ฉันตื่นแต่เช้าเพราะรู้สึกปวดหัว น่าจะเพราะเมื่อคืนนอนเร็วไปหน่อย ปกตินอนตอนฟ้าสว่าง ฉันเดินลงมาข้างล่าง เจอพ่อกำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่ ฉันกำลังจะเดินไปหาพ่อที่โต๊ะอาหาร
พ่อ : มาก็ดีแล้ว ดูสิทำงามหน้าอะไรไว้//พ่อปาหนังสือพิมพ์ในมือมาใส่ตัวฉัน ฉันหยิบหนังสือพิมพ์จากพื้นขึ้นมาอ่าน ฉันเปิดดูหน้าแรก ข่าวของฉันเมื่อคืนพาดหัวข่าวใหญ่โต มีรูปตอนที่ฉันเยกับพี่ตันประกอบ ฉันเดินไปใกล้ๆพ่อ วางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะ
ฉัน : ไม่เห็นจะเรื่องใหญ่อะไรเลยพ่อ ก็แค่เรื่องสนุกๆของแอลซี่//ฉันพูดด้วยสี
หน้าปกติ
พ่อ : ยังไม่ใหญ่อีกหรอ//พ่อลุกขึ้นมายืน เพี๊ยะ!! พ่อตบหน้าฉันทันที ทำให้ฉันหน้าหันเซล้มไปจับขอบเก้าอี้ข้างๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อตบฉัน ฉันรู้สึกเจ็บใจและหน่วงมาก พ่อตามใจฉันตลอดแต่ครั้งนี้พ่อตบฉัน มันมากเกินไป
พ่อ : ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ชื่อเสียงบริษัทที่ฉันเป็นคนสร้างมากับมือต้องมาพังเพราะแกคนเดียว//ฉันจับแก้มตัวเองที่พ่อตบ หันกลับไปหาพ่อ
ฉัน : แล้วยังไง ห่วงหน้าตาตัวเองมากนักก็ตัดพ่อตัดลูกไปเลยไหมล่ะ คนอย่างพ่อทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว//ฉันน้ำตาคลอ จ้องหน้าพ่อด้วยความโกรธ
พ่อ : นี่มันกี่ครั้งแล้วแอลซี่ เรื่องที่แกไปตบตีแย่งผัวชาวบ้านมันกี่ครั้งแล้ว พ่อต้องคอยยัดเงินแก้ข่าวให้แกจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน หรือว่าพ่อตามใจแก
มากเกินไป//พ่อพูดด้วยเสียงหงุดหงิดชี้หน้าฉัน
ฉัน : เรื่องทั้งหมดเพราะพ่อทั้งนั้น ถ้าพ่อไม่ไล่แม่ไป ตอนนี้แม่ก็คงยังอยู่กับแอลซี่และแอลซี่จะไม่เป็นแบบนี้//ฉันร้องไห้ออกมา
พ่อ : ยังจะมาเถียงอีก เพราะตัวแกต่างหากที่ทำตัวแบบนี้ ยังจะมาโทษคนอื่น เดี๋ยว..//พ่อง้างมือจะตบฉันอีกรอบ
ฉัน : กรี๊ดดดดด ตบเลย ตบมาสิ แอลซี่ไม่อยากอยู่บ้านนี้แล้ว บ้านนรกแบบนี้ตายซะยังจะดีกว่า//ฉันกรี๊ดออกมาเสียงดัง ป้าหอมรีบวิ่งมาหาฉันด้วยความตกใจ
ป้าหอม : คุณหนูแอลซี่เป็นอะไรหรือเปล่า//ป้าหอมมาจับที่หน้าของฉัน ดูรอยแดงที่แก้ม
ฉัน : ถ้าแอลซี่ตาย พ่อถึงจะพอใจใช่ไหม แอลซี่เกลียดพ่อ//ฉันน้ำตาไหลออกมาจ้องหน้าพ่อด้วยความโกรธ
พ่อ : แอลซี่~~อย่าพูดแบบนั้น//พ่อเสียงอ่อนลง จะเข้ามากอดฉัน แต่ฉันหลบ แล้ววิ่งขึ้นบันไดทันที
ป้าหอม : คุณหนู~//เสียงป้าหอมเรียกฉัน แต่ฉันไม่สนใจ วิ่งขึ้นบันไดต่อ ตรงมาเข้าห้องนอนของฉันทันที
ฉัน : กรี๊ดดดด//ฉันกรี๊ดออกมาเสียงดัง ล้มตัวลงนอนบนเตียง แล้วร้องไห้โฮออกมาดังๆ จากนั้นฉันก็หลับไป สักพักฉันรู้สึกเหมือนมีคนนั่งอยู่ข้างๆ เอามือมาลูบหัว แต่ฉันยังไม่ได้เปิดตา
..?? ..: พ่อขอโทษ//ที่แท้คนที่เข้ามาคือพ่อนั่นเอง
พ่อ : พ่อคงทำลูกเจ็บและเสียใจ พ่อขอโทษจริงๆ เราอยู่กัน2คน แบบนี้ก็ดีแล้ว ลูกอย่าทิ้งพ่อไปไหนเลยนะ//พ่อพูดเศร้าๆเหมือนจะร้องไห้ ฉันเปิดตากว้่างลุกขึ้นไปกอดพ่อไว้ทันที
ฉัน : แอลซี่รักพ่อค่ะ//ฉันกอดพ่อไว้แน่นๆ
พ่อ : พ่อก็รักลูก//พ่อกอดฉันกลับมา
พ่อ : ที่แก้มเจ็บไหม//พ่อถามด้วยเสียงเบาๆ ฉันผละกอดออก พ่อมาจับที่แก้มที่พ่อตบ ฉันส่ายหน้าเบาๆ
พ่อ : พ่อขอโทษที่ทำรุนแรงกับลูก//พ่อทำหน้าเศร้า
ฉัน : แอลซี่ผิดเองค่ะ ที่ทำอะไรไปโดยไม่ได้คิดถึงหน้าพ่อและชื่อเสียงของพ่อ แอลซี่ขอโทษนะคะ//ฉันยกมือไหว้ไปที่หน้าอก พ่อสวมกอดฉันไว้แน่น
พ่อ : ไม่เป็นไรๆ พ่ออภัยให้ลูกเสมอ//พ่อพูดจบก็ผละกอดออก
พ่อ : ดูหน้าของลูกสิ เป็นรอยแดงไปหมดแล้ว พรุ่งนี้คงไปงานคุณหญิงจันทร์มณีไม่ได้แล้วล่ะ พ่อจะให้คนอื่นไปแทน
ฉัน : ไม่เป็นไรค่ะ แอลซี่จะไปเอง แค่ตบแป้งหนาๆหน่อยก็กลบรอยได้แล้ว
พ่อ : ตามใจแอลซี่นะ//พ่อเอามือเกี่ยวผมให้ฉัน
พ่อ : ไปกินข้าวข้างล่างกันไหม//พ่อพูดชวนขึ้น ฉันพยักหน้ารับ พวกฉันพ่อลูกทะเลาะกันบ่อย แต่ไม่เคยลงมือกันแรงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่พ่อตบฉัน แต่เมื่อพ่อมาง้อ ฉันก็กลับหายโกรธทันทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เช้าต่อมา ฉันแต่งตัวแต่เช้าด้วยชุดเดรสกระโปรงสีชมพูอ่อนแขนยาว วันนี้แต่งเรียบร้อยหน่อย เพราะต้องให้เกียรติงานการกุศลของคุณหญิงจันทร์มณี ที่จัดในเรือนจำ(ใจจริงไม่อยากไป) ฉันนั่งรถตู้ของที่บ้านออกมา เพราะฉันขี้เกียจขับเอง มาถึงหน้าเรือนจำ มีพวกนักข่าวเยอะมาก แค่ฉันรถจากรถตู้เท่านั้นแหละ นักข่าวทุกคนวิ่งมาล้อมฉันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ
นักข่าว : คุณแอลซี่เรื่องข่าวเมื่อวานจะว่ายังไงคะ//มีนักข่าวคนนึงจ่อไมค์ถามฉัน
ฉัน : เป็นแค่การแสดงละคร ที่พี่ตันทำเพื่อพิสูจน์รักแท้กับแฟนนะคะ ไม่มี
อะไรมาก//ฉันยิ้มสวยๆให้พวกนักข่าว พูดปฏิเสธไป พอข่าวเงียบเดี๋ยวทุกอย่างก็จบ คนไทยลืมง่ายอยู่แล้ว
นักข่าวอีกคน : เล่นละครถึงพริกถึงขิงขนาดนั้น แค่พิสูจน์รักเองหรอ//นักข่าวอีกคนถามขึ้น
ฉัน : ค่ะ เรื่องนี้ต้องไปถามพี่ตันเองค่ะ แต่วันนี้แอลซี่อยากให้ทุกคนโฟกัสงานการกุศลของคุณหญิงจันทร์มณีมากกว่านะคะ ถือว่าให้เกียรติเจ้าของงาน นั่นไงคุณหญิงมาแล้ว//ฉันชี้ไปยังประตูทางเข้าเรือนจำ คุณหญิงหัวฟู แต่งหน้าหนา ใส่ชุดผ้าไหมสีทอง เดินออกมาพอดี นั่นก็คือิีแม่เล้า เฮ้ย!! นั่นคือคุณหญิงจันทร์มณี หล่อนหันมาทางฉัน ฉันเลยต้องเดินไปหาหล่อน
ฉัน : สวัสดีค่ะคุณหญิง//ฉันยกมือไหว้ย่อตัวงามๆอย่างกุลสตรีไทย พร้อมทั้งฉีกยิ้มหน้าบานให้คุณหญิง สังคมใส่หน้ากากก็แบบนี้แหละ
คุณหญิง : อ้าวแอลซี่มาแล้วหรอ ขอบใจมากที่มางานการกุศลของป้านะจ๊ะ//อีคุณหญิงพูดแล้วเข้ากอดฉันไว้ แชะ!! แชะ!! พวกนักข่าวกดชัตเตอร์รัวๆ ฉันและคุณหญิงหันไปยิ้มให้กล้อง
คุณหญิง : เรื่องเมื่อคืนเป็นข่าวใหญ่ เธอแซ่บมาก//คุณหญิงปากยังยิ้มให้นักข่าว พูดออกเสียงแทบไม่ขยับปากสักนิด
ฉัน : เรื่องของฉัน//ฉันเองก็ทำแบบหล่อน พูดออกเสียงแต่ปากยังยิ้มเหมือนเดิม
คุณหญิง : สนใจจะมาร่วมงานกับฉันไหม//อีคุณหญิงยังพยายามพูดแบบเดิม ความสามารถพิเศษของหล่อนชัดๆ
ฉัน : ไม่ล่ะ บ้านฉันรวย คุณลองไปชวนลูกสาวของคุณดูสิ//ฉันกัดฟันไว้แน่น ฉีกยิ้มกว้างๆให้พวกนักข่าว
คุณหญิง : อีนี่!! //อีคุณหญิงหันมาตวาดใส่ฉัน แล้วหันไปฉีกยิ้มให้กล้อง
คุณหญิง : ได้เวลาแล้ว เชิญน้องนักข่าวเข้าข้างในกันดีกว่า//อีคุณหญิงเดินนำเข้าไปในเรือนจำ ฉันเดินตามเข้าไป พวกนักข่าวเดินตามหลังเข้ามา จัดงานตรงที่โล่งทางเข้านี่แหละเพราะถ้าจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน สภาพในเรือนจำอีคุณหญิงมันเนรมิตให้สวยเหลือเกิ๊น (ประชด) ตกแต่งด้วยโบว์สีชมพู มีเวทีกลางแจ้ง ด้านหลังติดป้ายชื่อของมันตัวใหญ่ กลัวไม่มีคนรู้มั่งว่ามันเป็นเจ้าของงาน ด้านข้างในอาคารมีเหล่านักโทษชายในชุดสีน้ำตาลนั่งอยู่ที่พื้นประมาณเกือบ50คน มีคนที่ใส่ชุดสีกากียืนล้อมพร้อมนัันไว้ ฉันเดินไปนั่งหน้าเวที ที่มีเก้าอี้ัเตรียมไว้สำหรับแขก แขกในงานมากันหลายคนแล้ว แต่ละคนแต่งตัวดูดีทั้งนั้นผู้ชายใส่สูทผูกเนคไท ส่วนผู้หญิงก็แต่งตัวดีมีเฟอร์นิเจอร์ครบชุดเหมือนใส่มาอวดกัน ฉันรู้สึกว่ามีคนจ้องเลยหันไปมองที่เหล่านักโทษที่นั่งอยู่
พวกนักโทษ : ฮิ้ว~~หันมาแล้วโว้ย//ไอ้พวกนักโทษต่างแซวฉันมาเสียงดัง สภาพแต่ละคนตัวดำ สกปรก แต่ละคนมองฉันด้วยสายตาหื่น ฉันรู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันที ผู้คุมหันไปดุ พวกมันเลยเงียบกันไป ฉันหันกลับมามองที่บนเวที อีคุณหญิงเดินขึ้นเวทีไปพอดี
คุณหญิง : สวัสดีแขกทุกๆท่าน อันดับแรกต้องขอขอบคุณที่ทุกๆท่าน เสียสละเวลามางานของดิฉัน ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก ปลาบปลื้มใจที่ได้มีโอกาสมามอบเงินบริจาคให้เรือนจำแห่งนี้ได้ใช้ประโยชน์มากที่สุด//แปะ!! แปะ!!
เสียงปรบมือจากแขกดังขึ้น
คุณหญิง : ต่อไปจะขอแนะนำท่านพัศดีที่ดูแลเรือนจำแห่งนี้ค่ะ เชิญท่านพัศดีขึ้นมาบนเวทีค่ะ//มีผู้ชายวัยกลางคน ร่างสูง ใส่ชุดสีกากีเดินขึ้นไปบนเวที คงจะเป็นพัศดีแหละ ฉันไม่สนใจ หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาSelfie ลงในไอจี ติดHashtag #แม่พระใจบุญ แค่ลงรูปไม่ถึง5นาที มีคนมากดไลค์ ถึง1000คน เพราะในไอจีของฉันมียอด follow ถึง8แสนคน ฉันนั่งSelfieไปหลายรูป ส่งให้พ่อดูว่าฉันมางานแล้วจริงๆ แปะ!! แปะ!! จากนั้นเสียงปรบมือดังขึ้น ทำเอาฉันตกใจ รีบปรบมือตาม ฉันเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า หันไปมองบนเวที
พัศดี : ขอขอบคุณคุณหญิงจันทร์มณีที่นำเงินบริจาค1ล้านบ้านมามอบให้เรือนจำของเรา ผมจะนำเงินนี้ไปพัฒนาเรือนจำ โดยการเพิ่มเติ่มวิชาชีพให้แก่พวกนักโทษต่อไปครับ//พัศดีพูดขึ้น ในมือถือป้ายใหญ่เขียนชื่ออีคุณหญิงและจำนวนเงินตัวใหญ่มาก สงสัยอีคุณหญิงกลัวคนมองไม่เห็นมั่ง
คุณหญิง : ปรบมือค่ะ ปรบมือ//อีคุณหญิงพูดให้แขกร่วมปรบมือให้พัศดึ แปะ!! แปะ!! เสียงปรบมือดังขึ้น ฉันปรบมือตามแบบเซงๆด้วยความเบื่อ อยากให้งานจบเร็วๆ ร้อนก็ร้อนๆ งานก็น่าเบื่อ ฉันเอามือซ้ายค้ำคางไว้ เอามือขวาพัดหน้าตัวเอง
พัศดี : ต่อไปจะให้นักโทษชายดีเด่นขึ้นมากล่าวอะไรเล็กน้อยนะครับ//แปะ!! แปะ!! ฮิ้ว~มีทั้งเสียงปรบมือที่ดังขึ้นกว่าเก่าและเสียงโห่ร้องมาจากพวกนักโทษ ฉันหันไปมองพวกนักโทษด้วยสายตาตำหนิ รำคาญ ไร้มารยาท แล้วหันกลับมามองบนเวที ฉันถึงกลับตาค้าง เพราะนักโทษที่ขึ้นมาใหม่ มายืนข้างๆพัศดีโคตรหล่อเลยล่ะ ผิวขาว หน้าเนียน ผอมสูง คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ฉันแอบเห็นที่ท้ายทอยมีรอยสักด้วย แบดมากพ่อคู๊ณ โอ๊ย~ทำไมในเรือนจำถึงมีคนหล่อแบบนี้ อยู่แต่ในนี้เสียดายของชะม้ด มดลูกสั่นขึ้นมาเลยจ๊ะ อยากรู้ว่าเวลาขย่มเข้ามาจะแรงขนาดไหน ฉันจินตนาการไปไกล มองที่เป้ากางเกงขาสั้นตัวสีน้ำตาลของนักโทษคนนั้นแล้วเลียปากล่างตัวเอง พัศดีส่งไมโครโฟนให้นักโทษคนนั้นถือไว้ ดูท่าจับไมค์สิ อยากรู้จังไมค์ข้างล่างจะใหญ่กว่าไมค์ที่จับขนาดไหน
นักโทษ : ผมเป็นตัวแทนนักโทษในเรือนจำแห่งนี้ ขอขอบคุณเงินบริจาคจากคุณหญิงมากๆ//นักโทษคนนั้นพูดออกไมค์ เสียงต่ำทุ้มอย่างเท่ห์ เวลาครางคงเร้าอารมณ์มาก แปะ!! แปะ!! เสียงปรบมือดังขึ้น ฉันปรบมือให้ดังๆอย่างออก
นอกหน้า
คุณหญิง : ไม่ต้องขอบคุณก็ได้//อีคุณหญิงเข้าไปกอดนักโทษคนนั้นทันที
นักโทษ : ฮู้ย~~//เสียงเหล่านักโทษที่นั่งอยู่ใน้อาคารโห่ร้องแซวมา
ฉัน : อีเชี้ย!! //ฉันพูดขึ้นเบาๆ อีป้ามึงแรดมากอีสัส กอดคนของกูได้ยังไง (มโนเป็นผู้ชายของตัวเอง) ผัวนักโทษของฉัน เฮ้ย!! นักโทษคนนั้นผลักตัวอีแก่ออก เมื่ออีแก่นั่นได้กอดเรื่องอะไรฉันจะยอมล่ะ นักโทษส่งไมค์กลับไปให้พัศดี
ฉัน : ฉันขอบริจาค2ล้าน!! //ฉันลุกขึ้นยืน ตะโกนพูดไปบนเวที (เปย์ขนาดนี้ต้องได้ยิ่งกว่ากอดสิวะ) ทุกสายตาหันมามองฉันกันเป็นตาเดียว ร่วมถึงนักโทษบนเวทีคนนั้นด้วย สายตานักโทษคนนั้นเย็นชามาก คอยดูเถอะจะเอาให้มานอนหมอบที่หว่างขา
คุณหญิง : คุณแอลซี่จะบริจาคจริงๆหรอ ไม่ใช่แค่พูดเล่นใช่ไหม//อีคุณหญิงพูดถามฉันทางไมค์ ฉันเดินขึ้นไปบนเวทีทันที ฉันไปยืนข้างคุณหญิง ดึงไมค์จากมือหล่อนมา
ฉัน : ฉันจากบริษัทPP (ชื่อบรัษัทของพ่อฉัน) จะมอบเงินบริจาคให้ทางเรือนจำแห่งนี้2ล้านบาท//ฉันพูดยิ้ม สายตามองแต่นักโทษคนนั้น แชะ!! แชะ!! นักข่าวพากันกดชัตเตอร์รัวๆ
พัศดี : งั้นผมก็ต้องขอขอบคุณมากๆครับ//พัศดีพูดออกไมค์
ฉัน : แบบนี้ต้องมีกอดด้วยสิ//ฉันพูดจบ ส่งไมค์กลับไปให้อีคุณหญิง เดินไปกอดนักโทษคนนั้นไว้แน่นๆ เอานมแนบชิดที่อกของนักโทษคนนั้นทันที
..?? ..: ฮิ้ว~~หวืด~~//มีเสียงแซวเถื่อนๆมา ไม่หันไปมองก็รู้ว่ามาจากพวกนักโทษที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ฉัน : นายต้องมาเป็นผัวฉัน//ฉันพูดเบาๆกระซิบที่หูของนักโทษ เอามือซ้ายจับแปะที่ก้นและเอาเข่าดันที่เป้ากางเกงของนักโทษคนนั้นอย่างไม่อาย ฉันทำเนียนไปๆ นักโทษผลักตัวฉันออกทันที ฉันขยับถอยหลังมา แล้วส่งยิ้มหวานๆให้นักโทษคนนั้น แต่มันกลับทำหน้าบึ้งเหมือนโกรธอะไรสักอย่าง แต่ถึงจะบึ้งยังไงแต่ก็ยังเท่ห์เร้าใจแอลซี่มากค่ะ จะว่าไปก้นนักโทษคนนั้นแน่นเปี๊ยะ เค้าบอกถ้าผู้ชายก้นแน่นๆแสดงว่าไอ้นั่นจะใหญ่ โอ๊ยๆๆแอลซี่ชอบค๊าาา
พัศดี : เอาล่ะๆ ผมต้องขอขอบคุณยอดบริจาครวมเป็นเงิน3ล้านบาท ขอบคุณจริงๆครับ//พัศดีพูดออกไมค์ แปะ!! แปะ!! เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง
คุณหญิง : งานวันนี้จบลงด้วยดี ขอเชิญแขกทุกท่านรับประทานอาหารพร้อมกันที่ห้องรับรองด้านในเลยนะคะ พวกน้องๆนักข่าวด้วยนะ//อีคุณหญิงส่งยิ้มให้ทุกคน พวกแขกต่างทยอยกันลุกขึ้นยืนเดินออกไปยังห้องรับรองด้านหลัง ส่วนพวกนักข่าวก็ต่างพากันเก็บกล้องเก็บอุปกรณ์ทยอยกันเดินตามแขกไป
คุณหญิง : จะข้ามหน้าข้ามตาแย่งซีนฉันหรอยะ//อีคุณหญิงหันมาพูดเบาๆกับฉัน
ฉัน : ใครจะแย่งซีนคุณหญิงล่ะ ฉันแค่อยากบริจาคจริงๆเพราะฉันเห็นแก่..//ฉันพูดและหยุดลงหันไปมองนักโทษคนนั้นที่กำลังเดินตามหลังพัศดีลงจากเวทีไป ฉันกำลังจะเดินตามไป หมับ!! อีคุณหญิงจับมือฉันไว้ ฉันหันกลับไป
ฉัน : มีอะไรอีกคุณหญิง//ฉันถามด้วยเสียงหงุดหงิด หันกลับไปดูนักโทษคนนั้นที่กำลังจะเดินเข้าอาคารไป
คุณหญิง : เธอต้องยกเลิกเรื่องเงินบริจาคซะ//ควับ!! ฉันหันกลับไปมองหน้าคุณหญิงทันที
ฉัน : อะไร!! ฉันพูดออกไปขนาดนั้นแล้ว ฉันก็ต้องบริจาคสิ คุณหญิงอย่ามา
ไร้สาระ//ฉันสบัดมืออีคุณหญิง แต่มือมันเหนียวกว่าตุ๊กแกอีก
คุณหญิง : ข่าวหน้า1ต้องโพสต์เรื่องเงินบริจาคของฉัน ไม่ใช่พูดถึงเงินบริจาคของเธอ//อีคุณหญิงมันจิกใส่ฉัน
ฉัน : ไร้สาระ อยากเป็นข่าวหน้า1ก็บริจาคเพิ่มไปอีกดิ หรือว่ามีปัญญาหาเงินได้แค่นั้น ถ้ามีเงินแค่นั้นก็ไม่ต้องบริจาคก็ได้ เก็บไว้ประกันตัวคุณหญิงเวลาถูกตำรวจจับเถอะ//ฉันใช่แรงสบัดแขนอีกครั้ง จนหลุดจากมืออีคุณหญิง แล้วฉันก็รีบวิ่งลงจากเวที
คุณหญิง : กลับมาเดี๋ยวนี้!! //อีคุณหญิงมันตะโกนตามหลังมาแต่ฉันไม่สนใจ รีบวิ่งด้วยรองเท้าส้นสูงที่ใส่อยู่ตามนักโทษคนนั้นไปทันที ฉันตามเข้ามาในอาคารเพราะจำได้ว่านักโทษคนนั้นมาทางนี้ จนเห็นหลังไวไวชุดสีน้ำตาล ท้ายทอยมีรอยสัก ใช่แน่ๆ ฉันชะลอ เปลี่ยนเป็นเดินตามนักโทษคนนั้นไปอย่างเงียบๆ