ณ ไร่เจ้าขา
รถยนต์คันใหญ่แล่นเข้ามาในเขตของไร่ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มได้ยินไปทั่ว ตามถนนเห็นฝุ่นตลบตามหลังรถยนต์คันใหญ่นั้นเป็นทาง จนเด็กสาวที่ปั่นจักรยานอยู่ริมถนนต้องจอดแล้วยกเอาชายเสื้อขึ้นมาปิดบังใบหน้าและรูจมูกเพื่อไม่ให้สูดเอาฝุ่นเข้าไปในปอด
'รถคุ้นจังแฮะ' หญิงสาวนึกตาม ขยับแว่นตา มองตามตูดรถคันใหญ่นั้น
'รถอาโหน่ง' แววตาของเธอเปี่ยมไปด้วยความดีใจ ขยับตัวรีบขึ้นคร่อมจักรยานสีชมพูเข้มของตัวเองแล้วปั่นออกตัวไปอย่างรวดเร็ว
เสียงฝีเท้าที่วิ่งตึงตังขึ้นไปบนเรือน ทำให้ผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกนั้นหันมามองเป็นตาเดียว
"หวัดดีค่ะ" เสียงเจื้อยแจ้วที่ส่งออกมาจากกลีบปากคู่บาง ภาวนารีบยกมือไหว้ คลานเข่าเข้าไปหาพวกผู้ใหญ่ที่นั่งหันมามองเธอกันหมด ปากสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มออกมาตลอดเวลา สีหน้ายิ้มระรื่นเต็มไปด้วยความดีใจ
ป้าแววพี่สาวของแม่ ป้าแท้ ๆ ของหนูครีมหันมามองใบหน้าน้อย ๆ ด้วยสายตาตำหนิ แต่เด็กสาวไม่ได้สนใจรีบคลานผ่านหน้าคุณป้าเข้าไปหาคุณตาของเธอทันที
"ไปซนที่ไหนมาอีกล่ะ" ท่านถามด้วยความรักและเอ็นดูเด็กสาว ยกมือขึ้นลูบหัวหลานรักคนเล็กของบ้านเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง
"คุณปู่พนัสหายไปนานเลยนะคะ คิดถึงจังเลยค่ะ" เธอรีบทักผู้เฒ่าชราเพื่อนรักของคุณตาด้วยความสนิทสนม
"โตเป็นสาวแล้วนะเรา แหม...เจอหน้าหนูครีมก็ทำปากหวานกับคนแก่ทุกทีแหละนะ" ปู่พนัสทักทาย
"ที่ไหนได้คะคุณพ่อ ยังนี้เขาเรียกซนยังกะลิง ยังวิ่งไล่เล่นงูกินหางกับเด็กท้ายสวนอยู่เลยค่ะ" ป้าแววเหน็บหลานรักขึ้นทันควัน
สายตาของเด็กสาวที่หันมองไปรอบ ๆ เหมือนสำรวจหาใครสักคน ท่าทางดูเลิ่กลั่ก ก่อนจะถามปู่พนัสขึ้น
"ใครมาส่งคุณปู่คะ ครีมเห็นรถของอาโหน่งจอดอยู่ใช่ไหม" แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้
"เรานี่ความจำดีไม่ใช่เล่นนะ ใช่แล้วรถของอาโหน่ง แต่ปู่ขับมาเองจ้ะ เพราะอาโหน่งเขาได้รถคันใหม่มาใช้แล้ว เลยยกคันนี้ให้ปู่ เห่อ ๆ...." ท่านหัวเราะ
หนูครีมทิ้งตัวนั่งลงไปแบบผิดหวัง เพราะเธออยากจะเห็นหน้าเขาใจจะขาด ไม่เจออาโหน่งตั้งนานแล้ว
"นึกว่าจะได้เจออาโหน่งเสียอีก" เธอพูดขึ้น แววตาหม่นลงไป
"โธ่... ยายหนูครีม ทีแรกเนี่ย ปู่คิดว่าหนูครีมจะคิดถึงปู่จริง ๆ เสียอีก ที่แท้ไปนึกถึงคนอื่นเสียนี่ เฮ้อ... คนแก่ชักน้อยใจซะแล้ว" ปู่สัพยอก
"แหม...คุณปู่ค่ะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย แค่คิดว่าถ้าอาโหน่งมาจริง ๆ ครีมจะชวนไปขี่ม้าเล่นด้วยกันนะสิคะ เฮ้อ..." เด็กสาวทำหน้าเซ็งสุด ๆ
"อีกหน่อยขี้คร้านจะได้เห็นหน้าอาโหน่งกันบ่อย ๆ คงเจอกันทุกวันแล้วละ แต่จะพาอาโหน่งเขาไปซนกับเราเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ" ตาเกชาพูดด้วยสีหน้าระรื่น
ครีมนั่งทำตาโตด้วยความสงสัย
"ยังไงคะ ทำไมต้องได้เจอกับคุณอาทุกวัน"
เธอมักเก็บอาการของความอยากรู้ไว้ไม่ได้จริง ๆ สงสัยในคำพูดของคุณตาจริง ๆ ยังไม่ทันที่จะมีใครตอบ ทุกคนก็หันไปมองหญิงสาวอีกคนที่กำลังเดินนวยนาดเข้ามาในห้อง ภาวินี พี่สาวคนเดียวของภาวนาได้เดินเข้ามา ท่าทางเหนื่อยหอบ เพราะเดินมาจากห้องทำงานส่วนกลางของไร่เจ้าขา
"มาแล้วค่ะ" ป้าแวว บอกกับทุกคนด้วยสีหน้าและแววตาดีใจ
ภาวินียกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกท่านก่อนจะนั่งลงด้วยสีหน้าเรียบเฉยกว่าปกติ จ้องมองคุณป้าที คุณตาที ก่อนจะจบลงสบสายตากับน้องสาว แต่ก็เลยไปมองใบหน้าของปู่พนัส
"ว่ายังไงหนูเค้ก" ปู่พนัสเรียกทันทีแบบเสียเวลา เพราะรอการมาของภาวินีอยู่แล้ว
เค้กเริ่มอึกอักพูดไม่ออก หันไปมองคุณตาเหมือนจะขอตัวช่วย
หนูครีมนั่งนิ่งเพราะอยากรู้ว่าที่ทุกคนมานั่งรวมกันอยู่ตรงนี้มีเรื่องอะไรกันแน่
คุณตาเกชารีบตบที่เบาะนั่งของท่านเบา กวักมือ ส่งเสียงเรียกให้ภาวินีเข้าไปนั่งใกล้ ๆ
"เค้ก ปู่พนัสเป็นเพื่อนรักกับตานะ ตากับปู่พนัสเราสองคนรักกันมาก และทุกอย่างตาคิดดีแล้วว่ามันจะต้องดีกับทุก ๆ คน หากเค้กได้แต่งงานกับโหน่ง ตาก็จะโล่งใจ หมดห่วงเค้กไปได้สักคน อีกอย่างมันต้องดีกับตัวเค้กเอง ตาเชื่อมั่นว่าโหน่งจะดูแลเค้กแทนตาได้"
หนูครีมถึงกับหน้าถอดสี เธอใจเต้นตึก ๆ กับเรื่องที่กำลังได้ยินได้ฟัง นั่งจ้องใบหน้าของพี่สาวแบบลุ้น ๆ
ภาวินีก็มีท่าทีต่างไป เธอมีใบหน้าซีดเผือด กลืนน้ำลายลงคอแบบฝืด ๆ อย่างเห็นได้ชัด
'ตาจะให้พี่เค้กแต่งงานกับอาโหน่ง เฮ้ย...มันคืออะไร"
หนูครีมคิดอยู่ในใจ เด็กสาวจ้องหน้าของพี่สาวเขม็งตาไม่กะพริบ อยากได้ยินด้วยหูของตัวเองว่า พี่เค้กจะตอบโอเคหรือไม่
"นี่ยายหนูครีมออกไปก่อนได้ไหม เร็ว ๆ ด้วย เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเด็ก"
ป้าแววออกปากไล่ พร้อมกับกระตุกชายเสื้อของเด็กสาวเบา ๆ เธอหันไปมองป้าด้วยใบหน้าที่ยังคงตกตะลึง คุณป้าชี้นิ้วไปที่เธออีกครั้ง ครีมขยับแขนยกนิ้วชี้ไปที่หน้าอกของตัวเอง
"เอ่อสิ...ใช่ ออกไปก่อน" ป้าไล่ พลางทำปากขมุบขมิบ ส่งสายตาดุ ๆ มาให้ด้วย
‘แต่หนูอยากนั่งฟังอยู่ด้วยนี่น่า’ เธอเถียงป้าอยู่ในใจ ภาวนาทำหน้าแบบเซ็ง ๆ ในใจไม่อยากออกไปเลยสักนิด แต่ขัดใจคุณป้าของเธอไม่ได้ หนูครีมหมุนตัวคลานถอยออกไปอย่างเชื่องช้า พอพ้นประตูก็หลบอยู่ตรงหลังประตูนั้นเพื่อแอบฟัง หูเนี่ยกางผึ่งด้วยความที่อยากรู้เต็มที่