@คฤหาสน์คาร์ลอส
ร่างเล็กของเด็กสาวที่พึ่งกลับมาจากมหาวิทยาลัยสาวเท้าเดินตรงไปที่ยังห้องพักของตัวเอง เณอเบลล์รีบเก็บของแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาช่วยในครัวอย่างเฉกเช่นที่เธอเคยทำประจำ
“อ้าว น้องเบลล์มาพอดีเลย” พัดชาเอ่ยทักเด็กสาว เมื่อเห็นว่าเด็กสาวเดินเข้ามาในครัวที่ตอนนี้เธอกำลังจัดเตรียมของเพื่อที่จะทำของหวานและเธอก็ต้องการลูกมือ ถึงคนรับใช้ในคฤหาสน์จะมีมากมายพัดชาก็เรียกที่จะทำเอง
เด็กสาวหันไปมองสาวใช้ที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยความงุนงงแต่ก็ไม่ได้ถามอะไร แล้วเดินเข้าไปยืนข้างๆร่างสูงของพัดชาพร้อมกับเอ่ยถามเสียงใส
“คะ พี่พัดชามีอะไรให้หนูเบลล์ช่วยหรือคะ”
“พี่ว่าจะทำบัวลอยไข่หวานนะจ๊ะ น้องเบลล์ช่วยพี่ได้ไหม?” อยู่ๆเธอก็อยากทานของหวานซึ่งบัวลอยไข่หวานเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทานมาก่อน แต่อยู่ๆก็นึกอยากทานขึ้นมา นี่สินะที่เขาบอกว่าคนท้องมักจะอยากทานอะไรแปลกๆและของที่ตัวเองไม่ชอบและไม่เคยทาน และเธอก็ได้หาข้อมูลและวิธีทำบัวลอยไข่หวานจากอินเตอร์เน็ตมาแล้วเรียบร้อย จากที่เธอได้ศึกษาอ่านข้อมูลวิธีการทำบัวลอยไข่หวานมันก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย และเธอคิดว่าเธอน่าจะทำมันได้
“ได้ค่ะ หนูเบลล์เคยช่วยพี่ยิหวาทำบ่อยๆ” พูดแล้วก็อดคิดถึงใบหน้าสวยหวานของพี่เลี้ยงสาวสุดสวยของเธอไม่ได้ หลายสัปดาห์แล้วนะที่เธอไม่ได้เจอกับพี่ยิหวาเลยตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่
“งั้นดีเลยจ๊ะ ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มกันเลยนะ” เสียงพูดแสนไพเราะของพัดชาทำให้เด็กสาวหลุดออกมาจากภวังค์ความคิดของตัวเอง เฌอเบลล์ให้ไปส่งยิ้มหวานให้กับพัดชาพร้อมกับตอนรับคำ
“ค่ะ”
จากนั้นทั้งคู่ก็ช่วยกับทำ โดยมีสายตาหลายคู่จากเหล่าบรรดาสาวใช้ที่ยืนชะเง้อคอมองอยู่ตรงหน้าประตู เพราะถูกพัดชาสั่งเอาไว้ว่าไม่ให้เข้ามาช่วย ผ่านไปประมาณเกือบ 30 นาที ที่เณอเบลล์กับพัดชาช่วยกันทำบัวลอยไข่หวานจนเสร็จเรียบร้อย บัวลอยไข่หวานหลากหลายสีสันต์ถูกตักออกมาใส่ถ้วยขนาดกลางความหอมละมุนลอยฟุ้งทั่วบริเวณ ชวนให้คนที่ได้กลิ่นอยากที่จะลิ่มลองทาน
“เสร็จแล้ว หืมมม หอมน่าทานมากเลย” พัดชายกถ้วยบัวลอยไข่หวานขึ้นมาพร้อมสูดดมกลิ่นหอมละมุนที่ลอยออกมาจากถ้วยเข้าไปเต็มปอด
“อืม หนูเบลล์จ้ะ พี่วานให้หนูยกไปให้คุณคาร์ลอสที่ห้องทำงานหน่อยนะ รู้อะไรไหมบัวลอยไข่หวานนี้ของโปรดเขาเลยนะ พี่ฝากด้วยนะจ้ะ” พัดชาบอกยิ้มๆ พร้อมจัดถ้วยบัวลอยไข่หวานลงบนถาดแล้วยื่นให้กับเณอเบลล์ เด็กสาวส่งยิ้มแห้งๆก่อนจะรับถาดมาถือไว้ ถึงแม้จะไม่เต็มใจที่จะไป แต่เมื่อถูกผู้ใหญ่ไหววานให้ไปแล้วเด็กอย่างเธอก็ปฏิเสธไม่ได้
เฮ้ออ!
เณอเบลล์ยืนถอดหายใจอยู่บริเวณหน้าห้องทำงานของคาร์ลอส ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว เธอยังไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปเคาะที่ประตูเลย
ทำไมนะทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอเฝ้ารอที่จะได้พบเจอกับเขามาโดยตอลอดแล้วไหนวันนี้เธอก็มีโอกาสได้เข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว แถมตอนนี้ก็ยังกำลังยืนอยู่ที่หน้าห้องทำงานเขาอีกต่างหาก ทำไมเธอถึงไม่นึกจะดีใจเลยที่ต้องเจอเขาตรงกันข้ามเธอกลับกลัวมากกว่าที่จะต้องเผชิญหน้ากับเขา...มันเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของเธอนะ เธอไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ
เฮ้ออ สู้ๆ เฌอเบลล์ เขาคงไม่ไล่ตะเพิดเราออกมาหรอก
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
“...ใคร?” เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากด้านในทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงผิดปกติ มันทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน
“ฉันถามว่าใคร ถ้าไม่มีอะไรก็ใสหัวไป” เสียงทรงอำนาจของคนที่อยู่ด้านในเอื้อนเอ่ยออกมาอีกครั้งอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อไม่ได้รับคำตอบ แถมยังมาขัดการทำงานของเขาอีกมันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด
"นุ หนูเบลล์เองค่ะ"
"...ไสหัวไป!!" เขาเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยถ้อยคำที่บาดใจคนฟังออกมา เด็กสาวถึงก็สะอึกในลำคอ ร่างเล็กชาวาบไปทั้งตัว ขอบตาสวยร้อนแผ่ว ไม่คิดว่าประโยคเพียงไม่อีกประโยคที่คนด้านในเอื้อมเอ่ยออกมามันจะทำให้หัวใจดวงน้อยของเธอบีบรัดตัวจนเจ็บขนาดนี้
"ตะ แต่ พี่ เอ่อ คุณพัดชาให้หนูเอาบัวลอยไข่หวานที่เธอทำมาให้ พี่ เอ่อ คุณคาร์ลอสลอง..." ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบประโยค เสียงทรงอำนาจของคนด้านในก็เอ่ยขัดขึ้นก่อน
"เอาเข้ามา" คงเป็นเพราะเธออ้างชื่อของพี่พัดชา เขาถึงยอมให้เธอเข้าไปง่ายๆทั้งที่ยังพูดไปจบประโยค เด็กสาวได้แต่เก็บซ่อนความน้อยใจไว้ข้างใน
เด็กสาวค่อยๆเอื้อมมือเปิดประตูเข้าไปช้าๆ ดวงตากลมจับจ้องร่างสูงสง่าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานด้วยความรู้สึกหลากหลาย
ร่างสูงที่กำลังก้มหน้าก้มตาตรวจเช็กเอกสารในมือเมื่อรู้สึกเหมือนว่ามีคนจ้องมองใบหน้าหล่อผละหน้าเงยขึ้นจากเอกสาร ดวงตาคมดุจดั่งพยาเหยี่ยวจับจ้องมองไปยังร่างเล็กของเด็กสาวที่ยืนถือถาดของหวานอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
"จะยืนเซ่ออยู่ทำไม รีบเอามาวางไว้แล้วก็รีบไสหัวออกไปจากห้องทำงานฉัน" ถ้อยคำเจ็บแสบถูกพ้นออกมาจากริมฝีปากหนาอีกครั้ง ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อสะกดกั้นความรู้สึกที่เจ็บอยู่ในอก แล้วทำตามคำสั่งประกาศิตของเขา
"คะ ค่ะ" ร่างเล็กของเณอเบลล์ก็รีบเดินเอาถ้วยบัวลอยไข่หวานไปวางไว้ตรงพื้นที่ว่างบนโต๊ะทำงานของคาร์ลอส แล้วรีบเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาทันที เพราะไม่อยากได้ยินคำพูดร้ายๆที่เขาเอ่ยด่าหรือต่อว่าเธออีก
...................................................
"น้องเบลล์จ๊ะ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ ค่ำค่ำ มืดมืด แล้วนี้เป็นอะไร หืม?" พัดชาที่เดินออกมาสูดอากาศที่หน้าบ้านกลับเจอสาวน้อยนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ที่ม้านั่งตรงสวนหย่อมข้างๆคฤหาสน์
"ปะ เปล่าค่ะ" ร่างเล็กสะดุ้งตกใจเล็กน้อยก่อนจะรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลออกลวกๆ แล้วหันกลับไปยิ้มแห้งๆให้กับพี่สาวใจดี
"เป็นเด็กเป็นเล็กหัดโกหกไม่ดีนะ ไหนเป็นอะไรบอกพี่มาสิ" พัดชาเดินเข้ามาหย่อน สะโพกมนลงนั่งข้างๆ ร่างเล็กของเด็กสาวที่เธอรักเอ็นดูเปรียนเสมือนน้องสาวแท้ๆ
"ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ" เด็กสาวฝืนยิ้มส่งให้กับพัดชา แล้วปฎิเสธออกไปทั้งที่ในใจอึดอัดและอยากระบายออกมาให้ใครฟังเหลือเกิน แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะระบายมันออกมาให้คนตรงหน้าฟัง
"จ๊ะ ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็บอกพี่ได้นะ พี่พร้อมรับฟังเราเสมอ ถือเสียว่าพี่เป็นเหมือนพี่สาวของเราคนหนึ่งก็แล้วกัน" ในเมื่อเด็กสาวบอกว่าไม่มีอะไรเธอก็ไม่เซ้าซี้ต่อให้รำคาญ มือเรียวพลางลูบศีรษะทุยเล็กของเด็กสาวอย่างปลอบประโลม
"ขอบคุณนะคะ ที่เห็นหนูเป็นน้อง" นํ้าใสๆ ที่พึ่งแห้งหายไปก็กลับมาไหลเอ่ออีกครั้ง เธอแค่อยากได้ความรักความอบอุ่นจากคนที่เธอเรียกเขาว่าพี่ชาย แต่สิ่งที่เธอคิดที่เธอหวังมันคงเป็นได้แค่ความฝัน เพราะความเป็นจริงแล้วสิ่งที่เธอได้รับจากเขาคนนั้น มันมีแต่ความเกลียดที่ถ่ายทอดมาจากสายตา ความเฉยชาและรังเกียจจากท่าทางที่เขาแสดงออกมา ยิ่งคิดนํ้าตามันก็ยิ่งไหลไม่หยุด