ตอนที่ 1

1071 คำ
รสสวาทพ่อผัวฝรั่ง ผู้​เขียน กาสะลอง ไม่​อนุญาต​ให้​สแกน​หนังสือ​ หรือ​คัด​ลอก​เนื้อหา​ส่วน​ใด​ส่วน​หนึ่ง​ของ​หนังสือ เว้น​แต่​ได้​รับ​อนุญาต​จาก​เจ้าของ​หนังสือ​เท่านั้น นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว* รสสวาท พ่อผัวฝรั่ง พุทธศักราช 2562 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ‘เพ็ญพร’ หญิงวัยสี่สิบห้าปีพร้อมด้วย ‘ไมเคิล’ สามีฝรั่งวัยห้าสิบปีของหล่อนและสะใภ้ชื่อ ‘ระริน’ พากันเดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานีเพื่อส่งลูกชายที่กำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ “เดินทางปลอดภัยนะลูก… ” เพ็ญพรกล่าวกับลูกชาย มือเรียวเอื้อมมาแตะไหล่ “ผมฝากรินน์ด้วยนะครับแม่… ” ‘ยุทธ’ ยกมือไหว้ลามารดา สวมกอดกัน ก่อนหันไปหาระรินเมียรักที่ยืนตาแดงอยู่ข้างหลังเพราะแอบร้องไห้มาพักใหญ่ๆ ในวันที่สามีของหล่อนจะต้องจากไปไกลนานนับปี หลังจากได้รับทุนไปเรียนต่อปริญญาเอกที่ประเทศนิวซีแลนด์ “รินน์จ๋าอย่าร้องไห้ไปเลยนะ… พี่ไม่ได้ไปนาน” ยุทธสวมกอดเมียรัก… หลักสูตรปริญญาโทต้องเรียนสองปีก็จริง แต่ยุทธก็ให้สัญญาว่าจะกลับมาเมื่อมีวันหยุด “รินน์จะคอยค่ะ… ” ระรินยกนิ้วขึ้นกรีดน้ำตา… หล่อนเข้าใจ สามีทำเพื่ออนาคต ถ้าเขาสำเร็จการศึกษากลับมาคราวนี้ โอกาสจะได้รับตำแหน่งหน้าที่เติบโตในชีวิตราชการก็มีมากขึ้น เสียงประกาศของสายการบินดังขึ้นมาพอดี ได้ยินเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานเรื่องการเดินทาง ขอให้อีกหกคนที่ได้รับทุนและเดินทางไปด้วยกัน มารวมกันที่หน้าประตูผู้โดยสารขาออก “ผมไปก่อนนะครับลุงไมค์… ” ยุทธหันมายกมือไหว้ไมเคิล แม้จะเรียกว่าลุงแต่ไมเคิลก็มีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยง เพราะว่าหลังจากพ่อผู้ให้กำเนิดยุทธเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อห้าปีก่อน เพ็ญพรก็พบรักใหม่กับฝรั่งชาวอเมริกันรูปหล่อนามว่าไมเคิลคนนี้ “เดินทางปลอดภัยนะยุทธ… ” ไมเคิลสวมกอดกับลูกเลี้ยง “ฝากแม่กับเมียผมด้วยนะครับ… ” ยุทธกล่าว “ไม่ต้องห่วง… ลุงสัญญาว่าจะดูแลทุกคนอย่างดี” ไมเคิลรับปากหนักแน่น มองส่งจนร่างผอมบางของชายหนุ่มก้าวเข้าประตูไปพร้อมกับเพื่อนๆ ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ในเวลาต่อมา เสร็จจากส่งยุทธขึ้นเครื่อง ตอนที่ไมเคิลขับรถออกมาจากสนามบิน เวลาก็เย็นมากแล้ว “เรากลับพรุ่งนี้เช้าดีกว่านะ… คืนนี้เราคงต้องหาที่พักแถวนี้สักคืน… ตอนเช้าค่อยกลับอุดร คุณคิดว่ายังไงคะไมเคิล” เพ็ญพรกล่าวกับไมเคิล ด้วยสงสารคนที่จะต้องทำหน้าที่ขับรถ เพราะว่าจากสนามบินไปอุดรต้องใช้เวลาเดินทางราวๆ เจ็ดชั่วโมง ระยะทางเกือบหกร้อยกิโลเมตร กลัวคนขับจะอ่อนล้าเสียก่อน “ก็ดีเหมือนกันที่รัก… ” ไมเคิลตอบ ที่ไม่ขัดก็เพราะไม่ชอบขับรถในตอนกลางคืนเท่าไรนัก เขามักจะบ่นว่ารู้สึกแสบตากับแสงไฟรถในตอนกลางคืน “เราจะพักโรงแรมหรือรีสอร์ตดีจ๊ะ… ” เพ็ญพรหันมาถามสะใภ้ที่นั่งอยู่เบาะหลัง “หนูว่าลองไปพักรีสอร์ตริมทะเลบางปูไหมคะแม่เพ็ญ… แถวนั้นมีรีสอร์ตหลายที่ ช่วงนี้เห็นว่ากำลังมีนกนางนวลอพยพมาด้วย” คนอยากดูนกนางนวล รีบออกความเห็น “น่าสนใจนะ… ” ไมเคิลลองเช็คระยะทางด้วยจีพีเอสก็พบว่าไม่ไกล บางปูอยู่ห่างจากสนามบินยี่สิบกว่ากิโลเมตรเท่านั้นเอง ใช้เวลาเดินทางไม่ถึงสามสิบนาที “ตามใจค่ะที่รัก… ฉันยังไงก็ได้” เพ็ญพรกล่าว “งั้นเป็นอันว่าเราไปพักรีสอร์ตแถวบางปูนะ” ไมเคิลสรุป เมื่อตกลงกันได้จึงตัดสินใจพากันมาหารีสอร์ตริมทะเล เพ็ญพรเช็คอินที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ราคาไม่แพง สถานที่แลดูกว้างขวางสะอาดสะอ้าน ที่สำคัญอยู่ติดทะเล แต่มีข้อเสียคือเหลือว่างแค่หลังเดียวเท่านั้น “อะไรนะคะ… เหลือแค่หลังเดียวหรือคะ” ระรินตกใจ… กลัวว่าจะไม่สะดวกแน่ๆ ถ้าต้องนอนรวมในห้องเดียวกัน แม้จะแยกสองเตียงก็เถอะ “ครับ… มีบ้านเป็นหลัง เหลือหลังเดียวแต่มีสองห้องนอนติดกันครับ… ” เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นชายวัยกลางคนที่กำลังพาเดินมาดูห้องพักกล่าว ระรินรู้สึกโล่งใจ… เมื่อรู้ว่าจะไม่ต้องนอนรวมในห้องเดียวกับพ่อแม่ของสามี ในเวลาต่อมา เสร็จจากมื้อเย็นที่ร้านอาหารริมทะเล เพ็ญพร กับไมเคิลพาระรินเข้ามาที่สถานตากอากาศบางปูเพื่อดูนกนางนวลที่หล่อนอยากเห็น พากันเดินเล่นไปตามแนวสะพานคอนกรีตสีขาวทอดยาวออกไปกลางเวิ้งน้ำ ขนาบด้วยป่าโกงกางเขียว “ที่รัก… ทางโน้นมีสะพานเข้าไปดูป่าโกงกาง คุณอยากเข้าไปไหม” ไมเคิลหันมาชวนภรรยา “ไม่เอาค่ะ… ยุงน่าจะเยอะ” เพ็ญพรส่ายหน้า หันมามองระริน “หนูล่ะ… อยากไปชมป่าโกงกางไหมจ๊ะ” เพ็ญพรถาม “อยากค่ะ… หนูอยากเห็นปูก้ามดาบ” ระรินกล่าว “งั้นหนูไปกับลุงไมค์นะจ๊ะ… เดี๋ยวแม่นั่งรออยู่ที่ร้านกาแฟ” “ค่ะแม่เพ็ญ… ” ในเวลาต่อมา บนสะพานไม้เก่าๆ ยื่นยาวเข้ามาท่ามกลางป่าโกงกางเขียวขจี เสียงคลื่นสาดซัดเข้าหาฝั่งดังโครมครืนอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ระรินกำลังเดินชมนกชมไม้และปลาตีนอย่างเพลิดเพลิน จู่ๆ ก็มีงูเขียวตัวหนึ่งบังเอิญตกลงมาจากกิ่งไม้ ใกล้ๆ กับที่หล่อนกำลังยืนมองปูกล้ามดาบวิ่งไล่กันอยู่ในปลักเลน “ว้ายยยย… ” ระรินกรีดร้องด้วยความตกใจ ขยับตัวเร็วจนร่างเซถลา “หนูรินน์… ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม