บทที่ 12 ปัญหาที่รุมเร้าและทางออก

3218 คำ
หลังจากน้องชายของอชิระวัตรเสียชีวิต พ่อแม่ของอชิระวัตรก็หมดอาลัยในชีวิต หมดไฟ หมดกำลังใจ ไม่ได้ทำงานรับเหมาอีก อยู่บ้านไปวันๆ ทิ้งภาระความรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่าเลี้ยงดู หนี้สินทุกอย่างที่ได้สร้างขึ้นมาไว้ให้อชิระวัตรต้องเป็นคนรับผิดชอบจัดการทั้งหมด อชิระวัตรเองก็แบกรับปัญหาความเครียดไว้มากมาย งานที่ทำอยู่ก็เครียดหนักสะสม หุ้นที่แอบกู้เงินบุคคล บัตรกดเงินสดมาเล่นก็เสียหายเพราะหุ้นตกจากสถานการณ์เศรษฐกิจและโรคระบาดในตอนนี้ อชิระวัตรเครียดจัดจนหน้าตาหมองคล้ำ กลับบ้านดึกทุกวันโดยอ้างกับแพรวพรรณว่าทำงาน ติดลูกค้า ติดประชุม ต้องออกไปดูไซน์งานก่อสร้างกับเจ้านายบ้าง ความสัมพันธ์กับแพรวพรรณก็เริ่มห่างเหินจืดจางลงไป ไหนจะเรื่องพ่อแม่ที่อชิระวัตรไม่สามารถเล่าหรือพูดถึงพ่อแม่ของเขาได้เลย เพราะแพรวพรรณไม่ยอมรับฟัง เรื่องลูกก็ต้องพับปิดโครงการที่จะไปทำไว้ชั่วคราวก่อน หลายเดือนต่อมาแม่ของอชิระวัตรก็เริ่มมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และมีอาการของไทรอยด์เป็นพิษเนื่องจากพักผ่อนน้อยและมีความเครียดสะสมจึงต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนอาการค่อยๆ ทุเลาลง แต่ก็กลับมาเป็นและอาการหนักอีกในบางช่วง แพรวพรรณเห็นอชิระวัตรมีความเครียดสะสมมากแล้ว จึงได้เอ่ยปากถามถึงเรื่องแม่และมีน้ำใจชักชวนให้อชิระวัตรพาแม่มาอยู่ด้วยกัน อชิระวัตรจะได้ดูแลได้สะดวก การเดินทางไปหาหมอก็จะสะดวกยิ่งขึ้น สิ่งที่แพรวพรรณได้ทำโดยการยกโทษให้แม่และพ่อของอชิระวัตรทำให้อชิระวัตรถึงกับร้องไห้ออกมาและยอมรับสารภาพกับแพรวพรรณว่าเขานั้นมีหนี้สินที่เกิดจากการกู้เงินมาลงทุนเรื่องที่ดินและอสังหาริมทรัพย์กับเพื่อนและเสียหุ้นเยอะทำให้มีหนี้ที่ตอนนี้หมุนเงินไม่ทันแล้ว "พี่บาส หลายเดือนมานี้ แพรวสังเกตเห็นว่าพี่ดูเครียดมาก งานยุ่งหรือเพราะเครียดเรื่องแม่คะ" แพรวพรรณเดินเข้าไปกอดเอวสามีแล้วถามสามีออกไปตอนก่อนจะเข้านอน นับได้ว่าเป็นครั้งแรกในหลายๆ เดือนที่แพรวพรรณถามถึงทุกข์สุขของอชิระวัตรขึ้นอย่างจริงจัง "ก็หลายๆ เรื่องผสมๆ กันไปนั่นแหละแพรว" อชิระวัตรตอบส่งๆ ไปสีหน้ายังไม่ได้คลายกังวล "พี่บาส ถ้าพี่จะเอาแม่มาอยู่ด้วยกันที่บ้านก็ได้นะ แพรวได้ข่าวว่าท่านป่วยเป็นซึมเศร้า" แพรวพรรณพูดขึ้นน้ำเสียงดูจริงจังไม่ได้แกล้งพูดเล่นหรือพูดประชดแต่อย่างใด "อะไรนะ แล้วแพรวหายโกรธแม่พี่เรื่องเงินแล้วเหรอ ก็ก่อนหน้านี้แพรวทำเหมือนตัดเขาสองคนออกไปจากชีวิตเลยนะ ไม่พูดด้วย ไม่ถามถึง พี่เล่าให้ฟังแพรวก็ทำหมางเมินใส่" "ใช่ค่ะ แพรวไม่ชอบใจ ไม่เห็นด้วยในการกระทำของแม่พี่กับเรื่องที่ผ่านมา เรื่องเงินแพรวก็ไม่ชอบที่แม่พี่ทำกับแพรวแบบนั้น แต่ตอนนี้แม่พี่ป่วย ในฐานะที่แพรวแต่งงานเป็นภรรยาพี่แล้ว เคยมีสุขด้วยกันมาแต่ในยามนี้พี่มีทุกข์ แพรวเลยคิดว่าสิ่งที่แพรวสมควรที่จะต้องทำก็คือเปิดใจคุยกันและยอมรับ ให้พี่ได้มีโอกาสได้ดูแลแม่ของพี่ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าพอแม่พี่ไม่สบายมันจะมาหักล้างเรื่องในอดีตที่แม่ทำไว้ได้หรอกนะคะเพราะมันเป็นคนละเรื่องกัน แพรวโตแล้วแยกแยะได้ ถ้าพี่จะเอาแม่มาอยู่ด้วยแพรวจะช่วยดูแล" แพรวพรรณพูดบอกอชิระวัตรน้ำเสียงหนักแน่นมั่นคงแสดงให้รู้ชัดว่าแพรวพรรณนั้นได้เติบโต เข้าใจชีวิตดีมากขึ้น เป็นคนเก่งที่แยกแยะเรื่องราวที่ตนเองไม่ชอบใจและแยกแยะดีชั่วได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่คู่ชีวิตที่ดีควรจะกระทำให้กัน "แพรว พี่ขอบคุณแพรวมากนะ แพรวรู้มั้ยการที่แพรวยอมพูดแบบนี้ ยอมลดฐิติลงมันทำให้พี่โล่งอกโล่งใจเป็นอย่างมาก อย่างน้อยถ้าแพรวยอมให้แม่มาอยู่ด้วย พี่จะได้ดูแลแม่ในยามที่เขาเจ็บป่วย เรื่องแม่กับพ่อมันทำให้พี่ทุกข์ใจมากแพรว เขาสองคนมีพี่แค่คนเดียวแล้ว ถ้าแพรวไม่เอาเขาแม่พี่คงลำบากมาก" "ไม่ใช่ว่าแพรวไม่เอาพ่อแม่พี่นะพี่บาส แต่สิ่งที่พ่อแม่พี่ทำต่างหากที่มันทำให้แพรวต้องห่างจากเขา แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะมันผ่านไปแล้วและตอนนี้เขาก็ป่วย เอาเป็นว่าพี่บาสสะดวกจะรับแม่มาดูแลตอนไหนก็บอกแพรวนะคะแพรวจะได้เตรียมจัดห้องไว้ให้" แพรวพรรณบอกสามี ทำให้อชิระวัตรถึงกับยิ้มออกมาทั้งน้ำตา อชิระวัตรคุกเขาลงเกาะขาภรรยาของเขาไว้และพูดบอกกับภรรยาขึ้นว่า "เรื่องที่ทำให้พี่ทุกข์ใจนอกจากจะเป็นเรื่องแม่ป่วยแล้ว ยังเป็นเรื่องหนี้สินของพี่ด้วยแพรว" อชิระวัตรบอกเมียด้วยเสียงที่สั่นเครือ "หนี้สิน หนี้สินอะไรคะพี่บาส แพรวไม่เคยรู้ว่าพี่เป็นหนี้ เงินเดือนพี่แพรวก็ได้มาผ่อนบ้านแค่เดือนละสองหมื่นเองนะคะ ที่เหลือนอกจากนั้นแพรวไม่เคยได้เงินของพี่เลย ทั้งเงินเดือน โอที โบนัส" แพรวพรรณถามขึ้นด้วยความตกใจ มือไม้สั่นเมื่อเห็นว่าอชิระวัตรร้องไห้และคุกเขากอดขาของตนเองเอาไว้แน่น "พี่เป็นคนสร้างหนี้ขึ้นมาเองแพรว สาเหตุก็เพราะพี่อยากรวย พี่ต้องใช้เงินเลี้ยงดู รักษาแม่ที่ป่วย บ้านพี่ไม่มีทรัพย์สมบัติ พอพ่อหยุดทำงานไม่มีรายได้พี่ก็ต้องแบกรับมันไว้คนเดียว พี่เลยตัดสินใจกู้เงินสินเชื่อบุคคลดอกเบี้ยแพงมาเล่นหุ้นส่วนหนึ่ง แล้วก็เอาเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเรื่องที่ดินจัดสรรกับไอ้เกรียงไกรเพื่อนสนิทของพี่ แต่ที่ดินก็ขายไม่ออก ซ้ำร้ายหุ้นร่วงเงินต้นหายเกือบหมด ตอนนี้พี่เป็นหนี้ธนาคารเกือบสามล้านหมุนเงินแทบไม่ทัน ที่ผ่านมาหลายเดือนนี้พี่ต้องกดเงินสดจากบัตรออกมาหมุน กดบัตรใบนี้ไปจ่ายบัตรใบโน้น หมุนมันแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว จนตอนนี้พี่เริ่มไม่ไหว พี่หมุนเงินไม่ทันถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปพี่ต้องโดนธนาคารฟ้องร้องแน่ แล้วถ้าฟ้องร้องกันเกิดขึ้นหนังสือฟ้องก็จะมาที่บริษัทของพี่ มันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของพี่นะแพรว พี่มืดแปดด้านไม่รู้จะหาทางออกให้ชีวิตอย่างไรดีแล้วแพรว" อชิระวัตรพูดเล่าเมียแล้วนั่งลงกับพื้นเอาหลังพิงขอบเตียงไว้อย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้ม รู้สึกเสียใจในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จนใจกับปัญหา หาทางออกไม่เจอ "แล้วที่พี่เล่าแพรวในวันนี้ พี่จะให้แพรวช่วยพี่ยังไง เรื่องเงินแพรวก็ไม่ได้มีเงินเยอะมากถึงสามล้านหรอกนะคะพี่บาส" แพรวพรรณสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามอชิระวัตรด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ รู้สึกทุกข์ใจไปกับอชิระวัตรด้วย "พี่ขอยืมเงินสดแพรวสักห้าแสนมาปิดสินเชื่อบุคคลบางส่วนไปก่อน ส่วนบัตรกดเงินสดพี่จะใช้เงินเดือนของพี่ค่อยๆ หมุนปิดเอา แต่ค่าผ่อนบ้านพี่คงไม่สามารถช่วยแพรวออกได้แล้ว แพรวเงินเดือนเพิ่มขึ้นเยอะ แพรวช่วยพี่ผ่อนเองไปก่อนได้มั้ยครับ พี่ขอเวลาจัดการสะสางเรื่องปัญหาของพี่ก่อน พอให้พี่สามารถปลดล็อกชีวิตพี่ได้แล้ว พี่จะตั้งใจทำงานเก็บเงินสร้างอนาคตของเราให้เหมือนเดิม เหมือนที่พี่เคยอดทนเก็บเงินไปสู่ขอแพรวแต่งงาน เพื่อความรักของเราเมื่อครั้งก่อนนั้นนะครับ" อชิระวัตรพูดขอร้องให้ภรรยาช่วยเขาด้วย "ห้าแสนแพรวมีค่ะ แต่แพรวตั้งใจว่าจะเก็บเงินก้อนนี้ไว้ทำลูก เก็บไว้โปะบ้านปิดหนี้บ้านให้หมด แต่ในเมื่อพี่บาสกำลังลำบากแบบนี้ แพรวจะเอาเงินไปทำลูกก็คงไม่สบายใจและก็คงไม่ติดอยู่ดี พี่บาสเอาเงินส่วนนี้ไปก่อนเถอะค่ะ เอาไปปลดล็อกตัวเองให้ได้แล้วค่อยหาเงินมาคืนแพรว ส่วนเรื่องบ้านแพรวจะเป็นคนจัดการผ่อนต่อเองค่ะ พี่บาสไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ" แพรวพรรณรับคำหนักแน่นยอมช่วยเหลืออชิระวัตรอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ตามความสามารถและสติปัญญาที่ภรรยาที่ดีคนหนึ่งจะทำเพื่อสามีได้ "จริงหรือแพรว แพรวยอมช่วยพี่จริงๆ หรือครับ พี่ขอบคุณแพรวมากนะ ขอบคุณมากจริงๆ พี่สัญญานะแพรวว่าภายในสองปีนี้ พี่จะปลดล็อกชีวิตตัวเองแล้วกลับมาเป็นคนดีอยู่ในร่องในรอย ทำมาหากินเลี้ยงดูแพรวให้มีความสุขเหมือนตอนที่พี่เคยให้สัญญากับแพรวไว้ให้ได้นะ" อชิระวัตรพูดแล้วจับมือแพรวพรรณเอาไว้ด้วยความรู้สึกขอบคุณจากใจจริงๆ "ค่ะ ไม่เป็นไรหรอกพี่บาสลุกขึ้นนั่งดีๆ เถอะค่ะ เงินทองของนอกกาย ไม่ตายยังมีชีวิตอยู่ มีพลังสมองสองมือสองขาเรายังหาใหม่ได้อีกเยอะ พรุ่งนี้แพรวจะไปจัดการถอนเงินและปิดหนี้สินเชื่อบุคคลให้พี่ ที่พลาดพลั้งไปแล้วเราเริ่มต้นกันใหม่นะพี่บาสนะ" แพรวพรรณพูดให้กำลังใจแล้วเอื้อมมือไปจับมือหนาของอชิระวัตรไว้อย่างต้องการปลอบโยนให้กำลังใจสามีของตัวเอง ทั้งๆ ที่ภายในหัวใจของแพรวพรรณมันร้องไห้ เสียดายเงินที่อุตส่าห์เก็บออมมาแทบตาย เมื่อจัดการกับปัญหาของอชิระวัตรโดยการปิดหนี้บางส่วนแล้ว ทำให้อชิระวัตรไม่โดนฟ้องไม่ต้องกระทบกับงาน ทำงานต่อเอาเงินเดือนของตัวอชิระวัตรเองผ่อนหนี้สินของตัวเองต่อ ส่วนบ้านแพรวพรรณเป็นคนผ่อนต่อเอง หลังจากจัดการปัญหาของตัวเองแล้วอชิระวัตรก็รับแม่ของเขามาอยู่ด้วย และคราวนี้การที่แม่ของอชิระวัตรมาอยู่ด้วยก็ทำให้แพรวพรรณเหนื่อยมาก แต่ก็ได้เห็นสัจธรรมของชีวิตโดยได้เรียนรู้จากชีวิตของแม่อชิระวัตรที่เอาความสุขหรือความทุกข์ฝากไว้กับคนอื่น แพรวพรรณได้เรียนรู้ว่าแม่ของอชิระวัตรจิตใจจริงๆ แล้วไม่ได้เป็นคนที่โหดร้าย แต่แค่เป็นคนไร้ความสามารถ ชีวิตต้องพึ่งพาสามีที่ก็ไม่ได้ทำมาหากินเก่งนัก มีลูกสองคนก็ตั้งความหวังต้องการฝากชีวิตไว้กับลูกให้ลูกได้อยู่ดูแลยามแก่ชราลง พอลูกชายคนเล็กเสียชีวิตความหวังก็หายไปบางส่วน จนทำให้คิดมากจนล้มป่วยกลายเป็นโรคซึมเศร้าและมีโรคอื่นๆ มารุมเร้า พอรับแม่มาอยู่ที่บ้านภาระการดูแลก็ตกอยู่ที่แพรวพรรณ เพราะอชิระนั้นต้องทำโอที ออกไซน์งานเกือบทุกวัน เดือดร้อนแพรวพรรณต้องรีบกลับจากที่ทำงานมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ บางวันรถติดมากแพรวพรรณกลับบ้านช้าก็ได้สั่งอาหารจากข้างนอกมาให้แม่ ต้องจัดเตรียมอาหารให้ครบสามมื้อ มื้อเช้า กลางวัน เย็นแช่ตู้เย็นไว้ให้แม่ เอาออกมาอุ่น เป็นแบบนี้มาเกือบสองอาทิตย์แล้ว แม่ของอชิระวัตรก็เริ่มเหงาร่ำร้องอยากจะกลับบ้าน แต่ก็ติดอยู่กับว่าอาการยังไม่หายดี ยังต้องไปพบให้หมอตรวจดูอาการให้แน่ใจก่อน "หนูแพรวถึงไหนแล้วลูก แม่โทรหาบาสเขาบอกว่าวันนี้ติดงานต้องทำโอที หนูแพรวล่ะลูกถึงไหนแล้ว" นางมาลีโทรหาลูกสะใภ้ น้ำเสียงดูเหงาๆ พอห้าโมงครึ่งก็โทรหาลูกสะใภ้ทันที "แพรวขับรถอยู่หน้าปากซอยบ้านเราแล้วแม่ แม่หิวแล้วยังแพรวเตรียมของกินไว้ให้ในตู้เย็นแม่เอาออกมาเวฟแล้วทานก่อนนะคะ วันนี้แพรวซื้อมะม่วงแก้วขมิ้นกะน้ำปลาหวานที่แม่บ่นว่าอยากกินไปให้ด้วยนะคะ รอแป๊บหนึ่งนะแม่แพรวจะถึงแล้ว" แพรวพรรณบอกแม่สามี "จ๊ะ หนูแพรวงั้นเดี๋ยวแม่รอกินข้าวพร้อมหนูดีกว่า" "ค่ะแม่ ได้ค่ะ นี่พี่บาสก็ไลน์มาบอกว่าวันนี้จะรีบกลับมานอนดูทีวีเป็นเพื่อนแม่นะคะ" แพรวพรรณบอกแม่สามีก่อนจะวางสายไป เมื่อกลับมาถึงบ้านแพรวพรรณก็ล้างมือล้างไม้ เข้าครัวเตรียมอาหารตั้งโต๊ะ ไม่ลืมที่จะต้มน้ำมะพร้าวไฟกับใบกุยช่าย สูตรยารักษาคนเป็นไวรัสตับอักเสบ แพรวพรรณต้มให้แม่สามีกินทุกวันวันละสามมื้อเพราะได้สูตรลับยาโบราณนี้มาจากผู้รู้ ทำตามต้มให้แม่สามีกินก็ปรากฏว่าอาการดีขึ้น ตัวไม่ค่อยเหลืองแล้ว "แม่ทานข้าวก่อนนะ ทานข้าวเสร็จจะได้ทานยาให้ตรงเวลา" "แม่เบื่ออาหารเบื่อกับข้าวคนกรุงเทพ แม่อยากกินแกงเผ็ดๆ แบบบ้านเรา อยากกินน้ำยากะทิกับขนมจีนนะหนูแพรว" "เหรอคะ งั้นเอาอย่างนี้นะคะ พรุ่งนี้แพรวจะสั่งพวกวัตถุดิบเครื่องปรุงต่างๆ เพื่อทำแกงให้แม่แล้วกัน เดี๋ยวให้ทางห้างมาส่งแล้วเดี๋ยวตอนเย็นแพรวรีบกลับมาทำให้แม่กินนะแม่ แต่ตอนนี้กินที่มีไปก่อนแล้วกันจะได้กินยาด้วย" "ก็ได้ลูก แม่เบื่ออาหารกินไม่ค่อยลงเลย แล้วนี่เมื่อไหร่บาสมันจะกลับบ้าน" "คงกำลังมานะแม่ แพรวต้มยาให้แล้วนะ น้ำมะพร้าวไฟใส่ใบกุยช่าย กินให้หมดแก้วนี้เลยนะแม่" "วันนี้ไม่กินไม่ได้เหรอ มันเหม็นมากเลย ไม่อร่อยเลย แม่เบื่อกินยา" นางมาลีเริ่มมีอาการงอแงใส่แพรวพรรณ "แพรวว่ามันก็หอมดีนะคะ แม่ฝืนกินหน่อยนะ จะได้หาย นี่อาการก็ดีขึ้นเยอะแล้ว จะหายแล้วนะคะเนื้อตัว ฉี่ก็ไม่ค่อยเหลืองแล้ว" "แม่อยากให้หายเร็วๆ อยากกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแล้ว อยู่ที่นี่มันเหงาเหลือเกิน พอหนูแพรวกับบาสออกไปทำงานแม่ก็เหงาอยู่บ้านคนเดียว" นางมาลีบอกลูกสะใภ้สีหน้าเศร้าหมองไม่อยากโดนทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว "แพรวก็ต้องทำงานนะคะ แม่ลองหาหนังสืออ่าน ดูหนัง ฟังธรรมะจากช่องยูทูบบ้างก็ได้จะได้ไม่เหงา เดี๋ยวแพรวสอนแม่ดูนะคะ เออ วันนี้แพรวทำบุญทอดกฐินไป เขาให้หนังสือสวดมนต์กับพระบูชามาด้วย แพรวยกให้แม่แล้วกันนะคะ" "ให้แม่ทำไมกัน แม่ไม่ชอบสวดมนต์ ไม่ชอบไหว้พระหรอกหนูแพรว" "ไม่ชอบก็ลองฝึกดูก็ได้นะคะ แพรวเคยอ่านหนังสือเจอเขาบอกว่าเสียงสวดมนต์กับธรรมะช่วยเยียวยารักษาโรคได้นะแม่ ถ้าแม่เชื่อและศรัทธาแม่อาจจะหายจะโรคที่เป็น ปล่อยวางได้ใจก็เป็นสุขนะคะ แพรวจะบอกแม่อยู่หลายวันแล้วว่า อยากให้แม้ตื่นเช้าลุกขึ้นมารับพลังงานดีๆ จากผืนดินแสงแดด ให้เท้าได้ต้องน้ำค้างยามเช้าเสียบ้าง มันอาจจะทำให้แม่ได้รับพลังเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แม่หายป่วยก็ได้นะคะ" แพรวพรรณพูดแนะนำแม่สามี ให้ฝึกตื่นเช้า เปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตเสียใหม่ "แต่แม่จะตื่นตอนเช้าได้ยังไง กลางคืนแม่นอนไม่หลับ ไอ้โรคไทรอยด์เวลามันกำเริบมันนอนไม่หลับเลยนะหนูแพรว" "แพรวรู้ค่ะ ว่าแม่นอนไม่หลับแต่แม่ลองฝึกจิต สะกดจิตตัวเองให้หลับดูดีมั้ยคะ เริ่มจากคืนนี้เลยแพรวจะฝึกกับแม่ด้วย เรานอนฟังธรรมะด้วยกันดีมั้ย ฟังจนมันหลับไปนั่นแหละ แพรวมีหลวงพ่อท่านหนึ่งแนะนำแม่เลยท่านเทศน์ได้ดีมาก ฟังแล้วเข้าใจชีวิตเลย พอแม่หลับได้ตื่นเช้ามาเราฝึกเล่นโยคะกัน การเล่นโยคะเป็นการกำหนดจิตกำหนดลมหายใจเข้าออก ปรับเปลี่ยนพลังงานในร่างกาย แพรวว่าแม่ต้องฝึกนะคะถ้าแม่อยากหาย" แพรวพรรณพยายามพูดบอกเล่าสิ่งดีๆ ให้แม่ของอชิระวัตรได้ปฏิบัติตัวตามเพื่อความสบายใจสบายกายของตัวแม่อชิระวัตรเอง "แม่ไม่มีสมาธิเลยหนูแพรว มันร้อนรุ่มอยู่ข้างใน ยิ่งพอนึกถึงบอสที่มาจากแม่ไป ชีวิตแม่ หัวใจแม่แทบจะแตกสลายเลยนะ มาอยู่กรุงเทพหลายวันแม่ก็คิดถึงพ่อ ไม่รู้จะอยู่ยังไง ให้มาด้วยกันเขาก็เป็นห่วงบ้าน แม่ว่าไปตามหมอนัดคราวนี้เสร็จแล้วแม่จะกลับบ้านแล้วนะ แม่เป็นห่วงพ่อเหลือเกิน" "ค่ะแม่ ตามใจแม่ แม่อยู่ที่ไหนแล้วสบายใจแพรวก็ไม่ว่าแม่หรอกนะคะ" แพรวพรรณยิ้มรับ จัดการให้แม่สามีกินข้าวกินยาเสร็จอชิระวัตรผู้เป็นสามีก็กลับมาถึงบ้านพอดี  "แม่ บาสกลับมาแล้ว กินข้าวกินยาเรียบร้อยแล้วยัง ไหนวันนี้กินได้เยอะมั้ย" อชิระวัตรเข้ามาถามแม่แล้วกอดแม่ไว้ด้วยความรัก "กินแล้วลูก กินได้ไม่เยอะหรอกแม่เจ็บคอกินไม่ค่อยลง ว่าจะรอกินมะม่วงแม่อยากกิน หนูแพรวเขาเลยซื้อมาฝาก ขอบใจมากนะหนูแพรว" แม่ของอชิระวัตรบอกลูกชายแล้วหันไปขอบใจลูกสะใภ้อย่างรู้สึกขอบใจในน้ำใจของแพรวพรรณจริงๆ แม้ว่าตัวเองจะเคยทำตัวไม่ดีกับแพรวพรรณ แพรวพรรณก็ยังยอมให้อภัยแล้วกลับมาดูแลตัวเอง "ไม่เป็นไรค่ะแม่ พี่บาสทานข้าวสิ เดี๋ยวแพรวปอกมะม่วงให้ เสร็จแล้วไปนั่งกินหน้าทีวีดูรายการประกวดร้องเพลงที่แม่ชอบดีมั้ยคะ" แพรวพรรณพูดแล้วหันไปยิ้มให้สามีและแม่สามี ความดีที่แพรวพรรณทำในครั้งนี้ก็ได้แต่หวังว่าความดีจะช่วยให้ชีวิตครอบครัวสงบสุข อชิระวัตรหมดหนี้สินได้กลับมาทำงานเพื่อสร้างรากฐานครอบครัวให้มั่นคง มีลูกน่ารักด้วยกันสักคนครอบครัวมีความรักความเข้าใจต่อกัน ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่แม่ของอชิระวัตรมาอยู่รักษาตัวที่กรุงเทพจนอาหารหายดีขึ้น แพรวพรรณก็ได้ทำหน้าที่ดูแลแม่สามีได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องอะไร อชิระวัตรเองก็ได้ทำหน้าที่ดูแลแม่ตามหน้าที่ของลูกชาย นับได้ว่าการกระทำของแพรวพรรณในครั้งนี้ได้ใจของอชิระวัตรไปเต็มๆ แต่จะมากพอที่จะทำให้ผู้ชายคนหนึ่งเป็นคนดีทำเพื่อครอบครัวได้ตลอดไปหรือไม่ก็ต้องติดตามดูกันต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม