บทที่ 8 ความขุ่นมัวในชีวิตคู่เริ่มเกิดขึ้นบางๆ (มันก็ไม่พ้นเงินหรอก)

1985 คำ
ความสัมพันธ์ของแพรวพรรณกับอชิระวัตรดำเนินไปอย่างราบเรียบท่ามกลางเกลียวคลื่นใต้น้ำ มวลพลังแห่งความไม่ชอบใจที่แพรวพรรณมีต่อพ่อแม่ของอชิระวัตร ความไม่ชอบนั้นเริ่มสะสมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความชาชินรังเกียจไม่อยากอยู่ใกล้ตัวปัญหา หลังๆ มาไม่ว่าอชิระวัตรจะพูดเล่าถึงครอบครัวของเขายังไงแพรวพรรณทำได้แค่ฟังผ่านๆ ไม่ได้ใส่ใจจะฟัง ไม่เปิดโอกาสให้พ่อแม่อชิระวัตรได้เข้ามาในเชฟโซนของตัวเอง เงินที่ให้ยืมไปก็ไม่ได้ยืม แพรวพรรณไม่ค่อยพูดคุยกัน เจอหน้ากันแค่ปีละไม่กี่ครั้ง แต่อชิระวัตรนั้นรับมวลสารแห่งความปวดหัวมาเต็มๆ บ้านต้องผ่อน ค่าน้ำมันรถ ค่าภาษีสังคมลูกน้อง งานก็เครียด ทำงานเหมือนหาเงินมาผ่อนตู้เย็น เงินเดือนไม่เคยได้เหลือเก็บหรือหยิบยื่นให้แพรวพรรณได้ใช้เลย นอกจากค่าผ่อนบ้านเดือนละสองหมื่นบาทเท่านั้น หลังจากแต่งงานกันได้สามปีเต็มแพรวพรรณก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกแต่หน้าที่การงานของแพรวพรรณก็ก้าวหน้ามั่นคงมากขึ้นอย่างมากเพราะแพรวพรรณเป็นคนเก่ง เป็นคนสวยที่ฉลาดพูด ทำให้เจ้านายชอบแพรวพรรณและผลักดันทำให้ได้ขึ้นตำแหน่งเร็วมาก "แพรวได้เลื่อนตำแหน่งงานเป็นผู้อำนวยการฝ่ายแล้วนะพี่บาส แพรวคิดว่าจะออกรถใหม่สักคัน" "แล้วแพรวจะผ่อนรถเหรอ ไหนบอกว่าจะเก็บเงินไว้โป๊ะบ้านก่อนไงครับ" "แพรวจะออกรถเงินสด บ้านหลังนี้แม่แพรวเป็นคนออกดาวน์ให้ พี่บาสก็ทำหน้าที่ผ่อนไปก็แฟร์อยู่แล้วนี่คะ รถที่พี่ขับมันก็คือเงินสินสอดของแพรวนะคะ แล้วอยู่ดีๆ พี่จะให้แพรวเอาเงินมาโป๊ะบ้านซึ่งเราอยู่ด้วยกัน พี่บาสต้องมีส่วนรับผิดชอบบ้างไม่ใช่เหรอ ค่ากินค่าอยู่ในบ้านแพรวก็เป็นคนจัดการให้หมดแล้วนะคะ" "แพรว นี่แพรวพูดอะไร แพรวกำลังดูถูกพี่อยู่นะ แพรวว่าพี่ไม่สามารถดูแลแพรวได้ ซ้ำยังจะมาเกาะแพรวกินแบบนั้นใช่มั้ย" "ไม่ใช่ค่ะ แพรวแค่คิดว่าพี่บาสควรได้รับผิดชอบค่าผ่อนบ้าน เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่แพรวพึงได้จากพี่ในตอนนี้ แพรวไม่กล้าคิดให้พี่บาสมาเลี้ยงดูแพรวหรอกค่ะ แค่แม่กับพ่อพี่ไหนจะน้องชายพี่อีก นี่ได้ข่าวว่าโดนรีทายออกมาตอนนี้เรียนช่างซ่อมรถอยู่ แม่พี่ก็ตามใจถึงขนาดซื้อบิ๊กไบค์คันใหม่ให้ แพรวนะงงงวยกับ Logic ของครอบครัวพี่บาสจริง ๆ นะคะ ไม่มีเงินจะกินต้องขูดรีดลูกอีกคนเอาเงินไปซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็นให้ลูกอีกคน ถามจริงๆ นะพี่บาสแม่พี่เขาใช้สมองส่วนไหนคิดกันคะ" แพรวพรรณพูดขึ้นมาอย่าเหลืออด "แพรว เราคุยเรื่องบ้านเรื่องรถของแพรวอยู่นะ ทำไมแพรวต้องก้าวร้าวไปถึงแม่พี่ด้วย" "ค่ะ แพรวก้าวร้าว แต่ขอโทษเถอะนะคะแพรวทนมองไม่ไหวจริงๆ สามปีมานี่ปีบาสลองคิดดูนะว่าแม่พี่เขาเบียดเบียนพี่ไปเท่าไหร่แล้ว แทนที่พี่จะได้เอาเงินมาก่อร่างสร้างตัว เป็นแพรวทั้งนั้นที่ทำงานแทบตายเก็บเงินสร้างอนาคต นอกจากไอ้เดือนละสองหมื่นที่ต้องผ่อนบ้านพี่ได้มีเงินส่วนไหนเอามาทำเพื่อตัวเองบ้าง แล้วแพรวผิดตรงไหนที่แพรวจะซื้อรถไม่เอาเงินไปปิดบ้านให้พี่" "แพรว พี่ว่าแพรวพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะ บ้านถ้ามันปิดได้มันก็เป็นทรัพย์สินของแพรว พ่อแพรวซื้อบ้านให้แพรวก่อนที่เราจะจดทะเบียนสมรสแต่พี่เป็นคนผ่อนนะแพรวลืมไปหรือเปล่า" "ไม่ลืมค่ะว่าพี่บาสเป็นคนผ่อน แต่พี่บาสก็อยู่ที่นี่ อยู่ในฐานะสามีแพรว สามีที่ต้องดูแลรับผิดชอบเมีย รับผิดชอบภาระหนี้สิน เก็บเงินเพื่ออนาคตให้ลูกที่เรากำลังจะมีด้วยกันบ้าง ไม่ใช่มีเท่าไหร่ก็เอาไปถมให้พ่อแม่จอมงกของพี่หมด พี่เป็นแบบนี้แพรวจะมั่นใจมีลูกได้ยังไงพี่คิดบ้างหรือเปล่า" "เออ พี่ก็ไม่ได้อยากจะส่งเงินให้พ่อแม่หรอก อยากเกิดมาสมบูรณ์พร้อมเหมือนแพรว มีพ่อแม่ร่ำรวยสนับสนุนเหมือนกันแพรว แต่พี่เลือกเกิดไม่ได้ พี่เป็นลูกเขาไปแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าจะทำยังไงถึงจะเลิกจากการเป็นลูกเขาได้" อชิระวัตรพูดยอมรับน้ำตาคลอด้วยความอัดอั้นในหัวใจอย่างถึงที่สุดแล้ว เขาไม่ได้อยากจะให้พ่อแม่มากเท่านี้หรอก แต่พ่อขอแม่ขอไม่ให้เขาก็ไม่มีกินแล้วคนเป็นลูกจะนั่งมองอยู่ได้อย่างไร "พี่บาส...คือแพรว แพรวขอโทษนะคะ....." แพรวพรรณเห็นอชิระวัตรเป็นแบบนั้นก็ให้นึกได้สติเดินเข้าไปจะจับมืออชิระวัตรอย่างต้องการจะขอโทษที่ตนเองเป็นต้นเหตุแห่งคำพูดที่ทำให้อชิระวัตรสะเทือนใจ "ไม่เป็นไรแพรว พี่อยากอยู่เงียบๆ ขอพี่อยู่คนเดียวนะ" อชิระวัตรดึงมือกลับไม่ยอมให้แพรวพรรณเกาะกุมไว้ แล้วเดินออกจากห้องไปเงียบๆ แพรวพรรณปล่อยให้สามีอยู่ในห้องทำงานเงียบๆ สักครู่หนึ่งก็ได้ทำน้ำผึ้งมะนาวดอกอัญชันเครื่องดื่มที่อชิระวัตรชอบกินเข้าไปให้ในห้องทำงานของเขา "พี่บาส ทำงานอยู่เหรอคะ ง่วงนอนแล้วยัง นี่แพรวทำน้ำผึ้งมะนาวมาให้ ดื่มหน่อยนะคะ" แพรวพรรณเดินเข้ามางอนง้อพูดดีทำดีกับสามีเต็มที่ "อือ พี่ทำงานอยู่ วางไว้เถอะเดี๋ยวกินเอง" อชิระวัตรพูดกับเมียทั้ง ๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตามองหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ ไม่ได้หันมามองหรือสนใจแพรวพรรณเลย เมื่อแพรวพรรณเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปโอบกอดสามีไว้ทางด้านหลังแล้วพูดอ้อนสามีว่า "พี่บาสแพรวขอโทษนะที่พูดว่าที่บ้านพี่บาสแรงไป คือแพรวไม่ได้ตั้งใจ ช่วงนี้งานยุ่งประจำเดือนก็ยังไม่มาด้วยแพรวเลยหงุดหงิดไปหน่อย พี่บาสอย่าโกรธแพรวเลยนะ นะคะ" แพรวพรรณพูดขอโทษและซบหน้าลงกับไหล่หนาของสามีแล้วพูดอ้อนเบาๆ จนทำให้อชิระวัตรใจอ่อนยอมพูดกับแพรวพรรณ "ครับ พี่ไม่โกรธแพรวแล้วก็ได้ แต่ต่อไปแพรวอย่าพูดแบบนี้อีกได้มั้ย พี่รู้พ่อแม่พี่ ฐานะบ้านพี่ไม่มีอะไรเทียบกับบ้านแพรวพ่อแม่แพรวได้เลย อย่าพูดเหมือนพี่มาเกาะแพรว พี่เองก็พยายามอยู่ ตั้งใจทำงานทุกวัน เพื่อให้เข้าตาเจ้านายได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น พี่เองก็อยากเลี้ยงดูแพรวให้สบาย แล้วก็อยากมีเงินให้พ่อแม่เสียให้พอ เขาจะได้หลุดพ้นจากความไม่มีอยู่สบายเสียที" อชิระวัตรพูดบอกกับแพรวพรรณถึงความต้องการอยากที่จะทำให้สำเร็จของตัวเอง "แพรวเข้าใจพี่บาสนะ แต่บางครั้งความพอดีมันก็อาจจะทำให้ชีวิตพี่มันสมดุลมากขึ้นนะพี่บาส อย่ากดดันตัวเองเพื่อคนอื่นมากจนเกินไปเลยค่ะ พี่ช่วยเหลือพ่อแม่ได้แค่บางส่วนแต่ไม่ใช่ต้องโอบอุ้มเอามาเป็นภาระไปทั้งหมด ถ้าแค่อยู่เฉยๆ ไม่ทำงานให้ลูกหาส่งให้กินน่ะได้ แต่นี้รถก็จะเอา ทองก็จะใส่ อวดร่ำอวดรวยไม่สิ้นสุดแต่งานไม่ทำ พอทำก็เป็นอันว่าต้องป่วย" แพรวพรรณพูดว่าไปตามตรง "แต่คนอื่นที่แพรวพูดถึง คือพ่อแม่พี่ แพรวก็รู้พี่มีหน้าที่ของลูกที่ต้องรับผิดชอบพวกท่าน ไหนจะแพรวอีก แพรวเองก็เรียกร้องอยากให้พี่ดูแลแพรวดีๆ ไม่ใช่เหรอ เพราะฉนั้นทางเดียวที่พี่จะทำได้ดีก็คือการทำงานนะ ต้องทำให้เยอะขึ้นหนักขึ้น เงินจะได้มีเยอะขึ้น นี่พี่ก็กำลังฝึกเล่นหุ้นอยู่นะเผื่อจะมีรายได้มาเพิ่มอีกทาง" "ตัวแพรวเองไม่ได้คาดหวังอยากได้อะไรจากพี่มากเกินไปกว่าการแชร์ความเป็นชีวิตคู่ที่ดี แพรวไม่เคยอยากได้ของผู้ใดแม้แต่ของพี่บาส แต่ที่แพรวพูดถึงเงินในส่วนนั้น แพรวคิดว่ามันเป็นส่วนที่ควรต้องมาแชร์กัน เพราะเราใช้ชีวิตด้วยกัน เสื้อผ้าพี่แพรวเป็นคนซักให้ดูแลส่งรีดให้ ค่ากินค่าอยู่ค่าน้ำค่าไฟแพรวดูแลรับผิดชอบให้พี่ทุกอย่าง สิ่งที่แพรวทำให้มันมาจากความตั้งใจใส่ใจและมันก็ต้องใช้เงินนะคะพี่บาส แพรวมองว่ามันคือการแชร์กัน แพรวพยายามเข้าใจความเป็นครอบครัวพ่อแม่พี่บาสนะ แต่แพรวก็อยากให้พี่บาสเข้าใจแพรวด้วย พี่บาสรู้มั้ยไม่มีใครเป็นผู้ให้อยู่ฝ่ายเดียวได้ไปตลอดชีวิต กฎของธรรมชาติ ธรรมดามันต้องเป็นผู้ให้และผู้รับที่ดีมันถึงจะสมดุลนะคะ" "พี่เข้าใจแพรวนะ พี่เองก็พยายามทำให้ดีในส่วนที่พี่ต้องทำ พี่เองก็อยากรวย อยากมีอยากได้ อยากเป็นคนรวยคนหนึ่งที่เลี้ยงดูเมียให้สุขสบาย ดูแลพ่อแม่ให้ดี ให้เวลาพี่หน่อยนะแพรวนะ ทุกอย่างมันจะดีขึ้น" อชิระวัตรพูดขอ ทำให้แพรวพรรณถอนหายใจตัดใจยอมจบไม่อยากยืดเยื้อพูดต่อให้ยาวไปอีก "ค่ะ งั้นพี่บาสดื่มน้ำผึ้งมะนาวที่แพรวทำมาให้หน่อยนะคะ เสร็จแล้วเราไปนอนกันเถอะนะคะพรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานอีกนะคะ แพรวไม่ค่อยสบายตัวเลย เดือนนี้ประจำเดือนก็ยังไม่มาด้วย แพรวเลยไม่อยากนอนดึก" "ครับ เอามาสิพี่ดื่มเลยก็ได้ ว่าแต่แพรวประจำเดือนยังไม่มา หรือว่าแพรวจะท้องแล้วครับ" "ไม่รู้เหมือนกันแต่ช่วงนี้งานเยอะ เครียดด้วยค่ะ พรุ่งนี้แพรวก็มีประชุมแต่เช้าอีก" "งั้นเราก็ขึ้นไปนอนเถอะนะ พี่อยากมีลูกสักคนสามปีแล้วนะแพรว เรายังไม่มีวี่แววกันเลย" "ก็มันเป็นช่วงที่เราต้องสร้างเนื้อสร้างตัว ทุ่มเทให้การงานมั่นคงก่อนนี่คะ เอาอย่างนี้ดีมั้ยคะแพรวออกรถไม่แพงมาใช้ก่อน ตอนแรกตั้งใจจะซื้อรถแพงๆ แบบ BM Mini นะคะ แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้วแพรวขับรถญี่ปุ่นคันเล็กๆ ไปทำงานก็พอเก็บเงินไว้ให้ลูกของเราดีกว่านะคะ" "ครับ แพรวพูดจริงเหรอ แพรวพร้อมจะมีลูกแล้วจริงๆ เหรอ" อชิระวัตรถามขึ้นด้วยความตื่นเต้นยินดีที่เมียจะยอมมีลูกเสียที "ค่ะ ก็เราแต่งงานกันมาสามปีแล้ว มีบ้านมีรถ พอมีทรัพย์สินแล้ว การงานมั่นคงแพรวคงเลี้ยงลูกได้อย่างดีแล้วแหละค่ะ จะติดก็เรื่องที่ยังไม่มีเงินปิดบ้านนั่นแหละค่ะ อีกตั้งเกือบสามล้านแน่ะ" "เอาน่า พี่ผ่อนเองทำงานผ่อนไปเดี๋ยวก็หมดนะครับ ไปนอนกันเถอะอยากทำลูกกับแพรวแล้ว" อชิระวัตรหายโกรธเมียเรื่องที่เมียว่าแม่ของตัวเอง ปิดคอมแล้วชวนเมียขึ้นไปนอน ลืมเรื่องขุ่นมัวก่อนหน้านี้ไปหมดสิ้น
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม