เสียงหอบหายใจดังกระเส่าพร้อมแท่งร้อนที่อัดแน่นขยายใหญ่อยู่ภายในร่างของสตรีเบื้องล่าง ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ชั่วยามที่ได้ครอบครองสตรีที่ได้ชื่อว่าโฉมสะคราญที่สุดแห่งแคว้นหยู่
“เมื่อไรจะหยุดกระแทกข้าเสียที!” เจียวอิงร้องตะโกนโวยวาย พยายามจะดันร่างสูงให้ออกไปพ้นตัว
“เจ้าก็รับปากสิว่าจะไม่หนีไปจากข้า”
เจียวอิงสะบัดหน้า “ไม่! อย่างไรข้าก็จะหนี ข้าจะไม่ยอมอยู่ให้ท่านรังแกข้าไปจนตายหรอก”
บุรุษเหยียดยิ้ม แววตาคมดูดุดันขึ้นหลายเท่าตัว เอ่ยเสียงเยือกเย็น “เจ้าเป็นของข้า ข้าซื้อตัวเจ้ามา เจ้าก็ต้องอยู่ให้ข้ารังแกไปทั้งชีวิต”
เจียวอิงต้องทนรับแรงปรารถนาที่ทวีความรุนแรงของบุรุษตลอดคืน กระทั่งนางกรีดร้องเสียงแหบแห้งก็ไม่แม้แต่จะได้รับความเมตตาหรือหยุดพักเลยสักนิด คิดแล้วก็แค้นนัก หมิ่งจิ้นเหอ! หรือที่ใครๆ ต่างเรียกอ๋องแปดคนนั้น เหตุใดถึงไม่ยอมปล่อยนางไปเสียที
เจียวอิงนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ในสวน เงยหน้ามองฟ้าครามแล้วปลงตกในชะตาชีวิตที่พลิกไปพลิกมาไม่จบสิ้น
เดิมทีแล้ว หลี่เจียวอิง หาใช่คนบนโลกนี้ นางเดินทางมาจากโลกที่ต่างออกไป ทั้งบ้านเรือนหรือผู้คน ไม่เหมือนกันสักนิด แต่หากจะถามว่าต่างกันเช่นไร เจียวอิงก็ตอบไม่ได้เช่นกัน ความทรงจำของหญิงสาวที่มีต่อตัวตนอีกคนนั้นเลือนรางจนเรียกได้ว่ากลับมาเกิดใหม่ในโลกนี้ก็ว่าได้
เจียวอิงลืมตาตื่นในร่างสาวงามที่อายุย่างเข้าสิบหกปี บุตรสาวเพียงคนเดียวของคหบดีผู้เลื่องชื่อแห่งแคว้นหยู่ หญิงสาวผู้อยู่ในอาการสับสนพยายามหาทางจะกลับไปยังโลกที่ตนจากมา แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากสิ่งที่ฟ้าลิขิตแล้วได้
เจียวอิงจึงได้แต่ทำใจยอมรับความจริง และใช้ชีวิตของคุณหนูตระกูลหลี่นับแต่นั้น หลายคนรอบตัวบอกว่าตัวตนเดิมของเจียวอิงนั้นแสนร้ายกาจ เอาแต่ใจและโหดร้าย นางถือตนว่าบิดาร่ำรวยยกตนข่มผู้น้อยอยู่บ่อยครั้ง ไม่พอใจอะไรเป็นต้องกรีดร้องและหยิบแส้ฟาดบ่าวไพร่ที่ทำตัวมีปัญหา
ด้วยเพราะทำตัวหยาบช้าไม่สมกับกุลสตรีนี่เอง จึงไม่มีใครอยากเข้าใกล้นาง เจียวอิงที่ได้รับรู้ตัวตนเดิมจึงคิดเปลี่ยนแปลงตนเสียใหม่ ประการแรกคือทำดีกับบิดามารดาของตนให้มากๆ ลดอารมณ์ขี้โมโหและเพิ่มความเมตตา
แต่ยังไม่ทันที่อะไรๆ จะดีขึ้น ตระกูลหลี่กลับต้องพบเจอกับวิบากกรรมที่ยากเกินจะหลีกหนี จะด้วยเพราะร่ำรวยเกินหน้าผู้ใดหรือทำตัวเป็นปรปักษ์กับขุนนางชั้นผู้ใหญ่ก็ตามที ท้ายที่สุดตระกูลหลี่ถูกผู้ไม่ประสงค์ดีใส่ร้ายจนถูกตัดสินโทษให้ประหารทั้งตระกูล
มารดาของเจียวอิงจึงคิดส่งบุตรสาวไปลี้ภัยกับญาติผู้น้องที่ต่างแคว้น แต่เพราะความเจ็บแค้นที่แม่นมเฒ่ามีต่อเจียวอิงผสมกับความโลภมากในเงินทอง แทนที่จะพาคุณหนูไปส่งตามคำสั่ง กลับพานางมาขายเป็นสาวใช้บำเรอของหมิ่งจิ้นเหอเสียอย่างนั้น
คราแรกเจียวอิงไม่นึกเอะใจ กระทั่งได้ยินชื่อเสียงของบุรุษผู้นี้ คลับคล้ายว่าเคยอ่านผ่านตามาอย่างไรอย่างนั้น เมื่อพยายามนึกทบทวน ความทรงจำบางอย่างพลันผุดขึ้นมา
ชื่อหมิ่งจิ้นเหอ คือชื่อของตัวร้ายในนิยายเรื่อง ช่วงชิงบุปผางาม
ชัดเจนแล้วว่าเจียวอิงไม่ได้ตายแล้วเกิดใหม่ แต่เป็นการทะลุมิติเข้ามาอยู่ในนิยาย!?
“แม่นางเจียวอิง” เสียงเรียกดึงความสนใจของเจียวอิงให้หลุดจากภวังค์ หญิงสาวหันมองไปทางสตรีใบหน้ายิ้มแย้มที่กำลังยกถาดชามาให้
“ชากับขนมเจ้าค่ะ” สาวใช้นามผิงผิงว่าพลางรินชาใส่ถ้วย
“ขอบใจนะ” เจียวอิงยกถ้วยชาขึ้นเป่าและยกดื่มรวดเดียว หวังดับอารมณ์ที่ขุ่นมัวของตน “วันนี้ท่านอ๋องไม่ออกไปข้างนอกหรือ”
“อย่าบอกนะว่าแม่นางคิดจะหนีอีกแล้ว!” ผิงผิงตาโตตกใจ รีบกล่าวห้ามทันที “อย่าเลยนะเจ้าคะ คราวที่แล้วก็ทำท่านอ๋องเดือดดาลจนแทบจะตัดหัวทหารยามอยู่แล้ว หากแม่นางยังทำอีกไม่แคล้ว...”
“ข้าเองก็ถูกลงโทษไม่ต่างอะไรจากพวกเจ้าหรอก”
“เช่นนั้นก็ล้มเลิกความคิดเถิดเจ้าคะ”
เจียวอิงยิ้มบาง เอ่ยตอบ “ไม่”
“โธ่แม่นาง เหตุใดท่านต้องดื้อดึง ท่านอ๋องสั่งเช่นไรก็ทำตามเถิด ไม่งั้นชีวิตอาจหาไม่เอาได้”
“อยู่เฉยๆ ก็อาจหาไม่ได้เช่นกัน”
เพราะตัวละครนาม หลี่เจียวอิง ไม่ได้มีบทบาทอยู่ในนิยายเรื่องนี้เสียหน่อย!
เท่าที่เจียวอิงพอระลึกได้ นิยายเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องโดยสามตัวละครเอก
หนึ่งคือองค์หญิงต่างแคว้น คู่หมั้นขององค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยู่
สองคือองค์ชายรัชทายาทอันดับหนึ่ง บุรุษผู้เก่งกาจมากความสามารถ อนาคตเพียงหนึ่งเดียวของราชวงศ์หมิ่ง
และสุดท้ายคือหมิ่งจิ้นเหอ อ๋องแปดผู้เย็นชาโฉดชั่ว กระทำเรื่องเลวทรามต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตนต้องการ
ทั้งสามตัวละครจะพบเจอกันในงานเลี้ยงเฉลิมฉลองคล้ายวันพระบรมราชสมภพขององค์ฮ่องเต้ เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่นำพามาซึ่งการช่วงชิงอำนาจและแตกหักของสมาชิกราชวงศ์
“องค์หญิงคือนางเอก ส่วนพระเอกคือองค์ชาย ตัวร้ายแน่นอนว่าเป็นอ๋องแปด” เจียวอิงบ่นพึมพำ ส่วนผิงผิงก็ได้แต่เอียงคอสงสัย
“ผิงผิง วันเกิดของฮ่องเต้คือเมื่อไรน่ะ”
“วันเกิดของฮ่องเต้หรือเจ้าคะ...เอ่อ ถ้าจำไม่ผิด อีกสองอาทิตย์เจ้าค่ะ”
เจียวอิงพยักหน้า หากยังไม่ถึงวันที่ทั้งสามตัวละครจะได้พบเจอกัน นั่นก็หมายความว่าเรื่องราวทั้งหมดอาจจะยังไม่ได้ดำเนินไป บางทีการที่ไม่มีชื่อตัวละครหลี่เจียวอิงปรากฏอยู่ในนิยาย อาจเพราะนางได้ตายจากไปก่อนหรือไม่