6 งานกินข้าว
ภัตตาคารขึ้นชื่อภายในโรงแรมหรูคือสถานที่นัดหมาย เมื่อมัลลิกากานต์และบุญยวีร์มาถึงห้องอาหาร แจ้งความจำนง พนักงานชายแต่งกายสุภาพเรียบร้อยพาพวกเธอขึ้นลิฟต์ไปยังห้องรับรองส่วนตัว บุคคลที่นัดเธอมากินข้าววันนี้รออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับชายฉกรรจ์อีกสองคน
“สวัสดีค่ะคุณธัชธรรม”
“สวัสดีค่ะ”
บุญยวีร์ทักทายนอบน้อม มัลลิกากานต์ทำตาม เธอเคยเจอชายวัยห้าสิบเศษคนนี้มาก่อนแล้ว เป็นการเจอแบบผ่านๆ ตามงานต่างๆ เขาเป็นเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรแบรนด์ดังและห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่อีกแห่ง
“ขอโทษที่มาช้านะคะ”
ยังไม่ถึงเวลานัด ผู้จัดการคนเก่งก็ออกตัวไว้ก่อน
“เชิญนั่งๆ ไม่ต้องเกรงใจ คนกันเองทั้งนั้น”
มัลลิกากานต์เอ่ยขอบคุณพลางยิ้มเมื่ออีกฝ่ายลุกมาเลื่อนเก้าอี้ให้อย่างที่สุภาพบุรุษส่วนใหญ่ทำกัน บรรยากาศในห้องดีมาก ห้องไม่กว้างไม่เล็กจนเกินไป มีโต๊ะอาหาร โซฟา และพื้นที่ให้เต้นรำอีกนิดหน่อย เสียงเพลงสากลเบาๆ ช่วยเสริมบรรยากาศ
“หนูมะลิกินอะไรดี”
หนุ่มใหญ่ส่งเมนูอาหารให้พริตตี้สาวสวยที่ถูกตาต้องใจ ดวงตาคมวาวดุจหมาป่าล่าเนื้อละเลียดไล่ไปตามผิวหน้าเนียนใส ปากอิ่มงาม ระเลื่อยลงมาที่ลำคอระหง ผิวขาวอิ่มอมชมพูน่าสัมผัส กระตุ้นให้หัวใจเต้นถี่แรง
มัลลิกากานต์รับเมนูมาดู ทำเป็นไม่เห็นอีกฝ่ายเหลือบตาไล่ลูกน้องชายฉกรรจ์ทั้งสองออกจากห้อง นั่นทำให้ผู้จัดการของเธอต้องเอ่ยขอตัว
“พอดีแหวนมีงานค้างอยู่ รบกวนคุณธัชช่วยดูแลน้องมะลิด้วยนะคะ”
ใต้โต๊ะนั้น บุญยวีร์บีบต้นขาของรุ่นน้องสาวเบาๆ เบนสายตามามองสบกันเป็นการให้กำลังใจก่อนจะออกไป
ธัชธรรมพยักหน้าตามมารยาท อีกอย่างในห้องยังมีพนักงานยืนรอรับออร์เดอร์อยู่ เรื่องแบบนี้เขาคุ้นชิน สาวสวยตรงหน้าไม่ได้เป็นพริตตี้เงินล้านคนแรกที่เขาเชิญมากินข้าวด้วย ดารา นางแบบ นางเอก นางงามจากเวทีต่างๆ เขาเคยเชิญมาแล้วทั้งนั้น ราคาระดับที่เขาจ่ายไป มันเป็นการเริ่มที่โต๊ะและจบที่เตียงทุกราย
มัลลิกากานต์ลอบถอนหายใจ ขณะยิ้มให้บริกร สั่งรายการอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อบริกรออกไป รอยยิ้มหวานนั่นเผื่อแผ่มายังนายทุนเงินหนา
“ผมคิดว่า หนูมะลิจะไม่รับคำเชิญซะแล้ว”
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะคะ”
“ก็... ได้ยินว่าหนูไม่เคยรับคำเชิญใคร”
“ก็... อาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่ไม่ลงตัวมั้งคะ”
มือใหญ่เลื่อนมากุมมือเล็กที่ยังวางบนโต๊ะ เธอเพียงหลุบตามอง ไม่ดึงมือออก เป็นที่ถูกใจชาย
“ถือว่าผมเป็นคนโชคดี”
มัลลิกากานต์ยิ้ม ไม่ตอบคำถามนั้น ดึงมือออกนิ่มนวล
“บางทีโชคดีอาจจะเป็นของมะลิก็ได้นะคะ”
เสียงห้าวทุ้มจากนักร้องนำวงบอยแบนมีชื่อขับกล่อมผู้มาเที่ยวพักผ่อนในผับหรู เสียงนั้นแผ่วดังผ่านลำโพงเข้ามาในห้องวีไอพีตรงชั้นสองที่เป็นห้องกระจก ทว่า ผู้คนเบื้องล่างที่กำลังสนุกสนาน กระทั่งผู้ที่อยู่ชั้นสองของผับไม่ได้รู้เลยว่า ในวีไอพีห้องหนึ่งนั้นกำลังเกิดเรื่องร้อนแรง
สาวสวยดีกรีนางเอกละครทีวีและภาพยนตร์เหลือบมองใบหน้าคมสันหล่อเหลาของชายหนุ่มที่นั่งเอนหลังพิงโซฟาในท่าทีสบายๆ โซฟาชุดตัวนี้อยู่ห่างจากผนังกระจกเพียงหนึ่งเมตร เธอยังมองเห็นผู้คนด้านนอก ได้ยินเสียงเพลง เสียงเชียร์ เสียงโห่ร้องชัดเจน แต่คนเหล่านั้นมองไม่เห็น ไม่ได้ยินสิ่งที่เธอกำลังทำ นั่นส่งจิตใจให้รู้สึกฮึกเหิมตื่นเร้า เร่งเคลื่อนมือเรียวขาวขยับรูดเคล้น ขณะขยับปากโอบอุ้มดูดกลืนความผงาดกล้าอันน่าเกรงขามของหนุ่มลูกเสี้ยวผู้หล่อเหลาและร่ำรวย เธอต้องการสร้างความประทับใจให้สมกับที่คืนนี้เป็นผู้หญิงที่ถูกเลือกจาก ...คมคาย ศิลาลักษณ์
ในหัวสมองอันชาญฉลาดของชายหนุ่มผู้ถูกกลืนกิน เขากลับนึกไปถึงบทสนทนากับเพื่อนสนิท ลีโอนาร์ท คิงส์ตัน เขารู้จักมันตอนไปเรียนโทที่อเมริกา วันก่อนมันมาเมืองไทย ท่าทางอมทุกข์ ตะล่อมถามจนรู้ว่าสาเหตุเพราะโรครักคล้ายจะเป็นพิษ เขาให้คำปรึกษามันไป แล้วก็ถูกมันกวนตะกอนบางเรื่องที่เขาอุตส่าห์ทำเมินมานาน เรื่องสาวน้อยคนนั้น คนที่วันนี้เฉิดฉายเปล่งประกายสมศักดิ์ศรีพริตตี้เงินล้าน
ให้ตายเถอะ คิดเรื่องนี้ทีไรให้หงุดหงิดในอก
ด้วยความเบื่อหน่าย เขาเลยเลือกนางเอกสาวสวยมาแก้เซ็ง
บรรยากาศตอนนี้มันควรจะทำให้เขาตื่นเต้นตื่นเร้าไปกับบทสวาทร้อนแรงของนางเอกสาว เขากลับไม่รู้สึกรู้สา
คมคายกวาดมองแสงสีเสียงเบื้องล่าง ที่นี่เป็นผับหรูมีชื่ออยู่ในโรงแรมมีระดับ มีค่าสมัครหลักแสน ดังนั้นจึงมีดารา นายแบบ ไฮโซ คนดังต่างๆ เข้ามาใช้บริการ หากเขาไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ มองไปเรื่อย ไม่มีจุดหมาย กระทั่งสายตาสะดุดหญิงสาวคนหนึ่ง เธอเบี่ยงตัวขึ้นนั่งบนเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์เรียกหาเครื่องดื่ม เขาหรี่ตามอง... ผละมือจากพนักโซฟา รวบเส้นผมนุ่มสลวยของนางเอกคนดัง รั้งแผ่วเบาเรียวปากสีหวานก็หลุดจากส่วนขืนแข็ง
เธอยิ้มเอียงอาย ช่างผิดจากวินาทีก่อนหน้าที่กลืนกินกายเขาอย่างเผ็ดมัน
“พอก่อน”
“คะ?”
มือหนาเลื่อนมาลูบแก้มนิ่ม
“ผมนึกได้ว่ามีธุระ”
“แต่ว่า คุณคาร์ล...” ชญานิษฐ์ไม่อยากยินยอม เธอมีอารมณ์จะแย่แล้ว เขากลับจะปล่อยร้างค้างเติ่งกะทันหัน ทั้งที่ตัวเขาเองก็ยัง ...แข็งผงาด!
“คุณยัง...” เธอหลุบตาลงมองส่วนที่มือยังกอบกำ
คมคายกดนิ้วโป้งบนกลีบปากอิ่ม
“อย่าดื้อสิครับ”
นางเอกสาวขัดใจ หากเมื่อเงยหน้าขึ้น ประกายตาคมกล้านั้นไม่อาจทำให้เธอปฏิเสธได้ดังใจคิด
“ก็ได้ค่ะ นิวจะรอคุณคาร์ลนะคะ”
เขาไม่ตอบ จัดแจงกางเกงเรียบร้อยก็ออกจากห้องไปก่อน ปล่อยให้เธอแต่งตัวให้เรียบร้อยเหมือนตอนแรกเข้ามา
ร่างสูงหยิบบุหรี่ออกมาใส่ปาก จุดไฟ อัดมันเข้าปอดอึกใหญ่ เริ่มเลื่อนนิ้วไปบนสมาร์ตโฟนในมืออีกข้าง ไม่นานเขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ จากนั้นเปลี่ยนไปเข้าหน้าจอการโทร. ติดต่อหาใครบางคน
รอสัญญาณไม่กี่ครั้ง ปลายสายกดรับ เขาใช้มืออีกข้างดึงบุหรี่ออกจากปาก เคาะนิ้วเบาๆ ดีดเถ้าที่เผาไหม้ทิ้ง
“ธาม กูมีงานให้มึงทำ”
“...”
“ต้องเรียบร้อยในยี่สิบสี่ชั่วโมง”
ไม่สนการโวยวายจากปลายสาย สั่งเสร็จกดตัดสาย เลื่อนหาเบอร์ต่อไป คุยไม่กี่คำแล้ววาง ก่อนจะเปลี่ยนหน้าจอไปยังโหมดที่ต้องการ มันเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด เขาไม่ได้ยินเสียงแต่ภาพนั้นคมชัดทุกรายละเอียด ยิ่งเห็นไหล่เปลือยผุดผ่องถูกลูบไล้ มันยิ่งทำให้โพรงอกบีบรัดราวกับถูกมือปีศาจบีบเคล้น
หกปี จะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็ได้ มันเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ทุกวันนี้เขาคือประธานกรรมการบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มรายใหญ่ ประสบความสำเร็จสูงสุดด้วยอายุเพียง 35 ปี ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงและธุรกิจทุกตัวที่เขาดูแลล้วนประสบความสำเร็จดียิ่ง ขณะเดียวกัน เด็กสาวที่เขาให้ออกจากบ้านเมื่อหกปีก่อนก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเช่นกัน
หกปีที่เขาไม่เข้าไปหาไปวุ่นวาย ทำเพียงโอนเงินให้
หกปีที่เธอไม่เคยแตะต้องเงินนั่น ปล่อยให้มันเพิ่มพูนถึงวันนี้มีจำนวนกว่าสิบล้านบาท
ทำไมวันนี้เธอต้องทำตัวสิ้นไร้ มากินข้าวกับไอ้แก่เจ้าตัณหาคนนั้น
จะมากเกินไปแล้ว!