3

1529 คำ
“เขาเป็นคนดี เป็นผู้มีพระคุณของแม่ หนูไปหาเขานะ เขาจะช่วยหนูเอง ไปบอกเขาว่าหนูเป็นลูกแม่” “แม่คะ หนูจะพาแม่ไปหาหมอนะคะ” รัตนาวดีร้องไห้น้ำตาไหลพราก เธอส่ายหน้าไปมา อาการมารดาไม่สู้ดีนัก “แม่คงไม่ไหวแล้วจริงๆ ไปจากที่นี่ซะ ถ้าไม่มีแม่ มันต้องทำมิดีมิร้ายหนูแน่ๆ อย่าอยู่ที่นี่ แม่...” เรวดีกำมือบุตรสาวแน่น ก่อนจะสิ้นใจลงในที่สุด “แม่! ไม่นะคะแม่ ศักดิ์แบกแม่ออกไปเรียกแท็กซี่เร็ว พาแม่ไปหาหมอ ช่วยเราหน่อย” รัตนาวดีพูดอย่างร้อนรน ประคองมารดาให้นั่งเหมือนเดิม ถ้าเธอแบกท่านไหว เธอคงจะแบกท่านเอง ศักดิ์สิทธิ์เอานิ้วไปจ่อที่จมูกของเรวดี เขาคอตก ก่อนจะปลอบเพื่อนสาว “ท่านไปดีแล้วงาม” “พูดอะไรของนาย พูดบ้าอะไร แม่ยังอยู่กับเรา แม่จ๋า แม่...” เสียงของรัตนาวดีโหยหวน เธอร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “ฮือๆๆๆ ไม่จริง แม่อย่าทิ้งงามไปนะ ไม่นะแม่ แล้วงามจะอยู่กับใคร” รัตนาวดีเขย่าร่างมารดาก่อนจะกอดท่านแนบอก ศักดิ์สิทธิ์พานน้ำตาไหลไปด้วย เขาบีบไหล่เพื่อนสาวเพื่อปลอบโยน งานศพของมารดาเป็นการจัดงานแบบไร้ญาติขาดมิตร ด้วยความเมตตาของวัด รัตนาวดีไม่กล้ากลับไปนอนที่บ้านอีก เพราะกลัวบิดาเลี้ยงขืนใจ มารดาเคยช่วยให้เธอรอดมาหลายครั้ง แต่ถ้าขาดท่านไป เธอคงไม่รอดแน่ๆ เพราะมีชัยคอยแต่จะเข้าหาเธออยู่เรื่อย เธอเลยอาศัยนอนที่วัด แต่ศักดิ์สิทธิ์กลัวเธอจะไม่ปลอดภัย เขาเลยมานอนเป็นเพื่อน เธอจึงอุ่นใจขึ้นมาเยอะ “งาม ไปอยู่บ้านเราไหม งามอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้หรอก ลุงชัยคอยแต่จะทำไม่ดีกับงาม” “แต่งามเกรงใจศักดิ์นะ งามเป็นคนอื่น จู่ๆ จะย้ายไปอยู่บ้านศักดิ์ได้ยังไงกัน” “ไม่เป็นไรหรอก ครอบครัวของศักดิ์ ศักดิ์จะคุยกับพวกเขาเอง” “แต่แม่สั่งให้ไปหาคนคนหนึ่ง” เธอยังจำคำของมารดาได้ดี “เขาเป็นใครก็ไม่รู้นะงาม จู่ๆ เราจะไปรบกวนเขา ศักดิ์เกรงว่าเขาจะ...” “งามก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกัน” “ย้ายไปอยู่กับศักดิ์ก่อน ค่อยคิดว่าจะทำยังไงต่อไป ดีไหมงาม” ศักดิ์สิทธิ์อยากจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือหญิงสาว อย่างไรเสียเขาก็ไม่อยากให้เธอลำบาก “งามขอบใจศักดิ์มากนะ” หลังจากเผาศพมารดาแล้ว รัตนาวดีก็ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของศักดิ์สิทธิ์ บ้านของเขาเป็นบ้านไม้สองชั้นแต่ค่อนข้างทรุดโทรม ก้าวแรกที่เข้าไปอยู่ในบ้านเธอรู้สึกว่าไม่ได้รับการต้อนรับเท่าที่ควร แต่เพราะต่อหน้าศักดิ์สิทธิ์ มารดาและน้องสาวจึงไม่ได้แสดงอาการอะไรมากมาย ไม่เหมือนตอนที่อยู่กับเธอตามลำพัง “อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น เคยได้ยินไหม มาอาศัยอยู่ค่าเช่าก็ไม่ต้องจ่าย ก็ต้องช่วยกันทำงานบ้านโน่นนั่นนี่ด้วยสิ” ศศิน้องของศักดิ์สิทธิ์ชอบพูดจาหาเรื่องอยู่บ่อยๆ รัตนาวดีย้ายมาอยู่ที่นี่ก็ทำงานบ้านทุกอย่าง กวาดบ้านถูบ้าน ซักผ้า ล้างจาน แม้แต่ทำกับข้าว เธอต้องนอนห้องเดียวกับศศิ เพราะไม่มีห้องอื่นอีกแล้ว นั่นทำให้เธออึดอัดใจยิ่งนัก เพราะศศิชอบแต่งเนื้อแต่งตัว วันๆ ก็เอาแต่เที่ยวเตร่ หนังสือหนังหาก็ไม่ค่อยสนใจ แถมยังหยิบใช้ข้าวของเธอตามอำเภอใจอีก แต่พอศักดิ์สิทธิ์กลับมา สองแม่ลูกก็เป็นอีกอย่าง ทำเป็นดีกับเธอต่อหน้า พอลับหลังก็โขกสับ พูดจากระแหนะกระแหนสารพัด “ลูกชายฉันน่ะ เขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้าน อยากให้เรียนหนังสือให้จบ ไม่ใช่พาแฟนพาเมียมาอยู่ร่วมบ้าน ยิ่งเพิ่มภาระเข้าไปอีก” ศศิกานต์มารดาของศักดิ์สิทธิ์พูดกระแทกกระทั้นใส่สมาชิกใหม่ รัตนาวดีไม่อยากต่อปากต่อคำก็เดินหนี เหมือนคำที่เขาบอกนั่นแหละ คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก รัตนาวดีมีความคิดทุกวินาทีที่จะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ เธอเห็นใจศักดิ์สิทธิ์ที่เขาต้องแบกรับภาระครอบครัวทั้งแม่และน้อง และต้องมาคอยดูแลเธออีก เธอไม่ใช่ญาติของเขา เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น “ศักดิ์ งามมีเรื่องจะบอก” ขณะอยู่ในมหาวิทยาลัย เธอได้เอ่ยปากกับเขา รัตนาวดีย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของศักดิ์สิทธิ์เพียงไม่กี่วันหลังจากมารดาเสีย แต่เธอกลับรู้สึกว่าเธออยู่ที่นั่นนานชั่วกัปชั่วกัลป์ ส่วนเรื่องบิดาเลี้ยงนั้นเขามาตามตอแยอยู่บ้าง แต่ศักดิ์สิทธิ์คอยช่วยเหลือเอาไว้ทุกครั้ง นี่คือสิ่งที่เธอกังวลอยู่ตลอดเวลา เพราะเธอทำให้เขาเดือดร้อนเหมือนที่มารดาของเขาพูดเอาไว้จริงๆ “งามมีอะไรจะบอกเรา พูดมาเลย” “งามอยากจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกน่ะ” “ทำไมล่ะงาม” ศักดิ์สิทธิ์ถามอย่างตกใจ เพราะตลอดเวลาเขาคิดว่าได้ดูแลเธอดีที่สุดแล้ว เขาไม่เคยหวาดระแวงมารดาและน้องสาวตัวเองเลย รัตนาวดีเองก็ไม่อยากพูดให้ครอบครัวของเพื่อนแตกแยกจึงทำเฉยเสีย “งามเกรงใจศักดิ์นะ ยิ่งงามอยู่ก็ยิ่งเป็นภาระ ไหนจะลุงชัยอีกที่มาตามรังควานงาม ทำให้ศักดิ์และครอบครัวต้องเดือดเนื้อร้อนใจไปด้วย” “แต่ศักดิ์ไม่เคยคิดว่างามทำให้ศักดิ์ต้องเดือดเนื้อร้อนใจนะ ศักดิ์ยินดีและเต็มใจจะช่วยงาม” ศักดิ์สิทธิ์กุมมือหญิงสาวเอาไว้ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ศักดิ์ชอบงามนะ เราตั้งใจเรียน ดูแลกันไปแบบนี้นะงาม เรียนจบค่อยแต่งงานกัน” “ศักดิ์!” รัตนาวดีอุทานอย่างตกใจรีบดึงมือหนี เพราะไม่เคยคิดกับเขาเกินคำว่าเพื่อนเลยสักครั้งเดียว “งามรังเกียจเราเหรอ” “ไม่ใช่หรอก แต่งามยังไม่คิดเรื่องนั้น งามอยากเรียนให้จบและหางานทำ อีกอย่างนึงในอนาคตศักดิ์อาจจะเจอผู้หญิงที่ดีกว่างาม อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไรในตอนนี้เลย” “แต่ศักดิ์รักงามจริงๆ นะ ชาตินี้ศักดิ์จะขอรักงามเพียงคนเดียว ไม่ขอมีใครอีก สำหรับศักดิ์แล้ว งามเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุด” “ศักดิ์อย่าทำให้งามต้องลำบากใจอีกเลยนะ” “ศักดิ์ขอโทษ” ศักดิ์สิทธิ์คอตก “ถ้าศักดิ์ยังอยากเป็นเพื่อนกับงามต่อไป ขอให้งามออกไปอยู่ข้างนอกเถอะนะ” “หรืองามจะไปตามหาคนที่ป้าเรให้ไปหาเหรอ” “งามขอคิดดูก่อน” รัตนาวดีไม่อยากรบกวนใคร แต่คำสั่งเสียของมารดาก็สำคัญ “ให้ศักดิ์ช่วยหาไหม ถ้าเห็นว่าเขาเป็นคนดี ศักดิ์จะได้ไว้วางใจว่างามจะปลอดภัยจากลุงชัยและมีชีวิตที่ดีกว่า” ศักดิ์สิทธิ์ยอมตกลงในที่สุด แต่สมองของเขาครุ่นคิดอะไรหลายอย่างเป็นสิ่งที่รัตนาวดีไม่เคยรู้ “นี่มหา’ลัยนะ ไม่ใช่ที่พลอดรัก ขอโทษเถอะ ยืนจับมือมองตากันหวานซึ้ง นึกว่าแสดงมิวสิควิดีโอกันหรือไง” เสียงหาเรื่องของธีรกรทำให้คนทั้งสองหันขวับไปมอง รัตนาวดีรีบดึงมือออกจากการเกาะกุมของศักดิ์สิทธิ์ อีกฝ่ายยอมปล่อยด้วยความเสียดาย “เงินของคุณวันนั้น ฉันจะหามาคืนให้” รัตนาวดีรีบพูด เพราะเห็นอีกฝ่ายมองมาอย่างดูถูก เธอเกลียดสายตาแบบนี้ของเขาที่สุด “เงินอะไร...” เขาทำหน้างง ก่อนจะคิดออก “อ้อ... เศษเงิน! ฉันให้ เอาไปเถอะ เห็นวิ่งเก็บกันจนเกือบโดนรถเฉี่ยว ถ้าอยากได้อีกบอกได้นะ” เขากวาดสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตามีเลศนัย “อย่ามองงามแบบนี้นะ” ศักดิ์สิทธิ์เห็นสายตาของอีกฝ่ายแล้วทำให้เขาทนไม่ได้เอาเสียเลย อยากจะต่อยหน้าหมอนี่นัก “ทำไมจะมองไม่ได้ ฉันก็เห็นแกวิ่งไปเก็บเศษเงินของฉันด้วยนี่นา” ธีรกรพูดจายียวน มองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาดูถูก “เลิกดูถูกพวกเราได้แล้ว” ศักดิ์สิทธิ์ทำท่าจะเข้าไปต่อยธีรกรให้หงาย อีกฝ่ายยืนท้าให้ต่อย แถมยังชี้ที่แก้มอย่างยียวน “ศักดิ์อย่านะ ไปมีเรื่องกับเขาเดี๋ยวก็มีปัญหาอีก” รัตนาวดีเอ่ยปราม เธอไม่อยากให้ศักดิ์สิทธิ์มีปัญหาเพราะเธอ ธีรกรเส้นใหญ่ ร่ำรวย เป็นลูกคนใหญ่คนโต ถ้ามีเรื่องกับเขา อาจจะเดือดร้อนหรือเรียนที่นี่อย่างไม่มีความสุขก็ได้ “ทำไมไม่ต่อยล่ะ ไอ้ลูกหมา” “ไอ้เวรเอ๊ย!” “ศักดิ์ งามขอนะ งามขอ” รัตนาวดีดึงเพื่อนเอาไว้สุดใจ เธอรู้ว่าธีรกรกำลังยั่วเพื่อนชายของเธอ ถ้าศักดิ์สิทธิ์ทำอะไรลงไป ต้องเป็นเรื่องใหญ่โตแน่ๆ “ไม่กล้านี่หว่า”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม