bc

แนบรักสลักใจ

book_age16+
1.4K
ติดตาม
8.4K
อ่าน
แบดบอย
กล้าหาญ
ชายจีบหญิง
first love
passionate
seductive
stubborn
like
intro-logo
คำนิยม

ตลอดเวลาที่ผ่านมา...เขาผลักใสเธอออกจากชีวิตอย่างร้ายกาจ

ไม่ติดต่อ ไม่สนใจ ราวเธอไม่เคยมีตัวตน

ปล่อยให้เธอเจ็บปวด อ้างว้างและแสนเดียวดาย

กระทั่งวันนี้...วันที่ร่างกายและหัวใจเข้มแข็ง

เขากลับเข้ามาเอ่ยอ้างว่า เธอคือ ‘สมบัติส่วนตัว’

*********

“คุณเคยรู้ตัวเองไหมคะว่าเป็นคนที่...เห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ หน้าไม่อายที่สุดในโลก”

คมคายเลิกคิ้วตาเปล่งประกายพลางอมยิ้มยั่วเย้า เธอมองค้อนแล้วสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น เขาจึงไล้ปลายจมูกบนแก้มนุ่มเล่น

“อีกเรื่องที่เธอควรรู้”

ฝ่ามือหนาเลื่อนลูบแผ่นท้องเรียบ...แผ่วเบา กายแกร่งขยับอีกครั้ง แผ่นหลังเล็กแนบแผงอกกว้าง มัลลิกากานต์หันกลับมามอง

“ฉันเป็นคนหวงของมาก”

“...”

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าทำให้ฉันต้องรู้สึกแบบนั้น”

ปากได้รูปก็เคลื่อนเข้าประกบจูบปากอิ่ม บดเบียดละเลียดลิ้มความหวานหอมที่ใจโหยหิวไม่สร่าง

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
1 ห้องเชือด
1 ห้องเชือด ผลัวะ! อ๊ากส์! พลั่ก! เสียงโหยหวนนั้นเรียกรอยยิ้มสาแก่ใจแต้มมุมปากชายฉกรรจ์หกคนที่ยืนอยู่ในห้อง ขณะมองชายหนุ่มวัยยี่สิบแปดปีประเคนหมัดหนักหน่วงเข้าใส่หน้าและลำตัวของผู้ชายหนึ่งในห้าที่ถูกมัดโยงด้วยโซ่เส้นโต ทุกครั้งที่จบคำถามและไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เรี่ยวแรงกำลังถาโถมเข้าใส่เชลยตรงหน้าหนักหน่วงมากขึ้น เรียกเสียงโหยหวนลั่น แต่พวกเขาไม่กลัวหรอกว่า เสียงของมันจะเล็ดลอดออกไปเข้าหูใครก็ตามที่บังเอิญผ่านมา นั่นเพราะที่นี่เป็นห้องใต้ดินภายในตึกหลังงามหลังหนึ่งบนอาณาจักรศิลาลักษณ์ ห้อง... ที่ถูกขนานนามว่า ห้องเชือด! สองข้างกายมัน ชายฉกรรจ์อีกห้าคนถูกมัดมือด้วยโซ่โยง หน้าตาเนื้อตัวพวกมันแตกยับ กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง แต่ละคนคอตกคอพับสลบเหมือด ยกเว้นไอ้คนที่กำลังแหกปากร้อง “รีบบอกคุณคาร์ลดีกว่าถ้าไม่อยากทรมานมาก” หนึ่งในชายฉกรรจ์ส่งเสียงข่มขวัญ ขณะที่คนถูกจองจำร่างกายโอนเอนตามแรงหมัด ความเจ็บปวดร้าวไปทั่วสรรพางค์กาย มันเจ็บจนตัวงอ ร่ำร้องจนเสียงแห้ง คนลงมือก็หาได้สนใจ นาทีนี้ มันได้กลิ่นความตายของตัวเองรำไรขณะผจญอยู่ในนรกแห่งความเจ็บปวดแสนสาหัส  “รีบๆ ฆ่ากูเลยสิวะ กูไม่กลัวมึงหรอกไอ้คาร์ล” เจ็บร้าวปางตายตรงชายโครง มันคิดว่ากระดูกส่วนนั้นคงหักไปหลายซี่ การถูกทรมานมาหลายชั่วโมงทำให้มันนึกอยากตายไปให้รู้แล้วรู้รอด เสียงพูดที่ดังออกมาไม่ต่างอะไรกับเสียงกระซิบหากไม่วายปากดี ร่างกายใหญ่โตของมันหาใช่หินผา ถูกทรมานมานาน สติหลุดรอยในที่สุด  “ปลุกมันขึ้นมา” คมคาย ศิลาลักษณ์ กระตุกยิ้มเย็นเยือก ยิ้มที่ส่งไม่ถึงดวงตาคมกริบดุดันไร้ปรานี ชายฉกรรจ์ที่อยู่ในห้องนั้นนำถังน้ำมาสาดใส่เชลยทั้งหมด ปลุกพวกนั้นให้คืนสติ “อย่าทำกูอีกเลย ปล่อยกูเถอะ กูไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ” ทันทีที่ตื่นมารับรู้ว่ามันยังต้องผจญอยู่ในนรกถึงกับผวาหน้าตาตื่น ใครคนหนึ่งแหกปากร้องวิงวอนราวคนบ้า ดวงตาปูดโปนแดงก่ำเต็มไปด้วยแววหวั่นผวาจับจ้องที่ใบหน้าคมคายแม้ครึ่งใบหน้านั้นจะรกด้วยแนวหนวดเครา ยังเห็นได้ว่าผิวนั้นขาวจัด เกิดจากการใช้ชีวิตท่ามกลางอากาศหนาวมาหลายปี มันแทบไม่อยากเชื่อสายตาว่าลูกชายคนเดียวของมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทยจะจัดเจนฝีมือและทรมานคนได้เหี้ยมโหดขนาดนี้ ภาพลักษณ์ที่พวกมันเคยเห็นจนชินตาคือชายหนุ่มผู้ชื่นชอบความสำเริงสำราญท่ามกลางกลุ่มเพื่อน หญิงสาวสวย และสังคมหรูหรา  “ถ้ามึงไม่รู้อะไรเลยมึงก็ไม่สมควรอยู่รับรู้อะไรอีก” คมคายเปรย เสียงไร้ความรู้สึก “ถ้ามันไม่อยากพูด ลิ้นก็ไม่ควรเก็บไว้นะครับเจ้านาย” รัฐกร ธัญชัยพร ผู้ช่วยและคนสนิทสำทับแทรกเสียงคร่ำครวญของเชลย พอเขาพูดจบมีดเล่มหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้า เจ้านายเพียงปรายตามองเฉย เขาจึงคว้ามันมาโยนเล่นโดยไม่ลืมสังเกตสีหน้าหวาดผวาสุดขีดของเชลยอีกสองคนที่ถูกปลดจากโซ่ ผู้ถูกจองจำอีกคนตะเบ็งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากตัวหนุ่มรุ่นลูก ความโหดร้ายทารุณที่มันได้เจอกับตัวเห็นกับตาทำมันแทบเป็นบ้า ยิ่งเห็นมีดคมวับด้านหลังใจมันแทบระเบิด “กะ... กูไม่รู้เรื่อง กูตรวจเช็กเครื่องแล้ว มันไม่มีปัญหาอะไรจริงๆ มันเป็นอุบัติเหตุ ตำรวจก็บอก มึงไม่เชื่อก็ไปเอาเรื่องพวกตำรวจสิวะ พวกกูเป็นแค่ช่างเครื่องจะรู้อะไรวะ” “มึงไม่ต้องมาสอนว่าพวกกูควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ทางที่ดีมึงบอกมาดีกว่าว่าพวกมึงทำงานให้ใคร คุณคาร์ลอาจจะเมตตามึงบ้างก็ได้” “กูไม่รู้ ไม่รู้!” คมคายสีหน้าเรียบเฉยหาได้มีปฏิกิริยาอะไรต่ออาการกระเสือกกระสนหาทางรอด ตากร้าวกระด้างจับจ้องคนที่เป็นหัวหน้าซึ่งต่อสายตากับเขาไม่หลบ ภายใต้ความนิ่ง โพรงอกของเขาระอุไปด้วยความร้อนราวกับถูกไฟนรกแผดเผา เหตุเพราะพวกมัน! “เอามันลงมา” ศิลาลักษณ์ทำธุรกิจหลายอย่าง ธุรกิจหลักคือผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มจำพวกเหล้า เบียร์ น้ำเปล่า น้ำอัดลมตลอดถึงเครื่องดื่มชูกำลัง รองลงมาเป็นกิจการขนส่งระหว่างประเทศ กิจการอสังหาและสังหาฯ ตัวแทนนำเข้ารถหรู นอกจากนี้ก็ยังมีธุรกิจสีเทา คือ ผับ บาร์ โรงแรมหรูในเมืองใหญ่หลายจังหวัด  สนามแข่งรถบนพื้นที่ชายฝั่งติดทะเล แน่นอนว่าต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะใช้บริการได้เพราะค่าสมาชิกหลายแสนบาท สุดท้ายกิจการกาสิโน ส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ มีหนึ่งแห่งอยู่บนเกาะ ไอ้ตัวสวะตรงหน้า มันเคยเป็นผู้บริหารกาสิโนแห่งหนึ่งในประเทศเพื่อนบ้าน ถูกให้ออกเพราะยักยอกเงินมหาศาล มันเคียดแค้นและกลับมาแว้งกัดด้วยการรวมหัวกับทีมช่างเครื่องบินส่วนตัว เครื่องบินที่บังเอิญเกิดอุบัติเหตุขณะเดินทางไปดูงานที่สมุย พ่อแม่ของเขา การ์ดและนักบินรวมสิบชีวิต ทั้งหมดเสียชีวิตทันที อุบัติเหตุเครื่องบินตกแม้ไม่ได้มีทุกวัน ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์พันลึก เกิดกับใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่สำหรับครอบครัวของเขา ไม่ใช่ ศิลาลักษณ์! ที่มีการป้องกันแน่นหนาด้วยการ์ดมืออาชีพ ตำรวจสรุปว่ามันเป็นอุบัติเหตุจากหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ เขาไม่เชื่อ! คนนอกไม่มีทางทำอันตรายพ่อแม่เขาได้ ยกเว้นมันจะเป็นคนใน!   “ฆ่ากูซะเลยสิ” คมคายกระตุกมุมปาก จ้องคนตรงหน้าเขม็ง ก่อนที่มันจะได้ดูแลกาสิโน มันเคยเป็นหัวหน้าการ์ดของพ่อเขามาก่อน พ่อไว้ใจมันมาก เขาไม่เชื่อว่ามันจะทำเรื่องนี้ลำพังเพียงเพราะแค้นที่ถูกไล่ออก   “กูให้โอกาสมึงอีกครั้ง มึงทำงานให้ใคร หรือจะไปสารภาพบาปกับยมบาลในนรก” ในความนิ่ง แท้จริงอารมณ์เขาโคตรจะเชี่ยวกราก ความเจ็บแค้นจุกแน่นโพรงอก “กูไม่ได้ทำงานให้ใครทั้งนั้น กูแค้นโว้ย ทำงานให้พ่อมึงมานาน แล้วดูที่มันตอบแทนกูสิ ถุย!” แววตาแดงก่ำของมันวาวขึ้น ไม่ถึงอึดใจก็เป็นฝ่ายโผนเข้าหาเขาก่อน คมคายเพียงฉากตัวหลบ สวนกลับด้วยลูกเตะเต็มกำลัง อ๊ากส์! มันร้องลั่น ถลาไปชนกับกล่องพลาสติกมุมห้อง ก่อนตะเกียกตะกายทะยานเข้าหาศัตรูอีกครั้ง ครั้งนี้ประสบการณ์ตามอายุที่มากกว่า ทำให้มันซัดกลับหนุ่มรุ่นลูกได้หลายหมัด คาร์ลใช้หลังมือเช็ดเลือดตรงมุมปาก มองเลือดบนหลังมือ แสยะยิ้มที่แทบมองไม่เห็นว่ายิ้ม ตวัดตามองอีกฝ่าย มันพุ่งเข้าหาอย่างไม่รักตัวกลัวตายเหมือนคนอื่นๆ เขาชอบความบ้าเลือดของมันเพราะมันทำให้เขา...สนุก! ทันทีที่รู้เรื่องอุบัติเหตุ แม้คมคายจะอยู่ต่างประเทศก็ได้สั่งการให้รัฐกรจัดการเรื่องนี้ทันที ไม่เป็นการยากสักนิดในการสืบเสาะหาตัวคนทำ เขาปล่อยให้มันได้ใจ ลำพองฮึกเหิมกับสิ่งที่พวกมันทำ กระทั่งงานศพของบิดามารดาผ่านพ้นไป จากนั้นรวบตัวพวกมันมาเซ่นสังเวยเถ้ากระดูก ชายหนุ่มระบายความเจ็บแค้นด้วยการกระหน่ำหมัดและเท้าประเคนใส่โดยไม่สนเนื้อตัวแตกเลือดโชกส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง ในสมองของเขาราวหลุดเข้าไปอีกโลก ที่มีแค่เขากับมัน เขารู้แค่อยากจะฆ่ามันให้ตายช้าๆ ให้ทรมานแสนสาหัสจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย มันควรจะเป็นแบบนั้น และเพราะแบบนั้น เสียงโหยหวนอันเกิดจากความเจ็บปวดจึงดังระงมโกดังอีกครั้ง เนิ่นนาน พอๆ กับสภาพยับเยินของผู้ทุรยศที่ทำเอาผู้ชายตัวโตในห้องเกิดอาการอยากเมินหน้าหนี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเจ้านายหนุ่มโกรธจัด ท่ามกลางความกดดันในมวลอากาศ โทรศัพท์ของรัฐกรมีสายเรียกเข้า เขาส่งมีดคืนชายฉกรรจ์คนหนึ่งก่อนรับสาย ไม่กี่วินาทีเบี่ยงโทรศัพท์ออกห่างตัวเล็กน้อยพร้อมรายงานผู้เป็นนาย “คนของเรารายงานมาว่ารวบตัวพวกที่หนีไปได้หมดแล้ว คุณคาร์ลจะให้จัดการยังไงดี” “ฆ่าให้หมด” “อีกเรื่อง มันรู้แล้วว่าครอบครัวไอ้เหี้ยนี่อยู่ที่ไหน ตอนนี้มันประกบตัวอยู่” คำรายงานนั้นทำให้เชลยทั้งหมดหูผึ่ง สีหน้าตกตะลึง โดยเฉพาะอดีตผู้ดูแลกาสิโน มันคาดไม่ถึงว่าครอบครัวที่เขาส่งไปไกลแสนไกลจะตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมันง่ายดาย “ไม่จริง!” อาการผวา แววตาหวาดหวั่นของไอ้ตัวหัวหน้าที่บังอาจมาทำร้ายพ่อแม่เขา ทำให้คมคายกระตุกยิ้มเย็น ออกคำสั่งเยือกเย็นไม่ต่างจากสีหน้า “เก็บซะ” “เก็บซะ” “ไม่!!!” รัฐกรไม่สนเสียงตะเบ็งโหยหวนและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งโกดัง เลื่อนโทรศัพท์มาถ่ายทอดคำสั่งออกไปก่อนวางสาย “กูฆ่ามึงแน่ไอ้คาร์ล!!!” “มึงมันสมควรตาย” คมคายแค่นเสียงลอดไรฟัน สะบัดร่างโชกเลือดกระเด็นออกห่าง เอ่ยเสียงเย็น “แต่มึงควรอยู่ อยู่รอดูว่าพ่อมึงตายยังไง แม่มึงตายแบบไหน คนในครอบครัวมึงต้องมีจุดจบก็เพราะความชั่วที่มึงทำ” “ไอ้สัตว์! ไอ้ปีศาจ!” มันร่ำร้องคั่งแค้น คมคายไม่สนใจ “อย่าให้มันตายง่ายๆ” มันสมควรตาย แต่ต้องตายให้ช้าที่สุดและทรมานที่สุด “ฉันจะมาเล่นสนุกกับมันทุกวัน” ลูกน้องวัยฉกรรจ์ต่างเข้าใจสารนั้นเป็นอย่างดี มุมปากพวกมันกระตุกยิ้มสะใจ “กูจะฆ่ามึง ไอ้คาร์ล! กูจะฆ่ามึง!!!” คมคายไม่แม้แต่จะปรายตามองซากร่างโชกเลือดพวกนั้นเมื่อเสียงร้องโหยหวนเจ็บแค้นของมันดังขึ้น นับครั้งได้ที่เขาจะโกรธจัดและลงมือจัดการใครสักคนด้วยตัวเอง เลือดล้างด้วยเลือด... เหมาะสมแล้ว ร่างสูงสง่าผึ่งผายเพราะส่วนหนึ่งมีเชื้อสายตะวันตกเดินออกจากโกดัง ล้วงบุหรี่ส่งเข้าปาก อัดควันเข้าปอดลึกๆ วันนี้ไม่มีหลักฐานว่ามันทำงานให้ใครอีก สักวันเขาต้องรู้แน่ ขอให้พวกมันฉลาดให้สมกับที่คิดเล่นงานศิลาลักษณ์ ถ้าวันนั้นมาถึง เขาไม่เอาพวกมันไว้แน่ ความตายยังปรานีเกินไป “จัดการด้วย” “ครับคุณคาร์ล” รัฐกรรับคำเสียงเรียบใบหน้าเรียบนิ่งไม่ต่างจากผู้เป็นเจ้านาย คล้อยหลังร่างสูงสง่าก้าวออกไปจากโกดังแล้ว เขาหันไปสั่งงานกับคนอื่นๆ ขณะเหลือบมองไอ้พวกไม่รักตัวกลัวตายที่ริอ่านแหย่ขาเข้ากรงเสือ  

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.8K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
8.3K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
34.4K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
11.7K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
4.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook