bc

ทาสอันธการ

book_age16+
50
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
ดราม่า
ลึกลับ
เมืองเล็ก
like
intro-logo
คำนิยม

เส้นทางอันยาวไกล มันช่างโดดเดี่ยวเหว่หว้า อยากขอเพียงอ้อมแขนของใครสักคนมาโอบกอดเอาไว้ บรรเทา เยียวยาความเจ็บช้ำที่เคยผ่าน แค่อยาก...ถูกรักสักครั้งในชีวิต

======================

“คุณข่าน!” ร่างเล็กลุกยืนรวดเร็ว ตกใจไม่แพ้ชายหนุ่มที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา

“เธอมาอยู่นี่ได้ไง...ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“แล้วทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ คนอื่นๆ หายไปไหนกันหมด” เธอถามกลับ เท้าถอยหลังครูด สีหน้าและแววตาเคร่งขรึมของเขา บ่งบอกถึงความไม่พอใจรุนแรง เดิมที...เขาก็อคติกับเธอตั้งแต่แรกพบอยู่แล้ว

“เธอใช่ไหมที่ทำลายวิทยุสื่อสารเรือ...คิดจะทำบ้าอะไร”

“วิทยุ...ฉันไม่รู้เรื่องนะ ฉันลงเรือมา เพราะวันนี้มีทริปพาลูกค้าไปดำน้ำ มันเป็นหน้าที่ที่ฉันต้องคอยตามดูแล”

“แต่ไม่ใช่เรือลำนี้!”

“ปกติก็ใช้ลำนี้ทุกครั้งนี่คะ”

“ยังจะเถียงอีก...ไม่มีใครบอกเธอหรือไง”

“ไม่...ไม่มี...” ดาวพรายหลุบตาต่ำ ไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนเรือกะทันหัน ก็เมื่อวานประชุมกันแล้วเป็นดิบดี

“ทีนี้รู้แล้วก็ออกไปซะ!” เขาขยับ แล้วชี้มือไปด้านนอก หญิงสาวมองตามแล้วอ้าปากค้าง

“คุณจะบ้าเหรอ จะไปที่ไหน ยังไง นี่มันกลางทะเลอ่าวไทยนะ”

“ไม่ใช่ธุระของฉันนี่...ใครขอให้เธอมาด้วย ใครอยากอยู่บนเรือลำนี้กับเธอ” ชายหนุ่มกล่าวหน้าตาเฉย และจริงจัง

“คุณกลับไปส่งฉันได้ไหม หรือไม่ก็...ไปแวะที่ไหนสักแห่ง แล้วติดต่อคนที่เกาะให้มารับ” ดาวพรายเสนอทางออก มองเขาด้วยแววตาตระหนกปนเว้าวอน

“ไม่...” เสียงห้าวทุมเน้นย้ำชัดเจน แล้วก้าวเท้าเข้าไปกระชากร่างเล็กออกจากสโตร์

“ว้าย! คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ” ดาวพรายถลาไปตามแรงลากจูง ล้มลุกคลุกคลานแต่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กระทั่งเขาผลักให้ยืนติดระเบียง

“ไปซะ ดาวพราย...ฉันรู้ว่าเธอมาที่เกาะหมอกเพราะอะไร”

“...” เด็กสาวเบิกตาตะลึง แล้วก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด เธอกลืนน้ำลายลงคอแล้วพึมพำกับตัวเอง “ร้ายกาจเหมือนที่พ่อบอกไว้จริงๆ”

“ฉันบอกให้ไปให้พ้น!”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ
หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งทุกฉบับ ข่าวออนไลน์ทุกช่องทาง ทีวี...หรือแม้แต่การสื่อสารผ่านระบบโซเชียล ต่างพูดถึงการเสียชีวิตของดาราสาวกันครึกโครม เป็นข่าวดังระดับประเทศ และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันหนาหู เพราะการจากไปของเธอนั้น เป็นไปโดยผิดธรรมชาติ ทั้งก่อนหน้านี้ ก็ยังมีเรื่องฉาวคาราคาซังกระฉ่อนวงการ เรื่องราวยังไม่ทันสร่างซา นักแสดงสาวก็มาฆ่าตัวตายไปเสียก่อน เป็นการตายที่คนทั้งประเทศ ซึ่งติดตามข่าวของเธอหดหู่ไม่น้อย จันทร์พราว ศรนิรมิต กลายเป็นดาวค้างฟ้าก่อนวันอันสมควร เธอเป็นดาราเจ้าบทบาท โด่งดังในวงการมานับสิบปี เป็นคนสวยดีกรีนางเอกเบอร์หนึ่ง ละครหรือหนังทุกเรื่องที่เธอรับแสดง เธอต้องได้รับบทนำเสมอ และเป็นที่นิยมเหมือนพลุแตก ชีวิตของเธอเฟื่องฟูล้อมรอบไปด้วยชื่อเสียง เงินทอง และลาภยศ อันเป็นที่ปรารถนาของคนทุกคน แต่ก็ใช่ว่าใครจะประสบความสำเร็จได้เหมือนที่เธอเป็น                            ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า จุดจบของจันทร์พราวจะดิ่งดับเช่นนี้        “ทำไมจันทร์พราวต้องไปเอาผู้ชายไร้ความรับผิดชอบคนนั้นด้วย เสียดายอนาคตดีๆ ทั้งสวยทั้งรวย ดังก็ดัง คนดีๆ มีฐานะตามจีบเยอะแยะกลับไม่สนใจ...เวรกรรมอะไรถึงเป็นแบบนี้” “เธอคงรักผู้ชายคนนั้นมาก ตอนแถลงข่าวยอมรับว่าท้อง ผู้ชายไม่มาเธอก็ยังเข้มแข็ง แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำแท้งจริงๆ หรอกนะ ไม่งั้นคงไม่ออกมายอมรับกับสังคมตั้งแต่แรก แอบไปเอาออกเงียบๆ ไม่ดีกว่าเหรอ”            “นั่นสิ...ถ้าอย่างนั้นก็คงเป็นเหมือนที่ข่าวลงไว้จริงๆ พอผู้ชายไม่รับผิดชอบเลยฆ่าตัวตาย”            “น่าสงสาร...สงสารเด็กในท้องด้วย ไม่น่าคิดสั้นเลยจันทร์พราว คนทั้งประเทศพร้อมจะให้โอกาสแท้ๆ”        เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ผ่านคอมเม้นใต้โพสต์ข่าวสะเทือนใจหน้าสังคมออนไลน์ต่างแสดงความเห็นและไว้อาลัยดาราสาวขวัญใจของประชาชนไม่ขาด                     แต่ความเสียใจมากมายเท่าไหร่จากคนทั่วประเทศรวมกันแล้ว...มันก็ยังไม่ได้ครึ่งความรู้สึกของคนในครอบครัว   การจากไปของจันทร์พราว...เป็นมากกว่าการสูญเสีย แต่มันคือการสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ประหนึ่งว่า เมื่อไม่มีเธอแล้ว จิตวิญญาณของคนที่อยู่ข้างหลัง ได้ดับสิ้นตามเธอไปด้วย... ต้องมีชีวิตอยู่อย่างคนตาย...ทั้งที่ยังมีลมหายใจ “พราว...พราวลูกพ่อ ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมพราวต้องจากพ่อไปล่ะลูก” ร่างสะท้านของชายวันกลางคนในชุดดำ คอยพร่ำเรียกหาลูกสาวอันเป็นที่รักซึ่งจากไปไม่มีวันกลับ เหลือเพียงรูปถ่ายต่างหน้าในอ้อมกอด แต่แม้จะกอดแน่นไม่ยอมปล่อย ที่สุดของหัวใจก็ไม่อาจฟื้นกลับคืนมาได้อีกแล้ว “แล้วพ่อจะมีชีวิตอยู่ต่อได้ยังไง ทำไมลูกทิ้งพ่อไป” “คุณพี่...กินอะไรบ้างเถอะค่ะ” เสียงหนึ่งสั่นแทรกเข้ามา เปรมหันไปมองด้วยแววตาขุ่นเคือง ร่างผอมบางในชุดดำ ผมเผ้าผูกรวบเรียบร้อยก้มหน้าหลบอัตโนมัติ มือกอดเด็กหญิงวัยสิบขวบที่อยู่ด้านหน้าของตัวเองเอาไว้ “ฉันจะไปกินอะไรลง ลูกตายทั้งคน...ยังมีกะจิตกะใจทำอะไรได้” “ไม่มีใครอยากให้เรื่องมันเกิด พราวก็เป็นลูกฉันเหมือนกัน คุณพี่คิดว่าฉันไม่เสียใจเหรอ ถ้าคุณพี่ไม่ดูแลตัวเองแบบนี้ แล้วเป็นอะไรขึ้นมาอีกคนฉันกับดาวจะอยู่ยังไง” คนพูดพลางยกมือขึ้นปาดน้ำตา ใบหน้าของนางซูบซีดโรยรา มองดูหม่นหมองไม่ได้ต่างจากสามี    “นังดาว...เป็นเพราะมันคนเดียว เพราะมันพราวถึงต้องตาย!” คราวนี้ดวงตาแดงก่ำที่เคยโศกเศร้าแข็งกร้าวขึ้น เขาจ้องเขม็งไปที่เด็กหญิงในอ้อมกอดของภรรยา           “พี่เปรม...ดาวยังเด็ก จะไม่รู้อะไร อย่าโทษดาวอีกเลย” “ฉันเกลียดมัน แม่เอื้องพาอีเด็กนรกที่ออกไปเถอะ ไม่อย่างนั้นฉันคงได้จับมันหักคอ ตายตามไปอยู่กับพราวเป็นแน่” ร่างใหญ่ลุกขึ้น มือหนึ่งยังกอดรูปลูกสาวอันเป็นที่รักเอาไว้ อีกมือ...กำแน่นและจ้องร่างเล็ก ราวกับว่าได้โกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน ดาวพรายตัวหดสั่นด้วยความกลัว...ก้มหน้าไม่กล้าแม้จะหายใจแรง “ดาวก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเรานะพี่ ทำไมพี่พูดกับลูกแบบนี้” “มันไม่ใช่ลูกฉัน!...ตั้งแต่เกิดมามันก็เป็นตัวซวยมาตลอด ทำเราฉิบหายวายวอดมาตั้งเท่าไหร่ ถ้าไม่มีลูกดีๆ มีบุญวาสนาอย่างพราว เราคงได้เป็นขอทานไปแล้วเพราะมัน!” เปรมชี้มือพลางตวาดลั่น เด็กน้อยในอ้อมกอดของเอื้องเงินหวาดกลัวจนร้องไห้จ้า “คุณพี่! ฉันขอเถอะ อย่าพูดแบบนี้กับลูกอีกเลย สงสารกันบ้าง แค่นี้ก็อาภัพพอแล้ว” เอื้องเงินเช็ดสะอึกสะอื้นไม่ต่างกัน นางได้แต่กอดลูกสาวคนเล็กเอาไว้ หลังเผื่อแผ่ความอาทรได้พอบรรเทาจิตใจอันบอบช้ำ          “ออกไป พามันออกไปให้พ้นหน้าฉัน!” เปรมตะคอกเสียงกร้าว ปรี่ตรงเข้าไปจับต้นแขนดาวพรายออกจากอกมารดาแล้วผลักไม่ออมแรงมือ จนร่างเล็กล้มกระเด็นพ้นธรณีประตู             “ดาว! โธ่ลูกแม่” นางทรุดตัวลงกอดดาวพราย เด็กหญิงร้องไห้ตัวสั่น ทั้งหวาดกลัวทั้งใจเสีย... “พ่อจ๋า...พ่ออย่าตีน้องดาวเลย น้องดาวกลัวแล้ว” “มึงไม่ต้องมาเรียกกูว่าพ่อ! มารหัวขนอย่างมึงกูไม่เคยอยากให้มึงเกิด!” “คุณพี่...” เอื้องเงินหลับตาแล้วส่ายหน้าด้วยความเสียใจกับคำพูดอันเลวร้ายของสามีที่กระทำต่อลูกสาวคนเล็ก ดาวพรายกลั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอดระคายหู แต่ตัวเธอยังคงสะท้านหอบโยน น้ำตาหลั่งรินเป็นทางเช็ดเท่าไหร่ก็ไม่หยุดไหลสักที                      “ฉันจะเห็นแก่แม่เอื้อง ให้มันอยู่ที่นี่ได้ แต่ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องเอาอีตัวซวยนี่มาให้ฉันเห็นหน้าอีก!” เปรมเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูเสียงดัง ขังตัวเองอยู่ในห้องลูกสาวคนโต จมปลักอยู่กับความเศร้าความสูญเสีย              เป็นเช่นนั้นนับตั้งแต่วันที่จันทร์พราวเสียชีวิต จนบัดนี้ เสร็จสิ้นพิธีกรรมทางศาสนามาแล้วก็ร่วมเดือน คนเป็นพ่อที่รักลูกสาวดั่งแก้วตาดวงใจ ก็ยังยอมรับความจริงไม่ได้สักที “น้องดาว...อย่าไปถือพ่อนะลูก พ่อเขากำลังเสียใจ” “จ้ะแม่...แต่แม่จ๋า น้องดาวไม่ใช่ลูกของพ่อเหรอ ทำไมพ่อบอกว่าน้องดาวไม่ใช่ลูก”                 “น้องดาวเป็นลูกของพ่อกับแม่...อย่าไปคิดมากกับคำพูดคนกำลังเป็นทุกข์ แม่รักน้องดาว รู้ไว้แค่นี้ก็พอ”        “แต่พ่อไม่รักน้องดาว...” “ไม่จริงหรอก...เขาก็พูดไปอย่างนั้น น้องดาวเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อกับแม่ หนูต้องพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้เป็นอย่างที่พ่อคิด แล้วสักวัน สักวัน...พ่อก็จะรักน้องดาว อย่างเต็มใจ”

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.2K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
8.0K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.3K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.3K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook