"เลือกได้หรือยังแม่คุณ! แค่เลือกกระเป๋าก็ปาไปเป็นชั่วโมงแล้วนะขวัญข้าว ชอบใบไหนก็หยิบมาเถอะ! จะเลือกอะไรนักหนาก็ไม่รู้" คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้ขวัญข้าวแอบชำเลืองหางตามองค้อนไปที่ใบหน้าคม ด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจ ถ้าเธอไปตลาดคงได้มาหลายใบ แต่ตอนนี้คงต้องทำใจหยิบมาสักใบ เพื่อไม่ให้เขานั้นว่าเธอได้
"เอาใบนี้ก็แล้วกันค่ะ" หญิงสาวหยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์เนมสีดำ ยื่นให้พนักงานไปหนึ่งใบ
"ใบนี้ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์นะคะ ราคาจะเหลือแค่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทเท่านั้น ตกลงคุณผู้หญิงรับใบนี้ใช่ไหมคะ" พนักงานสาวสวยถามขวัญข้าวออกมาด้วยรอยยิ้ม
"ใช่ค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบบัตรเครดิตออกมา ซึ่งเธอใช้มันอย่างประหยัด จะรูดบัตรเฉพาะในยามที่จำเป็นเท่านั้น
"ไม่ต้องเดี๋ยวฉันจ่ายเอง เอาใบนี้ ใบนี้ แล้วก็ใบนี้ด้วยทั้งหมดรวมเป็นเจ็ดใบ" อัครเดชที่สังเกตการณ์อยู่นาน เขาพอจะเดาได้ว่าทำไมเธอถึงไม่เลือกสักที
"ไม่ค่ะ! ขวัญเอาใบนี้ใบเดียว ส่วนอีกหกใบ ถ้าพี่จะเอาก็เอาไว้ใช้เองแล้วกันนะคะ รูดบัตรเลยค่ะ" แม้ว่าขวัญข้าวจะรู้สึกเสียดายเงิน แต่เธอก็ไม่ชอบรับของจากใคร โดยเฉพาะผู้ชายอย่างอัครเดช เมื่อหญิงสาวกำลังคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องซื้อให้กับเธอ เพราะทุกวันนี้บุญคุณจากมารดาของชายหนุ่มก็ท่วมหัวเธอจนไม่รู้จะชดใช้ยังไงหมด ขวัญข้าวจึงไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณเขาอีกคน
"แล้วนั่นจะรีบไปไหน" เสียงทุ้มอันมีพลังของอัครเดชเปล่งออกมาดังจนคนแถวนั้นมองมาที่เขาเป็นตาเดียว เมื่อขวัญข้าวได้กระเป๋าจากพนักงาน เธอก็รีบเดินออกมาจากร้านทันที
"กลับบ้าน! แล้วพี่ไม่ต้องไปส่งขวัญหรอก เดี๋ยวขวัญจะเรียกแท็กซี่กลับเอง เพราะจะแวะตลาดด้วย" หญิงสาวหันมาพูดกับชายหนุ่ม โดยไม่แคร์สายตาของใครเลยในตอนนี้ เพราะกระเป๋าใบเดียวทำให้เธอนั้นสูญเงินไปเป็นหมื่นแล้ว
"ฉันยังไม่ได้สั่งให้เธอกลับ เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะกลับ! มานี่! ยังมีรองเท้าและก็ชุดที่เธอยังไม่ได้ซื้อ" อัครเดชพูดพร้อมกับฉุดข้อมือเรียวให้เดินตามเขาเข้าไปในร้านรองเท้า ซึ่งแต่ละคู่นั้นบอกได้คำเดียว ราคาของมันไม่แตกต่างจากกระเป๋าเลยสักนิด
"เลือกเดี๋ยวฉันจะจ่ายเอง และอย่าบอกนะว่าจะเอาคู่เดียว เพราะเธอต้องไปทำงานทั้งหมดหกวันเลือกมาหกคู่ หรือมากกว่านั้นก็ได้ ไม่อย่างนั้นฉันจะโทรไปบอกแม่ว่าเธอขัดคำสั่งของฉัน แล้วจะส่งกลับเชียงใหม่ทันที" คำขู่ของอัครเดชได้ผล ซึ่งขวัญข้าวนั้นไม่ได้กลัว เพียงแค่เธอไม่อยากให้มารดามีเรื่องไม่สบายใจเพิ่มขึ้น จึงยอมทำตามเขาอย่างว่าง่าย และแต่ละคู่ที่หญิงสาวเลือกลดราคาเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ทั้งนั้น
"ทั้งหมดสามหมื่นแปดพันเก้าร้อยบาทค่ะ จะจ่ายเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตดีคะ" พนักงานสาวถามออกมา ในขณะที่อัครเดชนั้นรีบหยิบบัตรเครดิตส่งให้กับเธอ เพราะไม่อยากให้ขวัญข้าวจ่ายอีก
"ชำระด้วยบัตรใบนี้ค่ะ" ขวัญข้าวเองก็รีบยื่นบัตรให้กับพนักงาน เพราะต่อให้เธอต้องจ่ายจนหมดตัว ก็จะไม่ยอมให้พี่ชายจอมปลอมต้องควักเงินจ่ายให้เธอเป็นเด็ดขาด
"หึ! อวดดี" ชายหนุ่มหัวเราะอยู่ในลำคอ พร้อมกับสบถออกมาเบาๆ แต่ขวัญข้าวก็ได้ยินชัดเจน
"มีอะไรที่จะต้องซื้ออีก ก็รีบพาขวัญไปสิคะ จะได้ซื้อทีเดียวให้มันจบๆ จะได้กลับบ้านสักที" หญิงสาวพูดพร้อมกับหิ้วของพะรุงพะรังออกมาจากร้านรองเท้า แม้ว่าอัครเดชจะแย่งมาถือเธอก็ไม่ยอม วันนี้แม่จะขอทำตัวเป็นเด็กดื้อให้สุดโต่งไปเลยสักวัน ขวัญข้าวกำลังขัดใจกับของแบรนด์เนมที่ชายหนุ่มกำลังยัดเยียดให้เธอได้ใช้
"เชิญค่ะคุณลูกค้า จะรับชุดแบบไหนดีคะ" หญิงสาวแสนสวยเดินเข้ามาทักทายอัครเดช พร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ แล้วถามชายหนุ่มออกมา ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
"ผมขอชุดที่ดูดีสำหรับพนักงานออฟฟิศ ให้กับคุณผู้หญิงท่านนี้สักสิบสองชุด" ชายหนุ่มพูดออกมาในจังหวะที่ขวัญข้าวเดินมาถึงร้านพอดี หญิงสาวเข่าแทบทรุด เมื่อชายหนุ่มบอกจำนวนชุดกับทางร้านออกไป
"นี่พี่เสือ! จะเอาให้ขวัญล้มละลายเลยหรือไงเอาแค่สองสามชุดก็พอแล้วมั้งคะ" ขวัญข้าวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตกอกตกใจ ก่อนจะค่อยๆ แผ่วเบาลงเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่อ้อนๆ แทรกเข้ามาแทน จนชายหนุ่มที่ยืนกอดอกหันหลังให้กับเธอนั้น ถึงกับแอบฉีกยิ้มกว้าง
เพราะนอกจากเธอจะไม่ยอมให้เขาจ่ายแล้ว ขวัญข้าวยังไม่ยอมให้เขาถือของช่วยเธออีก ระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งวันเธอกำลังจะทำให้เขานั้นรักจนหมดใจ แต่ชายหนุ่มก็ไม่กล้าแสดงอะไรออกไปมาก เพราะเขาอยากให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ที่สำคัญถ้าเธอคงไม่โอเคกับความรู้สึกที่เขามีให้ มันจะกลายเป็นประเด็นสำคัญ เพราะอยู่บ้านเดียวกัน อาจจะทำให้เขาและเธอนั้น มองหน้ากันไม่ติดอีกเลยก็เป็นได้
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจ่ายให้เอง" ชายหนุ่มรีบพูดเสียงเข้มออกมา จนขวัญข้าวนั้นทำหน้างออย่างงอนๆ เพราะเธอนั้นต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกไม่รู้กี่หมื่น
"ชุดของขวัญ ขวัญก็จ่ายเองสิ พี่จะจ่ายให้ทำไมเล่า จะให้ซื้ออะไรอีกก็บอกมาเอาที่สบายใจเลย" หญิงสาวพูดพร้อมกับวางของลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้สำหรับลูกค้า ที่มาใช้บริการภายในร้าน
"คุณเสือ! แพมมองอยู่ตั้งนานเลยตามคุณมาจากร้านรองเท้า แอบมาซื้อของไปให้สาวที่ไหนคะเนี่ย" หญิงสาวหุ่นเซ็กซี่ใส่ชุดโชว์เนื้อหนังมังสา แต่งหน้าทาปากมาเต็มรีบเดินเข้ามาเกาะแขนชายหนุ่มอยู่กลางร้านด้วยท่าทางที่สนิทสนม
"มานั่งก่อนค่ะคุณเสือ แพมมีเรื่องจะคุยกับคุณหลายเรื่องเลย นี่เธอลุกไปนั่งที่อื่นซิ! เด็กรับใช้ที่บ้านคุณ ดูไม่ค่อยมีมารยาทเลยนะคะ" หล่อนพูดพร้อมกับเบ้ปากมาที่ขวัญข้าวอย่างเหยียดๆ ด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ แม้ว่าเธอนั้นจะแต่งตัวธรรมดา แต่เค้าโครงใบหน้าของหญิงสาวก็ดูสวยสะดุดตา จนคู่ขาของชายหนุ่มรู้สึกไม่ถูกชะตา เพราะคิดว่าถ้าหากคนใช้ที่บ้านสวยแบบนี้ เสืออย่างเขาคงไม่ปล่อยให้เธอลอยนวลแน่ แค่คิดแพมก็รู้สึกแย่ เพราะทุกวันนี้เขาก็แทบจะไม่แวะไปหาหล่อนที่คอนโดเลยด้วยซ้ำ
ขวัญข้าวไม่ได้สนใจเสือหนุ่มกับคู่ขาของเขา เธอเดินตรงเข้าหาพนักงาน พร้อมกับยื่นบัตรให้ โดยที่ไม่ได้สังเกตชุดที่พนักงานเลือกไว้ "จ่ายด้วยบัตรใบนี้นะคะ"
"คุณผู้หญิงจะไม่ดูชุดก่อนเหรอคะ ถูกใจหรือเปล่าก็ไม่รู้ สำหรับชุดที่ดิฉันเลือกเอาไว้ให้ แต่ก็มั่นใจว่าคุณจะใส่ได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ตัวเล็กๆ แบบนี้ ใส่ชุดไหนก็สวยแถมคุณยังเป็นคนที่สวยอยู่แล้ว" พนักงานสาวกล่าวชื่นชมขวัญข้าวออกมาจากใจเพราะเธอมองมุมไหนหญิงสาวก็สวยสะดุดตา มีเพียงแค่แพมคู่ขาของเสือหนุ่ม ที่มองเห็นเธอเป็นเพียงแค่คนรับใช้
"ขอบคุณนะคะ ชุดไหนขวัญก็ใส่ได้ทั้งนั้นละค่ะ ขวัญเองก็เชื่อใจคุณพี่ว่าจะเลือกให้ตรงตามที่สาวออฟฟิศเขานิยมใส่กัน" หญิงสาวพูดพร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ ไปให้กับพนักงาน เพราะเธอเองก็ไม่ถนัดเลือกชุดสักเท่าไหร่
"ตกลงตามนี้นะคะ" พนักงานพูดแล้วรูดบัตร พร้อมกับจัดแจงชุดให้กับขวัญข้าว ขณะที่แพมกำลังอ้อนให้เสือหนุ่มซื้อชุดใหม่ให้กับหล่อน เพราะเขามักจะเปย์หนักทุกครั้งเวลาที่หญิงสาวเอ่ยปากขอ
"คุณจะเอาชุดไหนก็ไปเลือกสิ ผมจะได้จ่ายทีเดียว" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับแอบชำเลืองมองไปที่ขวัญข้าว เพราะในเวลานี้หญิงสาวกำลังเดินสำรวจชุดในร้าน พร้อมกับทำตาลุกวาว เมื่อเห็นป้ายราคา แต่เธอก็พยายามเก็บอาการเหล่านั้นเอาไว้ และกำลังคิดว่าต้องทำงานอีกกี่เดือนถึงจะได้เงินที่จ่ายไปทั้งหมดคืนมา