"ไม่นี่คะ...เราไม่เคยรู้จักกัน"มารีญาเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับมือสวยที่นำผมทัดหู
"เบลลี่ว่าเราเข้าเรื่องกันเถอะค่ะ"เสียงของเบลลี่ดังขึ้นทำให้ปริ๊นช์ที่ยังคงจ้องร่างบางอยู่ถึงกับได้สติและละสายตาออกจากเธอ
"คอนเชปนี้เป็นแนวคู่รักนะคะแล้วบริษัทเห็นว่าพวกคุณกำลังคบกันอยู่และค่อยข้างมีชื่อเสียงเราจึงอยากร่วมงานกับคุณชุดทั้งหมดจะเสร็จภายในเดือนนี้คะกำหนดการถ่ายคือวันที่15ของเดือนหน้านะคะ"เบลลี่เป็นคนพูดอธิบายงานทั้งหมดโดยมารีญาเอาแต่นั่งฟังนิ่งๆ
"ครับ....ไม่ทราบว่ามีแบบเสื้อผ้าให้ผมดูไหมครับ?"ปริ๊นช์เอ่ยถามอย่างสุภาพเมยจึงรีบนำแฟ้มไปให้ทั้งคู่ดูปริ๊นช์มองแบบอย่างเสื้อผ้าแล้วก็รู้สึกพอใจในระดับหนึ่งออกแบบดีแถมยังมีโลโก้ที่เด่นสง่าสมแล้วที่บริษัทแห่งนี้จะดังระดับโลก
"ผมโอเคครับ"ปริ๊นช์ปิดแฟ้มงานเบาๆและฉีกยิ้มให้กับพนักงานทุกคน
"กรีนก็โอเคค่ะเสื้อผ้าสวยมากๆ^^"กรีนเสริมทัพแล้วฉีกยิ้มหวานให้อีกคน
"งั้นตามนี้...ขอตัวก่อนนะคะฉันต้องไปรับพี่ชายที่สนามบิน"มารีญาโพล่งขึ้นมาและเดินออกไปทันทีกรีนเริ่มไม่พอใจในกริยาของควีนที่ทำตัวเหมือนไร้มารยาทถึงจะเป็นท่านประธานก็เถอะ
"งั้นพวกผมขอตัวนะครับ"ปริ๊นช์เป็นคนเอ่ยบ้างกรีนจึงลุกตามและไหว้ขอบคุณพนักงาน
"รออยู่นี่..ไปห้องน้ำก่อน"ปริ๊นช์หันไปพูดกับกรีนเธอพยักหน้าและเลี่ยงเดินไปนั่งรอที่ล็อบบี้ส่วนปริ๊นช์ก็ยกยิ้มนิดๆและเดินตามเป้าหมายออกไป
หมับ!
"อ๊ะ!"มารีญาที่กำลังจะขึ้นรถเป็นอันต้องชะงักเมื่อมีคนมากระชากแขนเธอจากทางด้านหลัง
"ไง...ไม่เจอกันนานเลยนิ"ปริ๊นช์เอ่ยเสียงนิ่งมือหนาบีบรัดข้อมือของควีนจนเธอเบะหน้าเพราะความเจ็บ
"ปล่อยฉันนะ!...คุณเป็นบ้าอะไรมาจับแขนฉันทำไม!..และฉันก็ไม่เคยรู้จักคุณด้วย!"ร่างบางของควีนพยายามสะบัดข้อมือออกแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะยิ่งเธอดิ้นแรงรัดที่ข้อมือเธอก็แรงขึ้นเช่นกัน
"เธอก็ยังคงเป็นเธออยู่วันยังค่ำ...ถึงจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนทำไม...กู-จะ-จำ-มึง-ไม่ได้"และคำพูดของปริ๊นช์ทำเอาควีนถึงกับหยุดดิ้นพร้อมกับดวงตาที่เบิกโพล่งอย่างตกใจก่อนจะปรับให้มันอยู่ในสภาพเดิมในเวลาต่อมา
"คุณพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ"
"ควีน...มารีญา...พรมรัตน์ เธอคิดว่าคนอย่างเธอจะหลอกฉันได้หรอง่ายไปไหม...เจ้าหญิง"ควีนยืนตัวแข็งทือเพราะคำว่าเจ้าหญิงมีแต่เขาเท่านั้นที่จะเรียกเธอได้ควีนรวบแรงทั้งหมดและสะบัดข้อมือออกมาดวงตาแววโรจน์ไปด้วยความโกรธจ้องมองอีกฝ่ายที่ยืนยิ้มนิ่งๆ
"เจ้าหญิงบ้าบออะไรของคุณ!...ฉันไม่เคยรู้จักคุณเราไม่เคยรู้จักกัน!"ว่าจบก็รีบพาตัวเองขึ้นรถและขับออกไปทันทีปล่อยให้คนที่ยืนยิ้มยืนอยู่คนเดียว
"ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้"ปริ๊นช์เอ่ยขึ้นมานิ่งๆตอนแรกยอมรับเลยว่าจำเธอไม่ได้เพราะเธอเปลี่ยนไปมากจากยัยอ้วนพุงย้อยดูตอนนี้สิเธอสวยสง่ามากกว่าใครๆและในที่สุดเขาก็รู้ว่าเป็นเธอก็เมื่อเธอตอบคำถามของเขา
เขาอยู่กับเธอมาหลายปีพฤติกรรมของเธอเขาก็เคยเห็นมาหมดอย่างเช่นเวลาเธอโกหกเธอจะเอาผมขึ้นทัดหูตัวเองซึ่งเขายืนยันได้เลยว่านิสัยแบบนี้มีแต่เจ้าหญิงของเขาเท่านั้นที่จะทำ
-สนามบิน-
"เมื่อไหร่จะมาเนี่ยยืนรอจนรากงอกแล้วนะ"มารีญาบ่นไปทั่วสายตาก็สาดส่องหาคนที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นพี่ชายของเธอเครื่องลงตั้งนานแล้วทำไมยังไม่เห็นพี่ชายเธออีกนะ
"ยืนบ่นเป็นยายแก่ไปได้คุณน้องสาวสุดสวย"
"อ๊ะ!...ไอ้พี่จัส!"ร่างบางถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูมาพูดตรงข้างหลังเธอจึงหันไปและใบหน้าก็กระทบกับแพงอกแกร่งของชายคนหนึ่งซึ่งพอเงยหน้าขึ้นก็เจอตัวการ
"หูยยยดั้งหักไหมนั้น"จัสบีบจมูกรั้นของน้องสาวเบาๆด้วยความหยอกล้อแต่ควีนกับทำหน้าเบะปากใส่
"มาช้าแล้วยังชอบแกล้งคนอื่นอีก!"ควีนว่าจัสน้ำเสียงไม่จริงจรังนัก
"โทษทีขอเบอร์สาวอยู่วะฮ่าๆ"จัสหัวเราะร่าไอ้ที่บอกไปขอเบอร์สาวน่ะเรื่องโกหกเขาแค่ไปซื้อกาแฟมากินเฉยๆเพราะเห็นว่าน้องสาวยังไม่มาแต่ที่พูดไปแบบนั้นเพราะหวังให้น้องสาวของเขาหึงหวง
"ไหนบอกว่ารักควีนคนเดียวงายนอกใจกันหรอ"ควีนทำหน้าเศร้าและนั้นทำให้จัสยิ้มกว้างออกมาเขาและเธอไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกันมันก็คงไม่ผิดที่ทั้งสองจะรักและชอบกัน
"ล้อเล่นหน่าใครจะกล้านอกใจควีนตัวน้อยของพี่จัสกันล่ะครับ"
ฟอดดด
"ไอ้พี่จัสบ้า.."ปากหนานุ่มเคลื่อนเข้ามาหอมแก้มควีนเบาๆทำให้เจ้าตัวถึงกับออกอากาศเขินหน้าแดงเบี่ยงหน้าหนีทันทีการกระทำของทั้งคู่ตกอยู่ในสายตาของนักข่าวจอมแฉท่าหนึ่งเขายกยิ้มดูผลงานตัวเองในกล้องถ้าเอาข่าวนี้ไปเผยแพร่คงได้เงินหลายแสนอยู่
...100%....
#ควีนตัวน้อยของพี่จัส!งื้ออออ