ตอนที่ 4
“อย่าทำมาสอดรู้สอดเห็นหน่อยเลย ก็แค่คนใช้!! จะไปรู้อะไร” ชญานนท์ที่ได้แต่ยินคำนี้เข้าไปถึงกับตะลึงกับประโยคที่เธอพูดกับเขา
ที่ผ่านมาถึงเธอจะไม่ค่อยพูดกับชญานนท์เท่าไหร่แต่เธอก็ไม่เคยเรียกเขาแบบนี้เลย คำว่า ‘คนใช้’ มันเจ็บลึกเข้าไปในหัวใจของเขาอย่างหนักหน่วง
ชญานนท์เด็กหนุ่มที่ไม่เคยพบหน้าพ่อแท้ ๆ ของตัวเองสักครั้งในชีวิต และตอนนี้เขานั้นก็แทบไม่เหลือใคร เขาอยากเจอกับพ่อแท้ ๆ สักครั้งหนึ่ง แต่ผู้เป็นมารดาก็มาด่วนจากไปเสียก่อนที่เขาจะได้ถามไถ่
หลังจากที่แม่ของชญานนท์แต่งงานกับคุณจิราวัฒน์ได้ไม่นาน แม่ของชญานนท์ก็ได้เสียไป ในตอนนั้นเขาอายุได้เพียง12ขวบ หลังจากนั้นพ่อเลี้ยงของเขาก็แต่งงานใหม่กับแม่หม้ายลูกติดสามคนที่ทำให้เขาปวดหัวอยู่ทุกวันนี้
พชรมนพูดจบก็ลุกเดินหนีเขาไป หล่อนออกไปยืนคอยรถของมารดาที่หน้าโรงเรียน ไม่นานนักโทรศัพท์ของชญานนท์ก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับน้าฝ้าย”
“เบสกลับถึงบ้านเหรอจ๊ะ”
“ผมกำลังจะกลับครับน้าฝ้าย”
“เบส..น้าฝากยัยแพทติดรถไปด้วยคนสิ วันนี้น้าติดธุระ พอดีน้ายังเคลียร์งานไม่เสร็จเลย เจ้านายก็เร่ง น้าไม่อยากหอบเอาไปทำที่บ้าน ว่าจะเคลียร์ให้เสร็จวันนี้เลย” จิราภรร่ายซะยืดยาวเพราะรู้ดีว่าชญานนท์ไม่ค่อยคุยกับลูกสาวของเธอโดยเฉพาะพชรมน แต่เธอรู้ว่าเด็กหนุ่มไม่มีทางปฏิเสธแน่ ๆ ถ้าเธอขอร้อง
“ได้ครับน้าฝ้าย” ปกติแล้วพลอยชมพูจะขอติดรถชญานนท์กลับบ้านเกือบทุกครั้ง เพราะขึ้เกียจรอคุณแม่ของเธอ และอีกอย่างเธอก็อยากช่วยพี่ชายทำอาหารด้วย ยกเว้นวันไหนที่ชญานนท์กลับช้าเธอก็รอกลับพร้อมคุณแม่ของเธอ
“รถเบส..ไปพร้อมกันสามคนเลยได้มั้ย”
“ ดะ ได้ ได้ครับน้าฝ้าย” ชญานนท์รักมอเตอร์ไซด์คันนี้มาก เพราะกว่าที่เขาจะได้มันมาต้องเก็บหอมรอบริบมาอย่างยาวนาน
หลังจากคุยกับแม่เลี้ยงเสร็จชญานนท์ก็ขับมอเตอร์ไซด์ออกไปหาคนที่กำลังยืนใจลอยรอคุณแม่ที่หน้าโรงเรียนทันที
“แพท ขึ้นรถ” เขาจอดรถชิดกับหญิงสาวที่ยืนรออยู่หน้าโรงเรียน
“มีอาไรอีก..จะไปไหนก็ไปสิ” เธอรีบไล่เขาทันที
“ขึ้นรถ วันนี้แม่เธอจะกลับดึก” ชญานนท์รีบบอกเหตุผลเพราะกลัวสาวน้อยจะรอเขานาน
“ไม่ไปจะไปไหนก็ไป” เธอออกปากไล่เขาอีกครั้ง
“ถ้าเธอดื้อกับฉัน เรื่องทั้งหมดวันนี้...รู้ไปถึงหูน้าฝ้ายแน่” แพทมองหน้าชญานนท์ด้วยความไม่พอใจทันทีที่ได้ยินเขาบอกแบบนั้น เมื่อเห็นเธอลังเลเขาจึงพูดต่อไปอีก
“เร็ว ฉันมีเวลาไม่มาก ต้องไปรับน้องพลอยอีก” ชญานนท์ตวาดเด็กงี่เง่าทันที จากนั้นเธอจึงยอมขึ้นมาซ้อนท้ายมอเตอร์ไชค์ของเขาออกไป
พลอยชมพูเธอเรียนอยู่ที่โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ส่วนพชรมนมาเรียนมอปลายที่โรงเรียนชายประจำจังหวัด คงไม่ต้องเดาว่าเพราะอะไร เธอติดแฟนนั่นเอง
หลังจากรับพลอยชมพูเสร็จชญานนท์ก็ตรงกลับบ้านทันที พลอยชมพูดีใจที่ได้นั่งด้านหน้าโดยมีชญานนท์โอบกอด เพราะพี่สาวเธอไม่ชอบนั่งเบียด หลังจากลงรถเสร็จพชรมนก็เดินเข้าห้องแบบไม่พูดจากับใครเลย พร้อมกับปิดประตูห้องเสียงดัง
พลอยชมพูมองหน้าชญานนท์ เธอแปลกใจมากที่วันนี้พี่สาวของเธอมากับชญานนท์ แต่ก็เลือกที่จะไม่ถามเรื่องนี้
“พี่แพทโกรธใครมาเหรอคะพี่เบส”
“ไม่รู้สิ สงสัยแฟนมั่ง”
“ห๊า!.. พี่แพทมีแฟนแล้วเหรอคะ”
“อันนี้พี่ก็ไม่แน่ใจหรอก เพราะพี่ก็ไม่ค่อยอยากยุ่งเรื่องของแพทเขาสักเท่าไหร่” ชญานนท์ลืมตัวพูดไปและกลัวพลอยชมพูจะเอาไปฟ้องแม่ เขาจึงรีบแก้ตัวทันที
"เอ่อนั่นสินะ นั่งหน้าบึ้งไม่พูดไม่จาตลอดทางเลย"
“พี่เบส เย็นนี้เราจะทำอะไรกินดี”
“พี่ว่าเราออกไปซื้อของสดที่ตลาดแล้วเอามาทำกับข้าวกันดีกว่ามั้ย”
“ได้ค่ะ..แต่เดี๋ยวพลอยขอไปบอกพี่แพทก่อนนะคะ...ว่าเราจะออกไปข้างนอกกัน”
ไม่นานนักเด็กหญิงพลอยก็วิ่งหน้าตาตื่นลงบันไดมา
“พี่เบส ๆ ช่วยด้วย พี่เบส”
“มีอะไรเหรอพลอย"
“พี่แพท..กรีดข้อมือตัวเองค่ะ ตอนนี้เลือดไหลไม่หยุดเลย”
“เฮ่ย!..จริงดิ” ชญานนท์วิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว เขาวิ่งตรงไปที่ห้องนอนของเธอ ประตูห้องถูกเปิดออกกว้างจากฝีมือน้องสาวเธอที่เปิดคาไว้
ภาพที่ชญานนท์เห็นตอนนี้ก็คือพชรมนนั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียงมือขวาถือมีดอยู่และกำลังจะกดมีดลงไปที่ข้อมือซ้ายอีกครั้งขณะที่เลือดกำลังไหลซึมออกมา เธอคิดจะฆ่าตัวตายแน่ๆ แบบนี้ เสียงแหบพร่าของชญานนท์รีบตะโกนสุดเสียงเพื่อห้ามไม่ให้เธอกระทำการดังกล่าว
“อย่าแพท หยุดก่อน แพทอย่าทำร้ายตัวเองสิ”
"นายมายุ่งอะไรด้วย นี่มันเรื่องของฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!" เธอขึ้นเสียงตวาดใส่ชญานนท์ทันที
“หยุดเดี๋ยวนี้ แพท” ชญานนท์รีบเข้าไปแย่งมีดออกจากมือเธอด้วยความยากลำบาก ข้อมือซ้ายของเธอมีเลือดออกและเป็นแผลยาวแต่ไม่ลึกเท่าไหร่ ชญานนท์ใช้กำลังทั้งหมดที่มีเพื่อแย่งมีดออกจากมือของเด็กสาว และไม่นานมันก็สำเร็จ
“อื้อ หื้อๆ ฮื้อ ๆ” เธอร้องไห้หนักเมื่อชญานนท์แย่งมีดออกจากมือเรียวบางได้สำเร็จ ‘ให้ตายสิ เธอไม่ห่วงตัวเองเลยสักนิด’
“อยากตายนักรึไง” เขาบ่นด้วยความโมโหทันที
“อย่างนายจะไปรู้อะไร...ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย ฮือ...ฮื้อ ๆ เธอพูดขึ้นแล้วก็สะอื้นไห้ต่อไป
“การฆ่าตัวตายมันเป็นการกระทำของคนโง่” เขาตะคอกใส่เธอทันทีด้วยความโมโห
“ใช่ ฉันมันโง่ ไม่ได้ฉลาดอย่างนายนี่ พอใจหรือยัง” เขาเพิ่งนึกได้ว่าใช้คำรุนแรงกับเธอจึงผ่อนคำพูดลงมา
“ฉันไม่มีเจตนาจะว่าเธอ..แพท แต่เธอลองคิดดูให้ดีๆ สิ ว่าเธอทำถูกแล้วเหรอ แค่ผู้ชายคนเดียวทิ้ง แต่เธอเคยคิดถึงความรักที่แม่ของเธอมีให้บ้างรึเปล่าไหนจะความรักของ น้องพลอยและพี่พิมอีกล่ะ เธอเคยคิดบ้างมั๊ย” ชญานนท์เทศน์ให้พชรมนฟังเป็นรถไฟขบวนยาว
“พี่แพทค่ะ ชีวิตเป็นสิ่งที่มีค่านะคะ มันเป็นสิ่งที่เงินทองมากเท่าไหร่ก็เทียบไม่ได้ พี่แพทลองคิดดูให้ดีๆ นะคะ” น้องสาวคนเล็กเข้าไปปลอบพี่สาว หลังจากที่ชญานนท์พูดจบ เธอได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร มีแต่เสียงสะอื้น
“แพท..ไม่ว่าจะยังไงเธอก็มียังมีครอบครัวนะ” ขญานนท์พูดพร้อมกับเดินไปเอามือจับไหล่ เธอก็ไม่ขัดขืนอะไร
“พลอย พาพี่แพทลงไปทำแผลก่อนดีกว่า” ชญานนท์รีบบอกแล้วเดินออกห้องไป เขาเดินลงมารอด้านล่างเพื่อเตรียมอุปกรณ์ทำแผล แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้จึงเอ่ยถามกับพชรมน ที่เดินลงมาด้านล่างพร้อมกับน้องสาว
"แพทไปหาหมอมั้ย"
"ไม่ไป จะทำแผลก็รีบทำสิ" เขาดูจากสภาพบาดแผลแล้ว แผลไม่ลึกมากนัก น่าจะทำแผลเบื้องต้นได้ จึงค่อย ๆ ทำแผลให้เธอ
"โอ๊ย!.. เบา ๆ สิ"
"ตอนเอามีดกรีดไปไม่รู้สึกเจ็บบ้างหรือไง"
"จะซ้ำเติมให้มันได้อะไรขึ้นมา" ชญานนท์ทำแผลให้เสร็จ ก็รีบเก็บอุปกรณ์ทันที
"เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้ออาหารสดกับน้องพลอย เธอจะไปด้วยกันมั้ย" ชญานนท์ไม่อยากจะทิ้งให้เธออยู่ตามลำพัง
"ไม่ไป"
"แล้วอย่าคิดทำอะไรโง่ ๆ แบบเมื่อกี้อีกนะ" เขารีบกำชับเธอ
"อืม จะไปก็รีบไปสิ"