นิลอรขนลุกเกรียวเพราะคำขู่ดูจริงจังเสียเหลือเกิน เธอตีหน้ามุ่ยใส่เขาก่อนจะกอดรัดแขนแกร่งไว้หลวมๆ แล้วยืดกายขึ้นหอมแก้มสากของสามี
“หายโกรธยังคะ ไม่เอาน่าอย่างอนสิ...ขอโทษน้า”
นิลอรเสียงอ่อนเสียงหวานอ้อนสามี และมันก็ทำให้นัยน์ตาที่กลายเป็นสีครามเข้มอ่อนแสงลงในบัดดล โจนาธานรั้งเอวบางเข้ามาหาก่อนจะประทับจุมพิตตีตราบนริมฝีปากอวบอิ่ม ตั้งใจให้ชาร์ลส์มองเห็นทางกระจกมองหลัง และมันก็สำเร็จ
ชาร์ลส์รีบเบนสายตาไปมองถนนเบื้องหน้า เมื่อเจ้านายที่บูชาบรรจงจูบอ้อยอิ่งภรรยาสาว เขาสตาร์ตเครื่องแล้วเริ่มหมุนพวงมาลัย
ลมหายใจของบุรุษหนุ่มติดขัดเมื่อกำลังจินตนาการว่าเป็นตัวเองที่กำลังจูบนิลอรอยู่ มันคงอ่อนหวานและนุ่มละมุน เขายอมตายเลยก็ได้ถ้าห้วงคำนึงของเขามันจะกลายเป็นจริงสักเสี้ยววินาที
“โอ๊ย! ม่ายหวายแล้วนะ เจ้กับแฟนเจ้จุ๊บๆ กันไม่อายลูกเลยอ่า”
เจคน้อยปีนข้ามฝั่งมานั่งเบาะหน้าคู่กับชาร์ลส์ พ่อหนูบ่นยืดยาวถึงการกระทำอันน่าละอายของบิดามารดา ส่วนเจสสิก้าได้แต่เอามือปิดตาทว่าแอบดูแด็ดดีกับมามี้แสดงความรักต่อกันด้วยการประทับริมฝีปาก แม่หนูเจสสิก้ามุ่งมั่นอยู่ในใจว่าวันหนึ่งข้างหน้า เธอจะต้องจุมพิตแสดงความรักต่อใครสักคนดังเช่นบิดามารดาของเธอให้ได้
“เอาละที่รัก เราน่าจะพอกันดีกว่า ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
โจนาธานยั่วเย้าแม่ของลูกที่หลับตาพริ้มอย่างตกอยู่ในภวังค์แห่งความรัญจวน เขาจุมพิตแก้มบางอีกหนึ่งทีก่อนจะเรียกสาวน้อยเจสิก้ามานั่งบนตักพลางชี้ชวนให้ลูกน้อยดูสิ่งต่างๆ นอกหน้าต่าง เจคน้อยปีนกลับมานั่งเบาะหลังเช่นเดิม เจ้าหนูพอจะให้อภัยการกระทำของบิดามารดาแล้ว
รถยนต์คันงามประทับตรารูปธนบัตรหลายสิบตั้งอยู่ข้างประตู แล่นมาจอดภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของและครอบครัว จะทยอยลงจากรถแล้วก้าวเข้าสู่ตัวอาคารเพื่อทำธุระตามที่ตั้งใจไว้
โจนาธาน คิงส์ พาลูกๆ มุ่งไปที่ลานสวนสนุกของห้าง ในขณะที่นิลอรแวะไปชำระค่าน้ำค่าไฟที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสซึ่งอยู่อีกชั้น ส่วนชาร์ลส์เมื่อจัดการดูความเรียบร้อยเรื่องรถดีแล้ว ก็ตามเจ้านายเข้าไปในห้าง ชายหนุ่มแวะเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุดเป็นอันดับแรก ห้านาทีต่อมา เขาก็เดินออกมาจากห้องน้ำ สวนกับผู้คนอีกกลุ่มใหญ่ทั้งชายและหญิง
ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีน้ำตาลเข้มเรียบหรูดูดีทุกกระเบียดนิ้ว เดินอย่างสง่าผ่าเผยไปตามทางเดินที่พลุกพล่านด้วยผู้คนทั้งหญิงชายและลูกเล็กเด็กแดง เรือนผมสีน้ำตาลเข้มถูกเจ้าของเสยขึ้นไปด้วยความร้อนอบอ้าว แม้ว่าอากาศในห้างจะค่อนข้างเย็น แต่มันยังไม่เย็นพอสำหรับคนที่ชื่นชอบอากาศเย็นจัดเช่นเขา
ตุ้บ!
“ว้าย! ขอโทษค่าขอโทษ!” เสียงแหลมเล็กของหญิงสาวนางหนึ่งดังแทรกเสียงอันอื้ออึงของผู้คน เข้ามากระทบประสาทรับเสียงของชาร์ลส์ เสียงของหล่อนไม่ได้ดังน้อยกว่าแรงที่เจ้าหล่อนโถมเข้ามาหาร่างเขาแม้แต่น้อย เรือนร่างบอบบางแต่ช่างนำพาความอวบหยุ่นของสตรีเพศมาให้สัมผัสได้ชัดเจนนัก
ชาร์ลส์แทบจะลืมหายใจ เมื่อเจ้าของเรือนร่างแห่งความยุ่งยาก เงยหน้าขึ้นมามอง เขาเพ่งสายตาพิฆาตผ่านแว่นสีชาสู่ร่างของหล่อน เขาไม่รู้จะอธิบายสถานการณ์นี้ว่าอย่างไรดี มันมากกว่าตกตะลึง มากกว่าคำว่าโมโหโกรธาด้วยซ้ำ เขาอยากจับแม่คนที่ยืนสำนึกผิดอยู่ตรงหน้ามารับจุมพิตลงทัณฑ์ให้สิ้นเรื่องราว ไม่ใช่เพราะหลงเสน่ห์เจ้าหล่อนหรอกนะ แต่เป็นเพราะหล่อนช่างบังอาจเอาเจ้าไอศกรีมเละๆ ขาวๆ ในมือมาจูบกับสูทผ้าไหมของเขาต่างหาก แม่คุณคนสวยแต่ช่างซุ่มซ่ามดีแท้ วันนี้มันวันซวยอะไรของเขาเนี่ย!
“Oh! I’m sorry” หญิงสาวในชุดสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนกับกระโปรงผ้าพลิ้วแนวโบฮิเมียนยาวคลุมตาตุ่ม เอ่ยขออภัยคู่กรณีของตนเป็นภาษาอังกฤษ เธอไม่ได้ซุ่มซ่ามนะ แต่ว่าคนที่เดินอยู่ข้างหลังเมื่อกี้ดันเบียดเธอจนเสียหลักเดินมาชนพ่อเทพบุตรในชุดสูทนี่ แต่ให้ตายเถอะ เขาดูดีเป็นบ้า แม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะซ่อนอยู่ใต้แว่นสีชาก็เถอะ กลิ่นตัวก็หอมบาดใจ โอ...พระเจ้า! กลิ่นเขาช่างเซ็กซี่เหลือเกิน
เอลลี่ อรุณฉัตร สูดดมกลิ่นกายพ่อรูปหล่อเข้าเต็มปอด ก่อนจะรีบควานหาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดเสื้อให้เขา แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเช็ด เจ้าเนื้อไอศกรีมก็ยิ่งซึมเข้าสู่สูทผ้าไหม เกิดเป็นรอยด่างน่าเกลียด อรุณฉัตรอยากจะร้องไห้ ขณะที่คนอื่นๆ พากันหันมามองด้วยสายตาแปลกๆ ราวกับว่ากำลังมองคู่รักออดอ้อนกันเสียอย่างนั้น เธอก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้นอยู่หรอกถ้าหากว่าพ่อเทพบุตรสุดหล่อจะไม่ทำหน้าบูดหน้าบึ้งราวกับจะฆ่าเธอให้ตายอย่างนี้
หญิงสาวพยายามเช็ดคราบสกปรกต่อไป แม้ว่าเนื้อไอศกรีมเหลวๆ จะซึมลงบนสูทผ้าไหมแทบจะพิมพ์ลายใหม่ให้ผืนผ้า มือขวาเช็ดคราบไปเรื่อยๆ ด้วยความตั้งอกตั้งใจ มือซ้ายก็ยังถือไอศกรีม ขณะเดียวกันนั้น เธอยังต้องหนีบกระเป๋าสะพายใบเล็กเอาไว้ด้วย และพอจังหวะที่ออกแรงเช็ดถูมากไปเพราะเผลอมองหน้าพ่อเทพบุตรจนลืมตัว เจ้าไอศกรีมโคนที่ถืออยู่ มันก็ร่วงผล็อยจากมือเจ้าของ
เผละ!
“ว้าย! ตายแล้ว! ฉันขอโทษ...ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ขอโทษ...”
อรุณฉัตรยิ่งกว่าอยากจะร้องไห้ ตอนนี้เธออยากตัดมือตัวเองจริงๆ ที่ไม่ยอมถือไอศกรีมดีๆ มันเลยร่วงลงไปจูบกับพื้นเรียบร้อย แน่นอนว่าก่อนจะลงพื้นมันเกยอยู่บนปลายรองเท้าหนังเงาวับของเขาอยู่หลายวินาทีทีเดียว และที่เธอเสียดายยิ่งกว่านั้นก็คือ...เธอยังไม่ได้กินมันสักคำ!
หมับ!
มือน้อยของอรุณฉัตรถูกกุมไว้ด้วยมือหนาของอีกฝ่าย ชาร์ลส์ลากยัยจอมซุ่มซ่ามที่ทำไอศกรีมเลอะเสื้อของตนออกห่างจากช่องทางเดิน ถ้าหล่อนจะตั้งใจเช็ดให้สมกับความจริงใจ หล่อนคงเช็ดเสร็จไปนานแล้ว แต่นี่เอาแต่จ้องหน้าเขา แล้วมันจะไปเสร็จได้อย่างไร มิหนำซ้ำยังทำไอศกรีมทั้งโคนร่วงใส่รองเท้าเขาอีก ซุ่มซ่ามสองชั้นจริงๆ
“รออยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนเด็ดขาด” ชาร์ลส์สั่งความกับสาวน้อยที่ทำตากลมแป๋วใสซื่ออยู่ตรงหน้า รวบเอาผ้าเช็ดหน้าที่หล่อนใช้เช็ดเสื้อให้เขามาถือไว้ ก่อนเข้าไปทำความสะอาดเสื้อกับรองเท้าในห้องน้ำ แล้วกลับมาอีกครั้งในเวลาไม่นานนัก
“คุณให้ฉันรอทำไมคะ คุณจะจับฉันเข้าคุกเหรอ โอ...ไม่นะ! ฉันแค่มาเที่ยวเดี๋ยวฉันก็กลับประเทศฉันแล้ว ฉันยังไม่อยากถูกส่งตัวข้ามประเทศในข้อหาทำไอติมเปื้อนเสื้อกับรองเท้าของคุณหรอกนะ คุณพูดภาษาไทยได้ใช่ไหม เมื่อกี้ฉันได้ยินไม่ผิดแน่ๆ ตกลงคุณเป็นคนไทยเหรอ แล้วทำไมคุณถึงได้เหมือน...”
“หุบปากสักห้านาที แล้วตามฉันมา”
อรุณฉัตรทำหน้ามุ่ยที่เขาไม่ตอบ ก้มหน้าลงมองแต่ปลายเท้าที่ก้าวตามหลังเขาไปราวกับทาสผู้ซื่อสัตย์ กระทั่งคนที่เดินอยู่ก่อนหน้ากลับมาลากไปเดินข้างกัน เธอถึงได้กล้าเงยหน้าขึ้นมองเขา ความจริงแล้วเธอว่าหน้าตาเขาคุ้นๆ อยู่เหมือนกัน อาจจะเคยเห็นในโทรทัศน์ แต่เอ...ถ้าเคยเห็นในโทรทัศน์ก็แสดงว่าเขาต้องเป็นคนสิงคโปร์น่ะสิ
ชาร์ลส์หยุดยืนที่หน้าร้านไอศกรีมที่เขาเดาว่าน่าจะมีไอศกรีมแบบเดียวกันกับที่หล่อนทำร่วง เขาสั่งให้หล่อนรอก่อนจะเข้าไปซื้อไอศกรีมมาคืนให้
“หายกันแล้วนะ” เขาบอกด้วยเสียงเรียบเฉย แล้วยัดไอศกรีมที่ตอนนี้ใส่ถ้วยพลาสติกเรียบร้อย ให้หญิงสาว
“อะไร? นี่คุณซื้อให้ฉันเหรอ” เอ่ยถามแต่ไม่มีคำตอบกลับมา
ชาร์ลส์ก้มหัวให้เจ้าหล่อนเล็กน้อย แล้วหันหลังเดินจากไปอย่างมั่นใจว่าจะไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ทั้งเรื่องอุบัติเหตุเล็กน้อย และเรื่องความจริงใจของเจ้าหล่อน เขารู้ว่าหล่อนไม่ได้ตั้งใจ สายตาหล่อนมันฟ้องแม้ว่าเขาต้องมองมันผ่านแว่นตาก็เถอะ และเขาก็ได้ชดใช้ความเสียใจให้หล่อนแล้ว หล่อนจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิด
‘ขอให้โชคดีนะคนสวย’ ชาร์ลส์อวยพรในใจและขอให้มันส่งไปถึงคนที่ยืนอยู่เบื้องหลัง
อรุณฉัตรมองตามแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆ เลือนหายไปจากสายตา ก่อนหันกลับมามองถ้วยไอศกรีมในมืออย่างงงๆ เธอฝันไปหรือเปล่านี่ แทนที่พ่อคุณจะโกรธกลับซื้อไอศกรีมถ้วยใหม่มาให้ โอ...พระเจ้า! เอาหัวใจของเอลลี่ไปเลยเถอะ ถ้าจะฆ่ากันด้วยความดีอย่างนี้!
“เฮ้อ! แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหมเนี่ย น่าเสียดายจัง...”
อรุณฉัตรเปรยกับตัวเองอย่างแสนเสียดาย เขาเป็นใครนะ เป็นคนธรรมดาหรือว่าเป็นเทพบุตร แต่เราคงไม่ได้เจอกันแล้ว เพราะว่าพรุ่งนี้เธอก็ต้องกลับสิงคโปร์แล้ว เฮ้อ....เสียดาย!