ย้อนกลับมาที่หวงเหยียนหลง หลังจากที่กลับมาจากตระกูลเหอ ชายหนุ่มจึงเข้ามาที่ไนต์คลับของตนเอง วันนี้เขาเกิดอยากจะดื่มขึ้นมา
จึงได้เข้ามาที่นี่แทนที่จะกลับบ้าน
“สวัสดีครับนาย วันนี้นายดื่มเหมือนเดิมไหม” ผู้จัดการไนต์คลับเดินเข้ามาทักทายและสอบถามว่าอยากจะดื่มเหมือนเดิมไหม
“อืม เอามาเหมือนเดิม แล้วอย่าให้ใครมารบกวนล่ะ ฉันต้องการอยู่อย่างสงบ”
หวงเหยียนหลงรู้ดีว่าเมื่อไหร่ที่เขาเข้ามาที่นี่มักจะมีบรรดาพนักงานสาวแย่งกันเข้ามาดูแล สำหรับเขาเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ จบความสัมพันธ์ก็จ่ายเงิน และตัวเขาไม่เคยเรียกให้ใครมาดูแลซ้ำ ถ้าจะบอกว่าตั้งแต่อดีตภรรยาหนีตามชู้ไปเขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหน คงจะไม่ถูกต้อง คำว่าผู้ชายเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีความต้องการ เพียงแต่เขาไม่อยากจะเอาใครมาเป็นห่วงผูกคอ จึงใช้เงินแก้ปัญหาในการปลดปล่อย
ชายหนุ่มเข้ามาในห้องส่วนตัว จากนั้นจึงนั่งพิงโซฟาและหลับตาพร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์ในวันนี้ที่เกิดขึ้น และวิเคราะห์ถึงความเปลี่ยนแปลง
ของน้องสาวเพื่อน รวมไปถึงรอยยิ้มที่แสนซื่อและบริสุทธิ์ของเด็กน้อยที่ชื่อหลิงหลิง
“เพราะความไม่รู้จักพอสินะ ทำให้คุณต้องสูญเสียเมียและลูกไป
ผู้พันเมิ่ง”
หวงเหยียนหลงพึมพำออกมาคนเดียว คิดแล้วก็ขำกับชะตาชีวิต
ผู้พันเมิ่ง ชายหนุ่มอนาคตไกลรูปร่างหน้าตาไม่ด้อยไปกว่าใคร แต่ครอบครัว
ต้องมาพังทลายด้วยมือของตนเอง
วันนี้เขาสังเกตดูแววตาของคุณหนูเหอ เธอไม่มีแววตาที่บ่งบอกว่าล้อเล่นหรือน้อยใจ เพราะสิ่งที่เขาเห็นนั้นมีแต่ความเด็ดเดี่ยวและคิดจะตัดขาดกับสามี
ในขณะที่หวงเหยียนหลงกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย กลับมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเลยคิดว่าคงเป็นพนักงานเอาเครื่องดื่มมาให้เลยไม่คิดสนใจ แต่แล้วอยู่ ๆ กลับมีมือเล็กมาลูบไล้แผ่นอกที่เขาเปิดเสื้อไว้
“ทำอะไร!” หวงเหยียนหลงลืมตาขึ้นมาจึงเห็นพนักงานสาวคนหนึ่ง
เป็นคนถือวิสาสะเข้ามาลูบไล้ร่างกายเขา เพื่อปลุกความเป็นชายในตัวเขาขึ้นมา
“ให้ฉันได้ดูแลคุณหวงในวันนี้นะคะ”
หญิงสาวกัดปากเล็กน้อยพร้อมกับใช้มือเขี่ยตรงอกของเจ้านายที่เธอคิดจะดูแลเขาคืนนี้เผื่อว่าคุณหวงจะติดใจแล้วเกิดรับเลี้ยงเธอขึ้นมา
ขอแค่เป็นเมียเก็บเธอคงสบายไปทั้งชาติ
“ออกไป”
“นะคะคุณหวง ให้ฉัน…” พนักงานยังคงดื้อดึงเพื่อขอดูแลเขาในคืนนี้
คราวนี้หวงเหยียนหลงไม่พอใจมาก หากเขามีความต้องการเรื่องนั้นเขาจะเป็นคนให้คนสนิทจัดหามาให้เอง ไม่ต้องให้ใครมาเสนอถึงที่
ยิ่งวันนี้เขาต้องการอยู่อย่างสงบและสั่งไว้แล้วว่าอย่าให้ใครมารบกวน
แต่ในเมื่อมีคนไม่กลัวตาย เขาคงต้องทำให้เห็นว่าห้ามขัดคำสั่งของเขา
“อาฟง!”
“ครับนาย” อาฟงรีบเดินเข้ามา เมื่อครู่นี้เขาเดินไปดูงานเพียงไม่นาน
ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้น และพอเห็นว่ามีพนักงานสาวคนหนึ่งนั่งลงกับพื้นด้วยอาการสั่นเทา
“นายลากผู้หญิงคนนี้ออกไป แล้วอย่าให้กลับมาเหยียบที่นี่อีก
ถ้าใครมีปัญหาหรือกล้าขัดคำสั่งอีกก็ไล่ออกให้หมด”
หวงเหยียนหลงหงุดหงิดขึ้นมาจึงเลือกที่จะเดินออกไปหลังจากพูดจบ ในเมื่อดื่มที่นี่แล้ววุ่นวายกลับไปดื่มที่บ้านน่าจะดีกว่า
อาฟงตกใจกับคำสั่งเจ้านาย และคิดว่าอนาคตการทำงานของพนักงานสาวคนนี้คงหมดแล้ว
“ฉันสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามาวุ่นวานกับเจ้านายไม่ใช่หรือไง”
“ฮือ ๆ ฉันก็แค่อยากมาดูแลคุณหวง ไม่คิดว่าท่านกำลังอารมณ์
ไม่ดี คุณฟง คุณอย่าไล่ฉันออกเลยนะ ฉันยังต้องเลี้ยงดูอีกหลายชีวิต”
พนักงานสาวพยายามบีบน้ำตาเรียกร้องความน่าสงสารออกมา
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอเข้ามาหาเจ้านายทำไม นี่คือน้ำใจจากเจ้านาย
ที่ทำแค่ไล่ออก”
พูดจบอาฟงก็เดินจากมา ไม่สนใจเสียงร้องไห้คร่ำครวญของพนักงานสาวคนนั้นอีกเลย
คฤหาสน์ตระกูลหวง
ด้านหน้าคฤหาสน์ของตระกูลหวง มีรถยนต์จอดอยู่ด้านหน้าหนึ่งคัน
ซึ่งเป็นของพี่น้องบ้านหลู่ที่มาจอดรอเพื่อจะเข้าไปหาแม่บ้าน เมื่อจอดรอนานแล้ว
จึงตัดสินใจเข้าไปสอบถามคนเฝ้าประตู แต่ไม่คิดว่ารถยนต์ของหวงเหยียนหลง
ขับเข้ามาพอดี
“เดี๋ยวก่อนครับคุณหวง”
หวงเหยียนหลงเมื่อได้ยินเสียงเรียกจึงหันกลับไปมอง พอเห็นว่าเป็นคนที่เขาให้เงินทุนไปสร้างภาพยนตร์ จึงกวักมือให้คนดูแลหน้าประตูเปิดให้สองพี่น้องเข้ามา
“เอ่อ คือพวกเรามีเรื่องจะรบกวนป้าแม่บ้านหน่อยครับ”
หลู่หงเย่วเอ่ยขึ้นหลังจากที่ลงจากรถและมายืนตรงหน้าของนายทุนพวกเขา
“อืม ตามเข้ามาในบ้านก่อน” หวงเหยียนหลงไม่สนใจว่าจะมารบกวนอะไรกับแม่บ้านของเขา จึงได้เรียกให้ทั้งสองคนเข้ามาด้านในและให้คนไปตามแม่บ้านมา
หลังจากที่แม่บ้านต้วนรู้ว่าเจ้านายเรียกจึงรีบวางงานทุกอย่างในมือและเดินตามเข้ามาในห้องรับแขก
“คุณเหยียนหลงเรียกป้าหรือเปล่าคะ”
“อืม แต่คนที่ถามหาคือคุณหลู่ทั้งสองคนนี้” หวงเหยียนหลงชี้ไปที่สองพี่น้อง
“เอ่อ ผมขอสอบถามป้าหน่อยได้ไหมครับ วันนี้คนที่ช่วยป้าที่ตลาด ป้าพอจะรู้จักเธอไหม”
แม่บ้านมองหน้าคนถาม เธอไม่กล้าที่จะตอบจึงหันไปมองเจ้านาย
หวงเหยียนหลงเองก็แปลกใจ เพียงแค่ตามหาคนคนเดียวต้องมาถามแม่บ้าน
ของเขาเลยเหรอ เมื่อไม่ได้รับคำตอบ หลู่หงเย่วจึงพูดในสิ่งที่ต้องการออกมา
“คูณหวงรู้ใช่ไหมครับว่าบทของตัวร้ายหรือนางร้ายผมยังหานักแสดงไม่ได้ วันนี้ผมเจอแล้วครับ แต่ผมไม่รู้จักเธอ พอเห็นว่าแม่บ้านของคุณถูกเธอช่วยเหลือไว้ จึงตามมาสอบถาม เธอมีความสามารถมากนะครับ การต่อสู้ของเธอผมมองว่าเธอน่าจะเล่นหนังบทนี้ได้”
“ใครครับป้า”
หวงเหยียนหลงหันไปถามแม่บ้านด้วยความสงสัยว่า หญิงสาวคนนั้น
เป็นใครกันที่ทำให้ผู้จัดภาพยนตร์อย่างคุณหลู่ ต้องดิ้นรนมาสอบถามถึงที่นี่
“น้องสาวของคุณเหอค่ะคุณเหยียนหลง” แม่บ้านตอบตามความจริง
ทำให้หวงเหยียนหลงขมวดคิ้วและถามย้ำอีกครั้ง
“ป้ากำลังหมายถึงคุณหนูเหอ น้องสาวของอาเว่ยใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ทั้งสองคนเดินตามผมมาที่ห้องทำงาน ถ้าอยากได้เธอไปเป็นนักแสดง”
หวงเหยียนหลงกล่าวก่อนจะเดินนำทั้งสองคนเข้ามาที่ห้องทำงานของตนเอง
“เธอชื่อเหอว่านเซียง เป็นน้องสาวของเหอโจวเว่ย และเป็นลูกสาวของนายท่านและนายหญิงเหอ”
สองพี่น้องที่ได้ยินแทบล้มทั้งยืนเมื่อรู้ว่าหญิงสาวที่หมายตาไว้ให้มาเล่นภาพยนตร์นั้นเป็นใคร “พอจะมีทางติดต่อเธอได้ไหมครับ ผมอยากได้เธอมาร่วมงานจริง ๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดกล้องเพราะนักแสดงยังขาดเพียงคนเดียว”
“เธอกำลังจะฟ้องหย่าสามี คุณมีวิธีที่จะหาหลักฐาน แต่ถ้าหากเธอเป็นแม่ม่าย คุณยังอยากได้เธอมาร่วมงานอีกไหม”
“ครับ ผมอยากได้เธอมาร่วมงาน ไม่ว่าเธอจะแต่งงานแล้วหรือว่า เป็นแม่ม่ายผมไม่สนใจ ผมเชื่อสายตาตนเองว่าผมสามารถผลักดันเธอให้เป็นนักแสดงได้” หลู่หงเย่วตอบแบบไม่ต้องคิด ในเมื่อเขาหมายตาเธอไว้แล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาต้องหว่านล้อมมาให้ได้
“ถ้าคุณต้องการแบบนั้นไม่ยาก ผมพอจะมีวิธีต่อรองกับเธอให้
แต่เรื่องนี้ต้องเป็นวามลับระหว่างเราสามคน เมื่อไหร่ที่มีคนนอกรู้ คุณน่าจะรู้นิสัยของผมดีนะ”
หวงเหยียนหลงมีความคิดที่จะผลักดันน้องสาวของสหายเข้าสู่สังคม ตอนแรกเขาไม่คิดอะไร แต่พอเข้าไปรับรู้เหตุการณ์ในวันนี้ทำให้เขาอยากจะช่วยเธอ และทำให้ผู้ชายที่ทิ้งน้องสาวของเพื่อนเสียดายเธอหลังจากที่หย่ากันแล้ว
ในอดีตเขาเคยผิดพลาดที่ไม่เชื่อใครเรื่องอดีตภรรยาจนเธอหนีตามชู้ เขาไม่อยากให้น้องสาวของเพื่อนต้องเจ็บช้ำและอยู่กับคนที่นอกใจเช่นนี้