“ทูลองค์ชาย องค์หญิงเว่ยฟางเสด็จมา พะย่ะค่ะ”
นายทหารคนหนึ่งเข้ามารายงานต่อหลี่ซ่งหมินภายในห้องทรงอักษรของอาณาเขตวังของเขา
ชายหนุ่มละสายตาจากหนังสือที่อ่านอยู่ ยังไม่ทันตอบคำใดๆต่อนายทหาร ร่างบางระหงก็เดินนวยนาดเข้ามาในห้องที่เขานั่งอยู่ พร้อมทำความเคารพด้วยท่าทางอ่อนช้อย นุ่มนวล
เว่ยฟางเป็นองค์หญิงบรรณการจากแคว้นพระสหายของเสด็จพ่อของหลี่ซ่งหมิน นางมักจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าเนื้อดี ประโคมเครื่องประดับเต็มศีรษะและลำคอ ใบหน้าของนางมักจะลงแป้งและสีสันมาอย่างครบเครื่อง
นางถูกวางเอาไว้ในตำแหน่งที่จะต้องอภิเษกสมรสกับเขาได้ทุกเวลา นั่นจึงมิใช่เรื่องแปลกอันใดกับการกระทำที่ค่อนข้างจะกล้าหาญชาญชัยของนาง
หลี่ซ่งหมินเพียงก้มหน้าอ่านหนังสือในมือต่อ เขามิได้ยินดียินร้ายกับการมาเยี่ยมเยือนขององค์หญิงหรือสตรีคนไหน
เขาแสดงออกชัดเจนว่ามิได้สนใจพวกนางแม้แต่น้อย แต่พวกนางก็ยังคงมีความพยายามที่จะมาเยี่ยมเยือนเขา มาหาเขา มาให้เขาเห็นหน้า หรือไม่ ก็มาเพื่อที่จะเห็นหน้าเขา
เดิมทีแม้เขาจะเป็นเพียงแค่องค์ชายก็มีบรรดาสตรีมาชมชอบเขาไม่น้อยอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกนางยังพอสงวนท่าทีอยู่บ้าง
แต่เมื่อเวลาที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาทใกล้เข้ามา ทำให้เขามีโอกาสจะได้เป็นองค์จักรพรรดิองค์ต่อไป เหล่าสตรีพวกนี้จึงเริ่มทำงานบริหารเสน่ห์ใส่เขากันอย่างแข็งขัน
“ถวายบังคมเพคะ องค์ชายหลี่ซ่งหมิน” เสียงขององค์หญิงเว่ยฟางช่างอ่อนหวานยิ่งนัก นายทหารที่มารายงานคิดในใจ เขายังไม่ทันออกจากห้องแห่งนี้ไป จึงมีเวลาสำรวจองค์หญิงแบบกล้าๆกลัวๆ
เว่ยฟางปรายตามองนายทหารผู้นั้นด้วยหางตา พร้อมพยักหน้าเป็นเชิงให้ออกไป
นายทหารเห็นสายตาที่มองมาหาตนถึงกับรีบออกไปอย่างไม่รีรอ
หญิงสาวไม่รอช้ารีบปรับสีหน้าก่อนหันมาทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่
“องค์ชายเพคะ หม่อมฉันนำยาบำรุงมาถวายเพคะ ให้หม่อมฉันเตรียมให้เลยนะเพคะ องค์ชายจะได้จิบไปอ่านหนังสือไปนะเพคะ” เว่ยฟางกล่าวอย่างเอาอกเอาใจ น้ำเสียงออดอ้อน
เพียงครู่เดียว ยาก็ถูกบรรจุลงในถ้วยเนื้อดีตรงโต๊ะลายฉลุที่ตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของห้องแห่งนี้ ก่อนจะถูกนำมาวางบนโต๊ะที่หลี่ซ่งหมินนั่งอยู่
“องค์ชายทรงดื่มเลยนะเพคะ เอ...หรือว่ามันยังร้อนไป เดี๋ยวหม่อมฉันเป่าให้นะเพคะ” นางพูดไปพลางเดินอ้อมมาที่โต๊ะหนังสือแล้วหยุดตรงด้านข้างของชายหนุ่มก่อนจะก้มลงเป่ายาในถ้วย ในท่าที่หมิ่นเหม่ใกล้ชิดกันกับร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงนั้น
ท่าทางของนางเห็นได้ชัดว่าอยากใกล้ชิดเขา
ชายหนุ่มหยุดอ่านหนังสือ ก่อนปิดมันไว้ในมือ แล้วพาร่างโปร่งของตนลุกขึ้นเดินเลี่ยงไปที่ชั้นหนังสือ
เขาไม่ชอบให้ใครมายืนค้ำศีรษะของเขาถึงแม้ว่าคนผู้นั้นจะมียศฐาบรรดาศักดิ์เทียบเคียงกันก็ตามที โดยเฉพาะอิสตรี ทั้งยังมิใช่มารดาหรือภรรยาของเขา
ถึงแม้ว่านางจะเป็นว่าที่ชายาของเขาในภายภาคหน้าก็ตามที
เว่ยฟางเห็นหลี่ซ่งหมินลุกขึ้นไป จึงเดินตามพลางเอ่ยเสียงหวานหยด
“องค์ชายทรงอ่านหนังสืออะไรหรือเพคะ หม่อมฉันก็สนใจเหมือนกันเพคะ ให้หม่อมฉันช่วยเลือกนะเพคะ เรามาอ่านด้วยกันนะเพคะ”
เสียงของหญิงสาวยังคงเอ่ยเจื้อยแจ้วมาอย่างต่อเนื่อง ประหนึ่งดังนกแก้วนกขุนทอง พร้อมย่างกรายมาหยุดอยู่ใกล้ๆ เขาด้วยท่าทางเหนียมอายผิดกับประโยคที่เอ่ยออกมา
หลี่ซ่งหมินปรายสายตามองหญิงสาว
เขาเพียงจ้องมองนางนิ่งๆ นางถึงกับหน้าแดง พลันส่งสายตาตอบกลับแบบเย้ายวนต่อเนื่อง
มารยาของนางช่างไหลลื่นไม่มีที่ติ ชายหนุ่มคิดในใจ
“องค์ชายเพคะ...นะเพคะองค์ชาย” หญิงสาวยังคงส่งเสียงอ่อนหวานแววตาเป็นประกาย
“หมดธุระของเจ้าแล้วหรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยในที่สุด
หญิงสาวถึงกับชะงักกึก
“เอ่อ...” ไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“ข้าต้องการสมาธิในการอ่านหนังสือ” เขาพูดพร้อมกับหยิบหนังสือเล่มใหม่ออกมาไว้ในมือ ก่อนจะหันมามองหญิงสาวด้วยสีหน้าเย็นชา แววตาไร้อารมณ์ใดๆ
หญิงสาวถึงกับหลุบตาลงไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม ก่อนจะทำความเคารพอย่างอ่อนช้อย
“หม่อมฉันของประทานอภัยที่รบกวนองค์ชายเพคะ” นางกล่าวเสียงอ่อน พร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงคล้ายขัดใจอยู่ไม่น้อย
หลี่ซ่งหมินมิได้สนใจนำพาใดๆกับอาการของหญิงสาว
เขาเพียงกลับมานั่งอ่านหนังสือเล่มใหม่อย่างหน้าตาเฉย