เพียงไม่นานชุดที่หลี่ซ่งหมินยื่นให้ก็อยู่บนตัวของหงเหม่ยหลง
ชายหนุ่มยืนมองหญิงสาวที่เดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยชุดสีชมพูอ่อนปักลายสีนวล
ชุดนี้เขาเป็นคนไปซื้อให้นางตอนที่นางยังหลับอยู่บนรถม้า
ถึงแม้ว่าตอนที่เขากลับมายังรถม้า พบว่านางหายไปแล้ว แต่เขาก็ยังมิได้ตัดใจทิ้งชุดนี้ไป
ในที่สุดนางก็ได้ใส่มัน เขานึกอยู่ในใจ
ตอนที่เขาเจอนางครั้งแรก นางใส่ชุดสีเข้มทำให้นางมีลักษณะดุดัน น่าเกรงขาม ไม่มีความสวยงามอ่อนหวานเยี่ยงสตรีทั่วไป
แต่เมื่อนางสวมใส่ชุดสีอ่อนแบบนี้ นางกลับน่ามองขึ้นมา แม้สายตาของนางจะยังคมเฉี่ยวอยู่ก็ตามที พวงแก้มสีชมพูระเรื่อที่รับกับริมฝีปากแดงสดอวบอิ่มนั้นของนาง ทำให้เขาอยากเข้าไปจูบนางอีก
เขาอยากจูบนางจริงๆ
มิรู้ได้ว่าทำไม...
ความรู้สึกนี้...มัน...
หงเหม่ยหลงแต่งตัวเสร็จแล้วจึงมีเวลามองสำรวจภายในห้องแห่งนี้ นางอยากจะขอนอนในนี้สักคืนหนึ่ง
หญิงสาวมองไปรอบๆห้อง ในห้องนี้นอกจากห้องอาบน้ำแล้วยังมีห้องแต่งตัวเล็กๆ มีโต๊ะพร้อมตั่งหนึ่งชุด ใกล้ๆกันมีเตียงขนาดกำลังพอดีอีกหนึ่งเตียง
แล้วก็...อืม...มีชายหนุ่มรูปงามยืนอยู่ หญิงสาวชะงักตรงชายหนุ่มรูปงามนี้ พลันนึกถึงเหตุการณ์ที่ห้องอาบน้ำก่อนหน้านี้ จึงรีบหมุนตัวไปที่หน้าต่างบานเดิมที่ใช้เข้ามา หวังจะออกจากห้องไป
หลี่ซ่งหมินชะงักกับกิริยาของหญิงสาว ก่อนเอ่ย “นั่นเจ้าจะไปไหน”
“ข้าจะไปหาที่นอน” หงเหม่ยหลงตอบตามจริง
“เจ้านอนที่นี่ได้”
“ไม่เอา”
“ห้องอื่นเต็มหมดแล้ว”
หงเหม่ยหลงชะงักกึกพลันนึกขึ้นได้ จึงหันไปถามชายหนุ่ม “ที่นี่แทบไม่มีคนเลย จะเต็มได้อย่างไร แล้วท่าน”
“ท่านควรจะอยู่อีกโรงเตี๊ยมหนึ่งมิใช่รึ”
“เจ้ามาที่นี่เพราะเห็นว่าข้าเข้าพักอีกที่หนึ่ง” ชายหนุ่มกล่าวออกไป เขานึกเคืองขึ้นมาทันที
หญิงสาวพยักหน้ายอมรับ “อืม...ที่นั่นคนเยอะแล้ว ข้าจะแอบเข้าไปได้อย่างไร”
คำตอบของหญิงสาวทำเอาหลี่ซ่งหมินหายเคืองทันที เขาเริ่มไม่เข้าใจอารมณ์ของตนเองยามนี้เสียจริง
“แต่ข้าเห็นรถม้านั่น” หญิงสาวยังคงสงสัย
“ข้าแค่ล่อศัตรูที่ตามมา” หลี่ซ่งหมินตอบคำเรื่อยๆ
“อ่อ” หญิงสาวเริ่มเข้าใจ
“เจ้าคงถนัดแต่ใช้กำลัง ไม่ใช้สมองสินะ” เขาแกล้งเย้า
หญิงสาวถลึงตาใส่ “หึ! ข้าเป็นตามที่ท่านกล่าวมา”
คำตอบตรงๆของหงเหม่ยหลงทำเอาหลี่ซ่งหมินจนคำพูด เขาจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “เจ้าพักผ่อนเถอะ ข้าจะให้คนนำของกินมาให้”
ชายหนุ่มหมุนตัวเดินไป พลางเอ่ย “ข้าจะไปนอนห้องอื่น” เขารู้ว่าที่นางจะจากไปเป็นเพราะว่าเขายังอยู่ จึงตัดสินใจแบบนั้น
หงเหม่ยหลงได้ยินดังนั้นจึงผละออกจากหน้าต่างในทันที
เมื่อเห็นชายหนุ่มเดินออกไปแล้วนางจึงพุ่งตัวมาที่เตียงนอนอย่างไม่รีรอ เพียงครู่เดียวนางก็หลับไป
นางต้องพักผ่อนเยอะๆเก็บแรงเอาไว้สำหรับวันต่อไป...
เช้าวันใหม่ผ่านเข้ามา...
หลี่ซ่งหมินยังคงรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่านกับคำกล่าวของนายทหารคนเดิมอย่างบอกไม่ถูก
“ทูลองค์ชาย แม่นางน้อยหายไปแล้วพะย่ะค่ะ” นายทหารคนเดิมกล่าวประโยคเดียวกันกับเมื่อวาน
แล้วก็ต้องฉงนกับอาการหงุดหงิดนั่นดังเดิม...