เสี่ยพธินจึงได้ยื่นมือเข้าช่วยให้นางเรียม แม่ของราชย์ได้เข้ารับการผ่าตัดได้ทันท่วงที ไม่ต้องทนกับความเจ็บปวดทรมาน เขาเองเห็นความบ้าระห่ำ ความเป็นลูกผู้ชายของราชย์ ประกอบกับความมีน้ำใจปกป้องผู้อื่นแม้ว่าจะเป็นคนไม่รู้จักก็ตามที เขาจึงยื่นข้อเสนอให้ราชย์เข้าไปทำงานด้วย ในตำแหน่งบอดี้การ์ดประจำตัวด้วยเงินเดือนหนาหนัก ที่หนุ่มสลัมวัยเบญจเพสเรียนไม่จบอย่างเขายากจะหามาได้ อีกทั้งมีบ้านพักหลังน้อยให้ในอาณาเขตของบ้านเสี่ย เขาสามารถ พาแม่ไปอยู่ด้วย ไม่ต้องทนอยู่ในบ้านเช่าสภาพแย่ ๆ กันอีกต่อไป
แล้วสองแม่ลูกก็เข้ามาอยู่ในความปกครองของเสี่ยพธินตั้งแต่บัดนั้น และทั้งสองก็ได้มอบกายถวายชีวิตให้กับเสี่ยในฐานะผู้มีพระคุณ สำหรับนางเรียมพิเศษมากกว่านั้น นางคือผู้หญิงที่เสี่ยต้องตาต้องใจ
นางเองเป็นแม่หม้ายมาตั้งแต่ราชย์อายุแปดขวบ เพราะพ่อของเขาประสบอุบัติเหตุตกนั่งร้านตอนไปทำงานก่อสร้าง ตั้งแต่บัดนั้นมานางก็ไม่มีใครอีกเลย เสี่ยพธินก็ใช่ว่าจะขี้ริ้ว สูงใหญ่ขาวตี๋ ปากหวานถึงเช้าถึงเย็น อาจเป็นเพราะอีกเหตุผลที่เขาเข้ามายื่นมือช่วยเหลือในวันที่ย่ำแย่ นางเรียมก็เลยยอมโอนอ่อนผ่อนตามในที่สุด
แม้ว่านางเรียมจะอยู่ในฐานะเมียเสี่ย แต่ก็ไม่ได้ทำตนเป็นกิ้งก่าได้ทอง หากนางเจียมตัวเจียมตน ดูแลเรื่องอาหารการกิน ดูแลคนงานในบ้าน จะขึ้นไปนอนกับเสี่ยที่เรือนหลังใหญ่ก็เฉพาะในยามกลางคืนเท่านั้น กลางวันส่วนมากนางก็ตระเตรียมอาหาร และอยู่ที่เรือนพักหลังเล็กกับบุตรชายหากเขาไม่ได้ออกไปกับเสี่ย เปรียบไปแล้วนางก็ทำตัวเหมือนกับเป็นคนรับใช้คนหนึ่ง หากเสี่ยพธินนั้นเทิดทูนนางเป็นยิ่งนัก
แม้ว่าจะเข้ามาเป็นคนของเสี่ยได้ไม่ถึงครึ่งปี แต่สองแม่ลูกจงรักภักดีและซื่อสัตย์กับเสี่ยพธินยิ่งนัก หาได้มีสิ่งใดเคลือบแคลงดังเช่นที่บางคนส่งข่าวไปให้พราวพธู ลูกสาวคนเดียวอันเป็นแก้วตาดวงใจของเสี่ยไม่
บางคนนั้นทำไปเพื่ออะไร ห่วงใยเสี่ยกับคุณหนูของเขาอย่างที่ปากว่าจริงหรือไม่หนอ...
**********************************************************
“ ผมทนไม่ไหวหรอกแม่ ทำไมจะต้องมาก้มหัวให้ผู้หญิงจองหองแบบยัยคุณหนูพราวด์นั่น ถ้าเป็นผู้ชายผมเหยียบจมดินไปตั้งแต่นาทีแรกที่เจอแล้ว ! ”
“ ราชย์ ใจเย็น ๆ หน่อยเถอะลูก ถือว่าทำเพื่อเสี่ยนะ ราชย์อย่าลืมสิว่าเสี่ยมีพระคุณกับแม่ กับลูกยังไง ”
“ เพราะผมสำนึกในบุญคุณเสี่ยเสมอน่ะสิ ถึงได้ทนขนาดนี้ มายืนด่า มาดูถูกแม่ผมปาว ๆ มันน่ากระทืบนัก ”
“ คุณหนูพราวด์เธอพึ่งจะเสียแม่ไป เราเองก็เข้ามาอยู่ที่นี่ปุบปับ ต้องใช้เวลานะลูก เวลาจะพิสูจน์ว่าเราไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด เธอจะสามารถเข้าใจอะไร ๆ มากขึ้นกว่านี้ ”
ราชย์ได้แต่ระบายลมหายใจออกมาเสียยาวด้วยความอัดอั้น คนอย่างไอ้ราชย์ ไม่เคยยอมใคร ตาต่อตา ฟันต่อฟันมาตลอด แล้วทำไมต้องมาทนยัยคุณหนูประสาทแดกไร้มารยาทนั่นด้วยวะ
เกิดมายี่สิบห้าปีก็พึ่งเคยเจอผู้หญิงที่ความคิดต่ำตม คำพูดต่ำทรามขนาดนี้ หน้าตาก็ดี แต่จิตใจโคตรของโคตรสกปรก ยิ่งกว่าผู้คนในสลัมที่เขาเติบโตมาด้วยซ้ำ
ทนไหวก็ทน ทนไม่ไหวก็จำต้องทน แต่ความอดทนมันมีขีดจำกัด แล้วยิ่งคนอย่างราชย์ด้วย หากวันไหนมันระเบิดตูมขึ้นมาละก็ รับรองว่าราบเป็นหน้ากลองแน่ !
เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาจากทางหน้าบ้าน ดึงความสนใจสองแม่ลูกให้หันหา เมื่อพบว่าเป็นเสี่ยพธิน เรียมก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง นางรีบหันไปบอกลูกชายเบา ๆ
“ เสี่ยมาลูก สงบใจซะ อย่าทำให้เสี่ยไม่สบายใจ ”
ทว่าการสงบใจมันง่ายเสียที่ไหน ยิ่งเป็นราชย์แล้วด้วย สายตาของเขาจะสื่อทุกอารมณ์ออกมาได้อย่างชัดเจน กรามแข็งแรงถูกขบจนขึ้นสันนูน
เสี่ยพธินเข้ามายืนตรงหน้าสองแม่ลูก ก่อนจะจ้องมองทั้งคู่ด้วยแววตาสำนึกผิด
“ อั๊วขอโทษด้วยนะเรื่องลูกพราวด์ ต้องขอโทษจริง ๆ พราวด์เป็นเด็กหัวแข็งมาตั้งแต่เด็ก คงเพราะโดนตามใจมากไปหน่อย ว่าไปแล้วมันก็เป็นความผิดของอั๊วเองด้วย ที่ตามใจลูกจนเกินไป ”
“ ไม่เป็นไรหรอกค่ะเสี่ย เราเข้าใจดีค่ะ ต้องให้เวลาเธอ สักหน่อยนะคะ ” นางเรียมรีบเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม หากลูกชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังคงยืนหน้าถมึงทึงราวยักษ์วัดแจ้ง
“ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคุณหนูต้องดูถูกแม่ขนาดนั้น คุณหนูไปเอาข้อมูลแบบนั้นมาจากไหน ใครไปใส่ไฟอะไรไว้ ”
มิวายที่นางเรียมจะกระตุกแขนแกร่งของลูกชายให้เขาหยุด แต่เขาก็มิได้นำพา เสี่ยพธินยืนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วยกมือขึ้นตบที่ไหล่แข็งแรงของราชย์เบา ๆ
“ อั๊วคิดว่าพอรู้ว่าลูกพราวด์รู้มาจากใคร แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นมันไม่จริง มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด อั๊วขอโทษ และรับปากว่าจะอธิบายให้ลูกพราวด์เข้าใจเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ราชย์ ลื้อจะยกโทษให้อั๊วได้ไหม ” น้ำเสียงและแววตาของชายสูงวัยเบื้องหน้าที่ได้ชื่อว่าเจ้านาย ที่ราชย์สัมผัสได้ว่าจริงใจเพียงใด แม้จะเป็นนาย แต่เสี่ยก็ไม่เคยใช้อำนาจบาตรใหญ่มาข่มขู่ลูกน้อง ทำให้เขาเป็นนายที่บ่าวทั้งรักและภักดี ซึ่งนั่นราวกับการนำน้ำมาราดรดลงบนเปลวเพลิงที่คุกรุ่นในหัวใจชายหนุ่มให้มอดดับลงได้