกวัน แต่หล่อนก็ยังทำใจให้ชินไม่กลัวได้ยากเต็มทีเหมือนกัน
นายหนุ่มเดินลิ่วๆ ไกลตาเข้าไปทุกทีหล่อนทำหน้างอปากแบะด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ กับอัศดาเวทย์...เธอขลาดกลัวเขายิ่งกว่าพ่อแท้ๆ ของตัวเองเสียอีก เขาดุ ขึงขังและไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มของเขาเลยตั้งแต่ได้มาอาศัยอยู่ใต้การปกครองของเขา
"เนื้อทอง...ถูกดุมาอีกแล้วเหรอ หืม..." รอยยิ้มปริ่มเปรมไปด้วยความเมตตาที่คุ้นเคยส่งมอบให้เด็กสาวที
เดินหน้าหงอยเข้ามาหา หล่อนทรุดตัวลงนั่งบนพื้นข้างๆ แหย่งไม้สักก้มหน้างุดไม่พูดไม่จา ไม่ตอบ...
"ว่าไง พี่แทนดุอะไรมาอีก แล้วเขาตามไปดูนังแสงสร้อยหรือยัง รึเราตามหาเขาไม่เจอ หืม...ถึงมาหน้าหงิกหน้างอไม่พูดไม่จา"
"เจอนายแล้วค่ะ ตอนนี้นายไปดูที่คอกม้าแล้ว..."
"อ้อ...งั้นแสดงว่าโดนดุ หึ หึ..." หญิงสาวที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่กว่าหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดู เนื้อทองเป็นลูกของคนงานเก่าแก่ในไร่ หล่อนขาดแม่ตั้งแต่เล็กแต่น้อย เหลือแต่พ่อที่คอยฟูมฝักรักใคร่ ครั้นพอตัวเธอแต่งงานมาอยู่กินกับอัศเวทย์และได้พบกับหล่อนก็รู้สึกถูกชะตายิ่งนัก จึงขอมาอยู่ให้ช่วยงานบ้านงานเรือน และดูแลเธอเป็นการส่วนตัว
"พี่แทนนี่เขาเป็นอะไรกับเรานักหนานะเนื้อทอง หืม...ถึงชอบดุชอบด่ากันนัก พี่ล่ะไม่เข้าใจจริงๆ"
"นายคงไม่ชอบขี้หน้าเนื้อทองค่ะพี่หม่อน ต่อไปอย่าให้ใครใช้เนื้อทองไปหาหรือไปพบนายอีกนะคะ เนื้อทองไม่อยากเจอนายเหมือนกัน"
"แน่ะ...เรานี่ก็ใช่ย่อยนะ เอาเถอะก็ดูแลพี่ดูแลห้องหับก็พอแล้ว เรามาเช้าพี่แทนก็ออกไปตั้งแต่ไก่โห่ ตกเย็นก็ไปก่อนเขาจะกลับมาทุกวัน ไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้วล่ะ"
"ค่ะ..."
"แค่กๆๆ!!"
"พี่หม่อน!" เนื้อทองรีบคลานเข้าไปใกล้ประคองร่างผอมบางของหม่อนหรือกันหาที่ไอจนตัวคู้ตัวโก่งมาข้างหน้า แล้วรีบหยิบทิชชู่ส่งให้
"เลือด! พี่หม่อนคะ..."
"พี่ไม่เป็นไร..." กันหายกมือปัดห้ามเมื่อเห็นเนื้อทองทำท่าจะตะโกนเรียกให้คนเข้ามาช่วยด้วยความลนลาน หล่อนรู้ตัวเองดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไม่อยากให้ใครต้องมาวุ่นวายตกอกตกใจไปกันใหญ่
"เลือดออกอีกแล้ว...ช่วงนี้ไอเป็นเลือดบ่อยจังค่ะ" เนื้อทองหน้าซีดเป็นห่วงนายสาวผู้เปรียบเสมือนแม่คนที่สองของหล่อน รีบช่วยดึงสาวทิชชู่ซับเช็ดเลือดสดๆ ที่ยังซึมอยู่ตรงริมฝีปาก
"เนื้อทอง...ไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับใคร รู้ไหม..."
"ทำ...ทำไมล่ะคะ พี่หม่อนจะไม่ไปหาหมอเหรอคะ"
"พี่มีหยูกยาเต็มหมดแล้วเนี่ย จนพี่จะมีความรู้เรื่องยาเก่งกว่าหมออยู่แล้วนะ" กันหาพูดติดตลก หล่อนยังยิ้มอบอุ่นแต่แววตาและสีหน้ากับโรยแรงเต็มที
"ถ้าอย่างนั้นพี่หม่อนเข้าไปพักในห้องเถอะค่ะ เย็นแล้วอากาศก็เริ่มหนาวเดี๋ยวเนื้อทองจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่านายจะมาก็ได้ค่ะ"
"ไม่กลัวเขาแล้วเหรอ..."
"ก็...ไม่เห็นจะเป็นไรนี่คะ เนื้อทองไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย"
"จ้า จ้ะ...ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจนะ" กันหาพยุงตัวเองลุกขึ้น เนื้อทองเองก็รีบยืนประคองนายสาวแล้วพาเข้าไปพักในห้อง ด้วยสุขภาพของกันหานั้นไม่อำนวยให้หล่อนทำอะไรได้มากนักนอกเหนือจากการนอน และนอน...เป็นกิจวัตร แม้จะออกไปชมสวนชมวิวในไร่ก็ทำได้แค่บางครั้ง และต้องไปกับสามีเท่านั้น เพราะเขาตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้ด้วยความเป็นห่วง
"เนื้อทอง..." กันหาเอ่ยปากเรียกเด็กสาวด้วยความเอ็นดู ในขณะที่เอนตัวนอนพัก และมีเด็กสาวคอยบีบนวดให้เบาๆ ดวงตาปริ่มไปด้วยความรักและสงสาร เนื้อทองเกิดมาก็อาภัพขาดแม่ ซ้ำพ่อก็ใช่ว่าจะดูแลได้ดีนักตามประสาผู้ชายที่แม้จะรักลูกอย่างไรแต่ความละเอียดอ่อนนั้นย่อมน้อยกว่าผู้หญิงอย่างเราๆ
จำได้ว่าตอนแต่งงานและย้ายมาที่นี่ใหม่ๆ เธอยังไม่ได้ป่วย และมีอาการหนักขนาดนี้ เนื้อทองในวัยแค่สิบเอ็ดปีดูมอมแมมอย่างเห็นได้ชัดว่าขาดคนเอาใจใส่ เธอจึงขออัศเวทย์มาไว้ในอุปการะด้วยทั้งสงสารและรู้สึกถูกชะตา จึงรักหล่อนเหมือนน้องสาวแท้ๆ ก็ไม่ปาน
"ขา...พี่หม่อนอยากได้อะไรคะ" เสียงหวานขานรับพลางบีบนวดที่ต้นขาอย่างเอาใจผู้เป็นนายที่ตัวเองเคารพรักยิ่ง
"ถ้าไม่มีพี่แล้ว...เราจะอยู่ยังไง พี่เป็นห่วงเหลือเกิน" ใช่...เพราะเนื้อทองแม้จะเรียนจบแล้วแต่ก็ไม่ได้ทำงานทำการด้วยวุ่นวายอยู่กับการดูแลเธอเป็นหลัก และแน่นอน เธอเองก็ไม่ประสงค์อยากให้หล่อนต้องไประหกระเห เดินทางไปในเมืองเพื่อหางานเงินเดือนแค่หมื่นต้นๆ ทำยังชีพด้วย เนื้อทองถูกเธอเลี้ยงมาแบบอ่อนโยนเกินกว่าจะเผชิญชีวิตลำพังในโลกภายนอกอันแสนวุ่นวาย และเลวร้ายนั้น
หากจะต้องกางปีกบินกันจริงๆ ก็คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย ให้ค่อยๆ เรียนรู้และปรับตัว ซึ่งหากเธอยังป่วยกระเสาะกระแสะอยู่แบบนี้ มันก็เป็นเรื่องยากเหลือเกินที่ชีวิตของเนื้อทองจะได้ออกไปจากเขตแดนของไร่ทับตะวัน
น่าสงสาร...แม่นกน้อย...
"พี่หม่อนพูดอะไรแบบนั้นคะ พี่หม่อนต้องอยู่กับเนื้อทองไปอีกนานแสนนานแน่ๆ เนื้อทองอยากดูแลพี่หม่อนตลอดไปเลยค่ะ" พูดไปน้ำตาแม่สาวน้อยก็ปริ่มปานจะล้นเอ่ออยู่รำไรด้วยความรู้สึกเศร้าตรม
"ไม่เอาน่า ดูทำเข้ายังกับเด็กๆ ขี้แยไม่เข้าเรื่อง..."
"เนื้อทองเปล่า...แต่เนื้อทองอยู่โดยไม่มีพี่หม่อนไม่ได้หรอกค่ะ"
"พี่ถึงกลัวไง พี่อยากให้ใครสักคนดูแลเราแทนพี่ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ" กันหาถอนหายใจเฮือก ความกังวนเดียวใน
ใจตอนนี้หากหมดเวลาของกรรมที่ต้องชดใช้แล้วจริงๆ ก็คือห่วงคนที่ตัวเองรัก...
"นายไม่ยอมให้พี่หม่อนเป็นอะไรไปหรอกค่ะ นายมีเงิน นายต้องหาหมอเก่งๆ มารักษาพี่หม่อนให้หายได้แน่ๆ"
"เนื้อทอง...ความตายน่ะ ต่อให้มีเงินกองท่วมภูเขาก็ซื้อไว้ไม่ได้หรอก พี่ไม่ได้กลัวตาย พี่แค่กลัวคนที่อยู่ข้างหลังจะเป็นยังไงมากกว่า เพราะพี่คงไม่ได้เห็น ไม่ได้คอยดูแลอีกแล้ว" กันหากล่าวอย่างยอมรับในโชคชะตาของตัวเอง
"โถ...พี่หม่อน ขนาดนี้แล้วยังห่วงแต่คนอื่น..." เนื้อทองหยุดมือที่คลำนวดไปตามเรียวขา คลานเข่าเข้าไปกอดผู้มีพระคุณเอาไว้
ปัง! "ยังไม่กลับอีกเหรอเนื้อทอง!" เสียงนั้นทำเอาร่างเล็กที่ขวัญอ่อนกับเจ้าของเสียงอยู่แล้วถึงกับสะดุ้งเพริบ สายตาหันขวับไปมองยังประตูห้องที่ชายหนุ่มร่างใหญ่ยืนอวดแผงอกเปลือยอยู่ไม่ห่าง
"พี่แทน...เนื้อทองตกใจหมดแล้วทำไมต้องเสียงดังด้วยคะ"
"หึ...ขวัญอ่อนเสียจริง พี่ก็แค่ถาม นี่ก็เย็นมากแล้วยังจะอยู่กวนอะไรหม่อนอีก"
"เนื้อทองไม่ได้กวนใจหม่อนสักนิดค่ะ แค่อยู่เป็นเพื่อนเพราะเห็นว่าพี่แทนคงกลับช้า" กันหาออกปากแก้ต่างให้เสียทุกครั้ง
"เข้าข้างกันแบบนี้แหละถึงได้เหลิง...พี่พูดอะไรก็ผิดทุกอย่าง ชักน้อยใจแล้วสิ นี่หม่อนชักจะรักเนื้อทองมากกว่าพี่เข้าไปทุกวันแล้ว หืม..." พูดพลางร่างใหญ่ก็เดินเขาไปนั่งข้างๆ ภรรยาสาวและหอมแก้มเธอด้วยความรักใคร่แบบไม่แคร์สายตาของบุคคลที่สามซึ่งต้องก้มซ่อนความอายเสียเอง
"พี่แทน! ดูสิเนื้อตัวมอมแมมไหนจะทำแบบนี้ต่อหน้าเด็กมันอีก น่าตีจริงๆ" หล่อนเอ็ดผู้เป็นสามี ซึ่งเขาก็แบะปากทำท่าล้อเลียน และปรายสายตาไปยังอีกคนอย่างรู้สึกรำคาญ
"นายมาแล้ว...เนื้อทองกลับก่อนนะคะ"
"จ้า...เออ อย่าลืมขนมในครัวนะเนื้อทอง แล้วพรุ่งนี้รีบมานะจ้ะ พี่แทนคงออกไร่เช้ามืดตามเคย"
"จะไปได้หรือยัง" อัศเวทย์จ้องด้วยสายตาคมดุ ไล่ในทีด้วยความหงุดหงิด ไม่รู้เป็นอะไรสิน่า...เห็นเด็กคนนี้ทีไรรู้สึกไม่ชอบหน้าเอาเสียเลย
"ค่ะ..."
"ไปอาบน้ำกันเถอะหม่อน พี่ตัวเหม็นจะแย่อยู่แล้ว อยู่กับแดดกับเหงื่อมาทั้งวัน" ว่าแล้วร่างใหญ่ก็ตวัดอุ้มศรีภรรยาขึ้นแนบอก อิงริมฝีปากแอบแก้มขาวแกมระเรื่ออีกครั้งและพาเธอเดินเข้าห้องน้ำไป ท่ามกลางสายตาลนลานของเนื้อทองที่ยังไม่ทันเดินออกจากห้อง ด้วยความไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องเช่นนี้ต่อให้อัศเวทย์แกล้งทำอะไรต่อมิอะไรต่อหน้าบ่อยๆ หล่อนก็ยังอาย และไม่ชินอยู่ดี