หลังจากที่หมออนุญาตให้พาแม่กลับมาพักฟืนที่บ้านได้แล้ว ดารินก็กลับมาทำงานปกติ ส่วนค่ารักษาพยาบาลของแม่ที่สูงลิ่วนั้นชลทิศเป็นคนจัดการเคลียร์ให้ทั้งหมด เธอจึงต้องยอมทำสัญญาตกลงเป็นแฟนเช่าของเขาอย่างจริงจังโดยที่มิอาจหลีกเหลี่ยงได้
‘ผมไม่สนว่าที่ผ่านมาคุณคบกับใคร แต่ระหว่างที่ผมจ้างคุณเป็นแฟน คุณจะคบใครหน้าไหนไม่ได้ทั้งนั้น’
นั่งเป็นคำสั่งที่ชลทิศย้ำเธอก่อนที่จะจรดปากกาเซ็นยินยอมเป็นแฟนเช่าของเขาต่อ แต่เธอเองก็มีข้อแม้ว่าห้ามใครในบริษัทรู้เรื่องระหว่างเขาและเธอนอกจากเลขาคนสนิทของเขาเท่านั้น ซึ่งดารินเชื่อใจว่าทิวาจะไม่ปริปากบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด
แม้ทีแรกชลทิศจะไม่ให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็ยอมเพราะเกรงว่าเธอจะอึดอัดเวลาอยู่ในที่ทำงาน
ตอนนี้ชลทิศรู้เหตุผลที่เธอทำงานพิเศษเป็นแฟนเช่าแล้ว ถึงเขาจะไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินแต่ก็พอจะเข้าใจสถานการณ์ของผู้หญิงตัวเล็กๆที่กำลังเผชิญดี คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายไว้ทั้งหมดเพียงคนเดียวในร่างที่ดูเบาะบางนี้แม้จะไม่แสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นก็ตามที จากที่เคยมีอคติกับเธอความรู้สึกของเขาก็แปรเปลี่ยนเป็นเห็นใจขึ้นมาแทน
แต่กระนั้นเขาก็มิอาจใกล้ชิดเธอเวลาอยู่ในที่ทำงานได้ ทำได้เพียง
คอยดูเธออยู่ห่างๆ และส่งข้อความหาเวลาที่ต้องการแกล้งขณะเดินผ่าน หรือแม้แต่ตอนที่เธอกำลังเผชิญสถานการณ์ตึงเครียดอยู่ก็ตาม
ชลทิศชอบแกล้งหรือยั่วโมโหหญิงสาวอยู่บ่อยๆ เขารู้สึกสนุกและมีความสุขเวลาเห็นเธอยิ้มได้หรือส่งสีหน้าดุใส่เขา และยิ่งรู้สึกท้าท้ายเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นซึ่งดารินไม่สามารถทำอะไรเขาได้
ตรงกันข้ามดารินไม่ได้รู้สึกสนุกด้วยเลย เพราะเธอกำลังรู้สึกเหมือนถูกเด็กปั่นหัวทุกวันจนแทบอยากจะปรี๊ดแตก
วันนี้ก็เช่นกัน ชลทิศส่งข้อความยั่วโมโหเธอตั้งแต่เช้า ข้อความเป็นเชิงดูถูกเสน่ห์ของเธออย่างรุนแรงซึ่งเรื่องนี้เธอยอมไม่ได้จริงๆ หากปล่อยเลยผ่านจะเป็นการตอกย้ำว่าเธอเป็นอย่างที่เขาว่าจริง
‘ยายป้าไม่มีน้ำยา’
‘จะมากไปแล้วนะ เด็กบ้า!’
ดารินก้าวออกจากลิฟต์ด้วยความมุ่งมั่น คราวนี้เธอจะสั่งสอนให้เด็กอย่างเขารู้จักคนอย่างเธอ หัวใจที่แกร่งกล้าเกินร้อยจากอารมณ์โมโห ทำให้เธอกล้าที่จะเอาตัวเองมาที่จุดนี้ และทันทีที่ถึงหน้าห้อง หญิงสาวไม่รอช้าที่จะทำการเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ขออนุญาต และเมื่อก้าวเข้ามาในห้องทำงานใหญ่ ก็พบว่าชายหนุ่มที่กำลังเตรียมตัวออกจากห้องพอดี
ชลทิศขมวดคิ้วเมื่อเห็นหญิงสาวก้าวเข้ามาในห้อง ชายหนุ่มแปลกใจไม่คิดว่าเธอจะมาหาเขาในห้องทำงาน ร่างสูงก้าวมาหาเธอที่ยืนหน้าตึงอยู่หน้าประตู กำลังจะถามว่าเธอมาทำอะไร แต่กลับถูกจู่โจมเสียก่อน
“อุ๊บ”
ดารินไม่ปล่อยให้เขาได้พูดอะไร เธอรีบเขย่งเท้าพร้อมเอาแขนคล้องคอเขาไว้แน่นออกแรงดึงให้เขาโน้มใบหน้าลงมาประกบปากกับเธออย่างจัง และแน่นอนการที่เขาไม่ทันตั้งตัวก็ทำให้แผนการเธอประสบความสำเร็จได้อย่างง่ายดาย
ดารินหลับตาปรี่จูบเขาอย่างงึกงักตามที่ได้อ่านและศึกษามาจากอินเตอร์เน็ตมาเป็นอย่างดี หญิงสาวถอนริมฝีปากออกโดยที่คนถูกจู่โจมยังยืนอึ้งอยู่ด้วยความมึนงง
“เป็นไง ทีนี้จะเรียกฉันว่าป้าไม่มีน้ำยาอยู่อีกหรือเปล่าล่ะ?”
เธอยิ้ม เมื่อรู้สึกมีชัยเหนือเขา แต่เพียงไม่นานก็ต้องรีบหุบยิ้มทันทีเมื่อรู้สึกว่าไม่ได้มีแค่เขาและเธออยู่ในห้องนี้เพียงลำพัง
“บอสครับ พร้อมหรือยัง…”
ทิวาเลขาหนุ่มเดินออกมาจากมุมห้องอีกมุมถาม แต่ก่อนที่จะรู้ตัวว่าเข้ามาผิดจังหวะก็เอามือปิดปากไม่ทันเสียแล้ว
ดารินรีบคลายแขนที่โอบรอบคอเขา ก่อนจะกระเถิบห่างออกจากร่างสูงที่เธอเพิ่งจะแนบชิดเมื่อกี้ราวกับเขาเป็นของร้อนที่ไม่สามารถอยู่ใกล้ได้อย่างรวดเร็ว
“คุณทิวาอยู่ที่นี่ด้วยหรือคะ?”
“ครับ …แต่ผมไม่รู้ไม่เห็นอะไรนะครับ เมื่อกี้ผมเตรียมเอกสารอยู่ สาบานได้ครับ”
รีบยกมือขึ้นทำท่าสาบาน แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ดารินอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีเมื่อรู้ว่าตัวเองทำอะไรน่าอายลงไป ใบหน้าขาวเนียนตอนนี้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำทันที ร่างบางรีบหมุนตัวคว้าลูกบิดประตู แต่ถูกรั้งแขนไว้เสียก่อน
“จะรีบไปไหน?”
“ฉันจะกลับ”
ตอบโดยไม่หันมามอง ดารินอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายเสียตอนนี้เลย รู้สึกอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ดึงมือกลับรีบวิ่งออกจากห้องพร้อมปิดประตูดังโคล่ม ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามพรางระบายยิ้มอ่อน เอ็นดูท่าทางเขินอายของเธอ
“บอสยังจะไปคุยงานอยู่ไหมครับ?”
“ทำไมถามแบบนั้น?”
“ก็เพราะสายตาบอสตอนนี้ มันฟ้องว่าอยากอยู่บริษัทมากกว่าออกไปข้างนอกนะสิครับ”
“รู้ใจจริงนะ”
“แน่นอนสิครับ”
“อยากเปลี่ยนตำแหน่งเหรอ?”
“ตำแหน่งอะไรครับ?”
“ก็รปพ.ไง เห็นช่างสังเกตดีนี่ เผื่อมีโจรจะได้จับได้”
“อย่าดีกว่าครับบอส ผมเป็นเลขาบอสดีแล้วครับ”
ทิวาเอ่ยก่อนจะเลี่ยงเดินไปหอบเอกสารที่เตรียมไว้ แล้วเดินนำออกจากห้องอย่างเงียบๆ
…………………………….
ตลอดทั้งวันดารินไม่มีกระจิตกระจายทำงาน ใครจะไปคิดว่าเธอจะทำเรื่องน่าอาบอายแบบนั้นลงไปได้ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุจะปาเข้าไปเลขสามเธอยังไม่เคยจูบกับใคร ซ้ำยังมีคนอื่นเห็นอีก แล้วถ้าเจอหน้ากันอีกครั้งเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน
“พี่ดาไหวหรือเปล่าคะ?”
เพื่อนร่วมงานรุ่นน้องเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าหญิงสาวเผลอใจลอยอยู่บ่อยๆ ซ้ำยังให้ข้อมูลกับลูกค้าผิดๆถูกๆ
“ไหวสิ ไหว?”
“แต่หนูว่าพี่ไปพักก่อนไหมคะ เดี๋ยวทางนี้หนูดูให้”
“ขอบใจมากนะ เดี๋ยวพี่มา”
ดารินเดินมาหาที่สงบสติอารมณ์ เธอต้องการทำสมาธิเพื่อจะได้
กลับไปทำงานต่ออย่างมีประสิทธิภาพ เธอจะต้องสะลัดสิ่งที่มารบกวนจิตใจเธอออกให้หมด เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำงานขึ้นมาอีก
“ว้าย!”หญิงสาวตกใจเมื่อจู่ๆเธอถูกดึงเข้ามาอยู่ในซอกตึก“คุณ”
เมื่อเธอเห็นว่าเป็นฝีมือใครก็ตาโต จ้องเขานิ่ง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อแนบชิดร่างใหญ่
“เมื่อเช้าที่คุณทำ เขาไม่เรียกว่าจูบ เดี๋ยวผมจะสอนให้เองว่าจูบจริงๆเขาทำกันยังไง”