"ไม่เลยคาเมล ข้ามิได้ต้องการอะไร นอกจาก..ความรักจากท่านพ่อเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของคามิล มันควรจะเป็นลูกสาวที่แท้จริงของท่านพ่อสิ ถึงจะถูกต้อง"
คาเมลยกแก้วน้ำขึ้นมาเพื่อป้อนเอลิซ่า เธอทานอาหารที่คาเมลเตรียมมาจนหมด ไม่รู้ว่าหิวหรือเพราะว่าอะไรกันแน่ อาหารในมื้อนี้มันถึงได้อร่อยมากทีเดียว
เขาอุ้มเธอมายังห้องอาบน้ำ ที่นี่คือคฤหาสน์อาเชน่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเก่าแก่ อ่างอาบน้ำในห้องนี้มันคืออ่างที่ทำจากไม้ เอลิซ่าหลับตาลงเมื่อคาเมลเริ่มถอดชุดนอนของเธอออกมา
คาเมลอุ้มเธอไปไว้ในอ่างน้ำอุ่นอย่างเบามือ เขาหยิบผ้าขึ้นมาถูตามแขนและแผ่นหลังที่ขาวเนียน ก่อนจะเปลี่ยนผ้าผืนใหม่มาเช็ดบนดวงหน้าที่งดงาม
นี่คือการอาบน้ำที่เรียกได้ว่ามัน..คล่องแคล่วมากทีเดียว จนเธอไม่อยากจะเชื่อว่าคาเมลเป็นคนทำ เขามีเรื่องให้เธอประหลาดใจอยู่เรื่อยเลยจริงๆ
"เกวนสอนข้าครับ ทั้งการอาบน้ำและการทำอาหาร รวมไปถึง..การปรนนิบัติยามค่ำคืน ถ้าหากว่าท่านเอลิซ่าต้องการ"
เธอลืมตาขึ้นมามองหน้าคาเมลด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย เอลิซ่าหัวเราะออกมา วันนี้เขาทำให้เธอลืมเลือนเรื่องราวความเศร้าหมองก่อนหน้าไปหมดสิ้นเลย..
คาเมลปลอบใจเธอด้วยความใสซื่อของเขา ราวกับว่าเขานั้นยินยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เธอนั้นอารมณ์ดีขึ้นมา
เขาบรรจงใช้ผ้าเช็ดที่ใบหน้าอันแสนงดงามของเอลิซ่า ดวงตาของเขามองไปที่เธออย่างหลงใหล
"ท่านยิ้มแล้วงดงามมากเลยนะครับ คงจะดีหากว่าท่านเอลิซ่ายิ้มเช่นนี้ทุกวัน"
เธอจับกระดุมเสื้อตรงปกเสื้อของเขาเล่น เพราะว่ามันแวววาวและเป็นสีเดียวกันกับดวงตาของเธอ สีฟ้าน้ำทะเล
"ความสุขมันจะอยู่กับเราไม่นานหรอกคาเมล..แต่ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะยิ้มให้เจ้าดูทุกวันก็แล้วกัน"
"ขอบคุณครับ"
ว่าแต่เมื่อครู่คาเมลเรียกเลเซนว่าเอิร์ลลามอนซ์อย่างนั้นหรือ ความจริงเขาน่าจะยังอยู่ที่ชายแดนทางเหนืออยู่
แล้วทำไมเขาถึงได้เข้ารับตำแหน่งแทนท่านอาลีอองไวขนาดนั้น..
หรือว่ามันเป็นเพราะเธออย่างนั้นเหรอ ช่วงเวลาที่เธอเอาแต่ร้องไห้ มีคนมากมายเลยสินะที่พยายามแข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องเธอ
คาเมลเองก็เช่นกัน เขาละทิ้ง..ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อที่จะมาอยู่กับเธอ ยศเซอร์ไม่ได้มากันง่ายๆเพราะต้องสอบและเข้าฝึกแรมปีกว่าจะได้รับยศขุนนางนี้มา
เขาทิ้งมันราวกับว่า..เขาไม่สนใจช่วงเวลาที่เจ็บปวดจากการฝึกฝนเลย
"...ข้าในตอนนี้เป็นแค่สามัญชนที่ยังไม่มีแม้แต่งานทำ อีกอย่างข้าจนมากด้วย ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าได้ยังไง?"
คาเมลยกยิ้ม เขาใช้ขันไม้ตักน้ำขึ้นมาเพื่อสระผมให้เอลิซ่า
"เรื่องนั้นมิต้องเป็นห่วงครับ เพราะคาดินันอาเชน่าให้ข้าอยู่ที่นี่ ในฐานะองครักษ์ของภริยาท่าน..."
เอลิซ่าหัวเราะเสียงใส พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง เธอเอนหลังลงไปซบลงบนไหล่ของคาเมล
"ขอเวลาข้าอีกหน่อยเถิดคาเมล เพราะข้าจะทำตัวเองให้คู่ควรกับการเป็นองครักษ์ของเจ้า และคู่ควรกับ..การเป็นภริยาของท่านอีวาน"
ตื่นจากฝันร้ายได้แล้วเอลิซ่า ชีวิตจะต้องเดินต่อและ..เธอจะต้องลืมเรื่องราวความเจ็บปวดในอดีตโดยไว เพื่อกลับมาเป็นเอลิซ่าคนเดิม
ที่พร้อมจะฉุดรั้ง..ต้นตอของเรื่องนี้มาลงนรก
อาจจะต้องเริ่มจากการไปเยี่ยมเยียนท่านพี่เจเนซิสที่คฤหาสน์โคเรย์เสียหน่อย เพราะถ้าโชคดีเธอคงจะได้พูดคุยกับท่านพี่ชาร์ล ดยุคแห่งโคเรย์ด้วย
........
"แค่ทำตัวเองไม่ให้เป็นที่สะดุดตาเจ้ายังทำไม่ได้ บางทีข้าก็คิดนะว่าเจ้าควรจะตายจริงๆไปซะเราจะได้ไม่ต้องมาลำบากขนาดนี้!"
อาเรียฟาดฝ่ามือลงไปที่ใบหน้าอันแสนหล่อเหลาและทรงเสน่ห์ของโจชัวร์อย่างแรง แล้วที่เธอต้องเป็นเช่นนี้ มันเป็นเพราะใครกันล่ะ
"เจ้า! เคยบอกว่ารักข้า เคยบอกว่าถ้าหากข้าตัดสินใจละทิ้งทุกสิ่งอย่างแล้วมาอยู่กับเจ้า เจ้าจะพาข้าออกไปจากที่นี่!"
โจชัวร์เช็ดเลือดที่ไหลซึมออกมาจากมุมปาก
"ใช่อาเรีย เคยรัก ข้าเคยคิดว่าเจ้าคือสตรีที่มีรูปโฉมงดงามและเฉลียวฉลาด แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะโง่ถึงเพียงนี้...เจ้าควรจะออกจากที่นี่แล้วกลับไปที่วาเลรีซะ กลับไปอยู่บ้านเจ้า เผื่อความรู้สึกระหว่างเรามันจะชัดเจนมากกว่านี้"
โง่งม..
เธอคือสตรีที่โง่งมเพราะความรัก ยินยอมละทิ้งทุกอย่างเพราะหลงเชื่อคำลวงของเขา ชายเบื้องหน้ายินยอมที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำลายบาร์ตันตามคำสั่งของเขา
โจชัวร์คิดว่าบาร์ตันจะต้องเดือดร้อนแน่นอน หากว่าเขามิได้อำนาจจากตระกูลวาเลรีในการนั่งตำแหน่งองค์จักรพรรดิ แต่ทว่าไม่เลย
เพราะว่าบาร์ตันฉลาดมากกว่านั้นมาก ในเมื่อแผนการแรกไม่สำเร็จ แผนการต่อมาก็คือเธอจะต้องแกล้งตายแล้วโยนความผิดให้บาร์ตัน เพราะหากว่าเธอตายก่อนที่จะได้เป็นพระชายา ทุกคนจะต้องสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างเธอและบาร์ตันอย่างแน่นอน
เรื่องราวมันควรจะเป็นเช่นนั้นแต่ทว่ากลับมีข่าวลือออกมา มันคือข่าวลือที่เดือดร้อนไปถึงตระกูลวาเลรี เป็นตระกูลต้องคำสาป เดือดร้อนไปถึงท่านแม่และน้องสาวของเธอ จนป่านนี้ไอน่าก็ยังมิได้แต่งงานเพราะข่าวลือที่แพร่ออกมา
ความเป็นอยู่ของเธอที่แลนด์เดอร์ มันสบายก็จริงเพราะว่าโจชัวร์พาเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะนายหญิงภริยาของเขา เรามีดินแดนที่จะต้องดูแลและปกครอง พ่อแม่ของโจชัวร์ตายไปหมดแล้ว คนที่เลี้ยงดูเขามาก็คือดยุคโคเรย์พ่อของชาร์ล
เธอจึงสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างมีความสุข เพราะไม่มีใครมายุ่งเกี่ยว แต่ทว่า..โจชัวร์เขายังคงพาสตรีมาที่นี่
พาสตรีเข้ามาไม่ซ้ำหน้าโดยไม่สนใจในความรักหรือว่าความเสียสละของเธอเลย ราวกับว่าเธออยู่ที่นี่เพื่อดูแลแลนด์เดอร์ให้เขา ส่วนเขาก็เอาเวลาไปมีความสุขกับสตรีพวกนั้น
เธอเป็นเพียงตุ๊กตาที่ทำอะไรไม่ได้ จะต้องนั่งรออย่างนิ่งเฉย ในวันที่เขาไม่มีใคร เขาถึงจะเดินทางกลับมาหาเธอ..
หากเป็นแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับบาร์ตันเลย.. บางทีหากว่าเธอแต่งงานกับบาร์ตันมันอาจจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำเพราะว่าเธอจะได้เป็นองค์จักรพรรดินี
คนโง่งมผู้นั้นมันคือตัวของเธอเอง โง่งมโดยแท้จริง
ปลายปีที่แล้วในฤดูร้อน โจชัวร์เมามาก วันนั้นเขาเดินทางกลับมาที่คฤหาสน์เพียงคนเดียว ด้วยความเป็นห่วงอาเรียจึงเข้าไปดูแลเขา เธอจัดการเตรียมผ้าเพื่อเช็ดตัวให้เขา
และในวินาทีที่เธอถอดเสื้อผ้าเขาออก..
"ทำไมกันนะ ทำไมข้าถึงไม่เคยชนะเจ้านั่นเลย!"
อาเรียเม้มปากแน่น เธอรู้ดีว่าโจชัวร์นั้นหมายถึงใคร เขาหมายถึงบาร์ตันอย่างแน่นอน ทั้งที่เมื่อก่อนทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนกันแท้ๆแล้วทำไม..ถึงได้เกลียดชังกันขนาดนี้
"..ข้าไม่มีทางยอมแพ้เรื่องเอลิหรอกนะ ไม่ว่ายังไงข้าก็จะต้องได้ครอบครองนางก่อนบาร์ตันอยู่แล้ว! เข้าใจรึเปล่าชาร์ล! มีแค่เรื่องนี้เท่านันที่ข้าไม่ยอ...."