เส้นทางอันยาวไกล มันช่างโดดเดี่ยวเหว่หว้า อยากขอเพียงอ้อมแขนของใครสักคนมาโอบกอดเอาไว้ บรรเทา เยียวยาความเจ็บช้ำที่เคยผ่าน แค่อยาก...ถูกรักสักครั้งในชีวิต
======================
“คุณข่าน!” ร่างเล็กลุกยืนรวดเร็ว ตกใจไม่แพ้ชายหนุ่มที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา
“เธอมาอยู่นี่ได้ไง...ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“แล้วทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ คนอื่นๆ หายไปไหนกันหมด” เธอถามกลับ เท้าถอยหลังครูด สีหน้าและแววตาเคร่งขรึมของเขา บ่งบอกถึงความไม่พอใจรุนแรง เดิมที...เขาก็อคติกับเธอตั้งแต่แรกพบอยู่แล้ว
“เธอใช่ไหมที่ทำลายวิทยุสื่อสารเรือ...คิดจะทำบ้าอะไร”
“วิทยุ...ฉันไม่รู้เรื่องนะ ฉันลงเรือมา เพราะวันนี้มีทริปพาลูกค้าไปดำน้ำ มันเป็นหน้าที่ที่ฉันต้องคอยตามดูแล”
“แต่ไม่ใช่เรือลำนี้!”
“ปกติก็ใช้ลำนี้ทุกครั้งนี่คะ”
“ยังจะเถียงอีก...ไม่มีใครบอกเธอหรือไง”
“ไม่...ไม่มี...” ดาวพรายหลุบตาต่ำ ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนเรือกะทันหัน ก็เมื่อวานประชุมกันแล้วเป็นดิบดี
“ทีนี้รู้แล้วก็ออกไปซะ!” เขาขยับ แล้วชี้มือไปด้านนอก หญิงสาวมองตามแล้วอ้าปากค้าง
“คุณจะบ้าเหรอ จะไปที่ไหน ยังไง นี่มันกลางทะเลอ่าวไทยนะ”
“ไม่ใช่ธุระของฉันนี่...ใครขอให้เธอมาด้วย ใครอยากอยู่บนเรือลำนี้กับเธอ” ชายหนุ่มกล่าวหน้าตาเฉย และจริงจัง
“คุณกลับไปส่งฉันได้ไหม หรือไม่ก็...ไปแวะที่ไหนสักแห่ง แล้วติดต่อคนที่เกาะให้มารับ” ดาวพรายเสนอทางออก มองเขาด้วยแววตาตระหนกปนเว้าวอน
“ไม่...” เสียงห้าวทุมเน้นย้ำชัดเจน แล้วก้าวเท้าเข้าไปกระชากร่างเล็กออกจากสโตร์
“ว้าย! คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ” ดาวพรายถลาไปตามแรงลากจูง ล้มลุกคลุกคลานแต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กระทั่งเขาผลักให้ยืนติดระเบียง
“ไปซะ ดาวพราย...ฉันรู้ว่าเธอมาที่เกาะหมอกเพราะอะไร”
“...” เด็กสาวเบิกตาตะลึง แล้วก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด เธอกลืนน้ำลายลงคอแล้วพึมพำกับตัวเอง “ร้ายกาจเหมือนที่พ่อบอกไว้จริงๆ”
“ฉันบอกให้ไปให้พ้น!”