9

1137 คำ
9 “พ่อ...เลี้ยง” เสียงของชาติชายกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อเขาเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาเห็นภาพหวาน ที่เขาไม่คิดว่าจะได้เห็น ‘ชีวิตกูไม่เหลือแน่งานนี้’ ชายหนุ่มอีกคนผละจากกลีบปากนุ่มอย่างหงุดหงิด ตวัดสายตามองชาติชายที่ยืนตัวลีบอยู่หน้าประตูเขม็ง ส่วนปิ่นปักพยายามลงจากหน้าตักของเขา หากแต่ลำแขนหนาออกแรงเพียงนิดบังคับให้เธอนั่งอยู่ที่เดิม ดวงหน้านวลแดงก่ำมากยิ่งขึ้น เธออายชาติชายเป็นที่สุด “มือมึงไม่มีเคาะประตูหรือไง” น้ำเสียงขุ่นเอามากๆ “เคาะแล้วครับ เคาะตั้งหลายครั้ง” ชาติชายตอบ เลี่ยงที่จะสบสายตาของคิมหันต์ “มีธุระอะไร” “คือว่านายอำเภอมาหาครับ” “มาทำไมวะ ไม่ได้ส่งเทียบไปเชิญเสียหน่อย” “ก็วันนี้พ่อเลี้ยงนัดนายอำเภอมาหานี่ครับ จะพานายอำเภอไปสำรวจที่ดินรกร้างท้ายไร่ด้วยกัน” คำบอกกล่าวของชาติชายทำให้เจ้าของไร่เพิ่งนึกออก วันนี้เขานัดกับประวิทย์นายอำเภอเอาไว้ ทำไมเขาลืมเสียสนิท หรืออาจจะเป็นเพราะสาวน้อยคนนี้ทำให้เขาลืมทุกอย่าง ไม่ใช่หรอก ปิ่นปักไม่มีอิทธิพลกับเขามากมายขนาดนั้น “รู้แล้ว ออกไปได้แล้วหรือว่าอยากจะดูหนังสด” ชาติชายรีบแจ้นออกไปจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มทันที “ต่อไปนี้เธอไปทำงานในโรงครัว ไม่ต้องทำงานในไร่แล้ว อีกอย่างอย่าได้เที่ยวไปไล่กอดผู้ชายคนไหนอีกล่ะ ฉันไม่ชอบให้ใครมาพูดลับหลังว่า ใช้ผู้หญิงร่วมกับคนงาน เข้าใจมั้ย” เขาพูดเสียงดังฟังชัด “เข้า เข้าใจคะ” “ไปทำงานของเธอได้แล้ว ฉันบอกป้านงกับป้าเยาว์ไว้แล้วว่าเธอจะเข้าไปทำงานในโรงครัว” เขาบอกให้เธอไปทำงาน หากแต่อ้อมแขนแข็งแรงหาได้คลายออกไม่ จนเธอเริ่มรู้สึกอึดอัด วางตัวไม่ถูก “ปะ ปล่อยสิคะ ปิ่นจะได้ไปทำงาน คุณคิมต้องไปหานายอำเภอไม่ใช่เหรอคะ” เธอท้วง ชายหนุ่มจึงคลายอ้อมกอด ปิ่นปักสปริงตัวลงจากตักของเขา วิ่งออกไปจากห้องทำงานทันที คิมหันต์มองตามร่างบางไปอย่างเสียดาย แต่ไม่เป็นไรเพราะคืนนี้ยังไงเธอก็หนีเขาไม่พ้น กรองทองสตรีวัยสี่สิบห้าปีนั่งไขว่ห้างอ่านเอกสารที่อยู่ในมือทุกตัวอักษร รอยยิ้มแห่งความพอใจระบายเต็มดวงหน้าสวยสดเรียบตึงดั่งสาวแรกรุ่น วางเอกสารลงบนโต๊ะตัวเตี้ยหลังจากที่อ่านจบ “แน่ใจนะคะว่าพินัยกรรมฉบับนี้จะไม่มีปัญหา” กรองทองเอ่ยถามอนุรักษ์ทนายความฝีมือดีที่เธอจ้างมาทำงานนี้โดยเฉพาะ “แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นลายเซ็นกำกับ วันเดือนปีที่ลงเอาไว้ พยานซึ่งเป็นชื่อของพ่อผม ทุกอย่างเหมือนจริงมากครับ ราวกับว่าหม่อมราชวงศ์จักรกฤษณ์เซ็นเองเลยครับ” อนุรักษ์ตอบอย่างมั่นใจว่าพินัยกรรมฉบับนี้สมบูรณ์เทียบเท่าของจริงที่ยังหาไม่เจอ “ขอบคุณมากนะคะ ไม่เสียแรงที่ดิฉันไว้ใจและเชื่อใจให้คุณอนุรักษ์ทำงานชิ้นนี้ให้” กรองทองเอ่ยเสียงหวาน ล้วงหยิบเช็คที่อยู่ในกระเป๋าถือออกมา ยื่นตรงหน้าทนายหนุ่มวัยสามสิบเก้า “ขอบคุณมากครับ” อนุรักษ์รับเช็คพับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตน “แล้วเรื่องที่ดิฉันให้ไปสืบหาหนูนิ ไม่ทราบว่าเรื่องไปถึงไหนแล้วคะ” เป็นอีกเรื่องที่กรองทองหนักใจ กลัวว่าลูกเลี้ยงคนนี้จะกลับมาเป็นตัวมารของเธออีกครั้ง กรองทองจึงต้องออกตามหาหม่อมหลวงนิสากร ทายาทอันชอบธรรมของตระกูลดิเรกพัฒน์ “ผมให้คนออกตามหาอยู่นะครับ แต่ไร้วี่แวว จะตามหาตามบัตรประชาชนก็ไม่ได้ เพราะคุณหนูนิไม่ได้ไปต่อบัตรประจำตัวประชาขนที่ขาดไป ญาติพี่น้องทางฝ่ายคุณชายก็ไม่ชอบคุณหนูนิกับคุณนิภาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณหนูนิไม่มีวันขอความช่วยเหลือแน่นอน เพื่อนของคุณหนูนิก็มีไม่มาก ผมให้คนสะกดรอยตามอยู่สักระยะ พวกเค้าไม่มีใครติดต่อกับคุณหนูนิเลยสักคนครับ ดูเหมือนว่าคุณหนูนิจะหายสาบสูญไปเลยนะครับ” หายสาบสูญ ถ้าเป็นได้อย่างนั้นก็ดีทุกสิ่งทุกอย่างของจักรกฤษณ์ก็จะเป็นของเธอกับลูกสาว โดยไม่มีมารที่ชื่อนิสากรมาเป็นก้างชิ้นใหญ่ เพื่อความไม่ประมาทเธอจ้างวานอนุรักษ์ให้ตามหานิสากร สี่ปีมาแล้วทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่ทราบข่าวคราวของลูกเลี้ยงคนนี้เลย “เร่งมือหน่อยนะคะ เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องเป็นห่วง ดิฉันจ่ายไม่อั้น” “ครับ ผมจะพยายามเต็มที่ ผมลานะครับ” อนุรักษ์ปลีกตัวกลับทันทีที่หมดหน้าที่ของตน “ทนายมาทำไมพี่กรอง” รังสีถามพี่สาวหลังจากที่เขาเดินลงมาจากชั้นบน มองเห็นร่างของอนุรักษ์เดินออกไปจากประตูมุขของบ้านพอดี “เอาพินัยกรรมมาให้” พี่สาวตอบเสียงเรียบ “ของจริงหรือของปลอม” “ปลอม” “แล้วพี่จะเปิดเมื่อไหร่ล่ะ” “จะเปิดวันครบรอบวันตายของไอ้แก่มันนะสิ เปิดวันนั้นแหละดีที่สุด” เธอคิดว่าวันนั้นเป็นวันที่เหมาะสม เนื่องจากทุกปีในวันครบรอบวันที่เสียชีวิตของจักรกฤษณ์ วงศาคณาญาติของเขาจะมารวมตัวกันที่นี่เป็นจำนวนมาก จะได้ประกาศให้รู้ๆ กันถ้วนหน้า “แล้วเค้าจะไม่สงสัยเอาเหรอพี่ พี่เขยของผมก็ตายไปตั้งสี่ห้าปีแล้ว แต่พินัยกรรมเพิ่งเจอ” รังสีอดห่วงในข้อนี้ไม่ได้ “ก็ไม่เห็นยาก ก็แค่บอกว่าหม่อมราชวงศ์จักรกฤษณ์สั่งเอาไว้ว่า พินัยกรรมจะถูกเปิดต่อเมื่อ ครอบรอบวันเสียชีวิตในปีที่ห้า ซึ่งมันก็ตรงกับปีนี้พอดี ทุกอย่างเคลียร์รับรองไม่มีใครสงสัยหรอก” กรองทองวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้ว เธอใช้ช่องว่างที่ญาติของจักรกฤษณ์ไม่พอใจนิภาที่เป็นเพียงบ่าวในบ้าน แต่มักใหญ่ใฝ่สูงอยากเป็นภรรยาของหม่อมราชวงศ์จักรกฤษณ์ผู้สูงศักดิ์ แม้ว่าญาติทางฝ่ายชายจะคัดค้านหากแต่ความรักที่จักรกฤษณ์มีให้มากเกินกว่าที่จะสนใจเรื่องยศศักดิ์ ต่อมานิภาคลอดบุตรสาวที่น่ารักคือนิสากร ทว่าเด็กน้อยหาได้นำพาความชื่นชมให้กับญาติของจักรกฤษณ์ไม่ จนกระทั่งอีกหนึ่งปีต่อมา นิภาได้เสียชีวิตลง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม