ตอนที่ 2 น้องกอหญ้า 1

1346 คำ
แอร์เย็นเฉียบทำให้กอหญ้าต้องนอนคู้ตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ความจริงเธอจะลุกหยิบรีโมตเพื่อปรับอุณหภูมิก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ภาพเมื่อคืนตอนถูกผู้ชายที่ชื่อพายุบังคับจูบแถมล้วงจับก้นทำให้ไม่อยากจะทำอะไร นอกจากทบทวนเหตุการณ์อยู่เงียบ ๆ จูบแรกของกอหญ้ากับผู้ชายหื่น ๆ ที่นั่งดื่มไวน์ด้วยกัน พี่พายุดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าเธอราว ๆ สิบปี ไฝใต้ตาเม็ดเล็กเพิ่มเสน่ห์ให้กับรอยยิ้มเจ้าชู้แพรวพราวและดวงตาสีคาราเมลเข้มก็บอกชัดว่าต้องการอะไร แต่เธอก็ยังยอมนั่งอยู่ข้าง ๆ ดื่มเป็นเพื่อน แถมแหกกฎตัวเอง ยอมดื่มเป็นแก้วที่สอง เพราะอีเมลของเจ้านายตัวแสบคนเดียว! ‘งานออกแบบของคุณมันเหมือนคนไม่เคยมีความรัก ไม่มีเสน่ห์ ใช้ไม่ได้!’ กอหญ้าไม่เคยมีแฟน ตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็ทำแต่กิจกรรมและเรียนหนังสือ หนุ่มหล่อเดือนคณะหรือรุ่นพี่ต่างสาขามาจีบก็ไม่สน เพราะไม่อยากเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ นึกไม่ถึงว่าการไม่เคยมีความรักจะกลายเป็นอุปสรรคในการทำงาน ความจริงแล้วฝีมือการออกแบบของกอหญ้าดีมาก เพราะเป็นผู้หญิงชอบจินตนาการและคิดบวกในเชิงสร้างสรรค์ เธอได้รับคำชมจากเจ้านายเก่าและเพื่อนร่วมงานอยู่เสมอ จนกระทั่งบริษัทถูกเทกโอเวอร์เพราะไปไม่รอดในช่วงโควิด เรียกได้ว่าเจ้านายเปลี่ยน ชีวิตเปลี่ยนจริง ๆ แรกเริ่มก็ได้รับอีเมลตำหนิเรื่องงานออกแบบที่ใช้ไข่มุกหลายฉบับติด ๆ กัน พออ่านประโยคแดกดันบ่อยเข้า กอหญ้าก็เริ่มสมองตัน พาลคิดงานออกแบบเครื่องประดับอื่น ๆ ไม่ออกไปด้วย ‘ถ้าคุณทำให้งานมันมีเสน่ห์มากกว่านี้ไม่ได้ ผมว่าคุณควรพิจารณาตัวเองได้แล้วว่ายังมีประโยชน์กับบริษัทหรือเปล่า’ คำแรกก็ไม่มีเสน่ห์ สองคำก็ไม่มีเสน่ห์ กอหญ้าจึงเริ่มหมดความมั่นใจและคิดไปว่าตัวเองไม่ใช่คนเก่งคนสวยเหมือนสมัยเรียนแล้ว เธอเลือกซื้อบิกินีวาบหวิว ตั้งใจหว่านเสน่ห์ให้คนมอง แต่การอยู่กับสาว ๆ อีกสี่คนทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ หรือถ้าหนุ่ม ๆ อยากจะจีบก็คงเลือกเธอเป็นคนสุดท้าย กอหญ้ายิ้มยาก ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของหนุ่ม ๆ อยู่แล้ว พอได้เจอผู้ชายรูปหล่ออ่อยหนักเข้าหน่อย เธอจึงลองปล่อยตัวปล่อยใจ เผื่อจะได้เข้าใจว่าอารมณ์สาว ๆ เวลาตกหลุมรักมันเป็นยังไง หัวใจเต้นแรงแค่ไหน หรือมีอะไรที่พอจะเอามาใช้ในงานได้บ้าง กอหญ้าแค่อยากคุยกับเขาให้ชื่นใจ เธอไม่ได้นึกอยากถูกกอดหรืออะไรทั้งนั้น… “ขอน้ำมะพร้าวปั่นนะคะพี่ภู” หลังจากทรมานตัวเองอยู่ในห้องแอร์เย็นเฉียบอยู่นาน กอหญ้าก็ตัดสินใจออกไปรับลมทะเลนอกห้องพัก โดยไม่ลืมหยิบเอาสมุดสเก็ตช์ภาพและข้าวของจำเป็นติดไปด้วย เธอแวะที่ห้องอาหารก่อนจะหมดเวลาราวสิบห้าที มือเรียวหยิบเอาครัวซองต์และขนมปังอีกชิ้น เทนมใส่แก้ว หลังจากจัดการมื้อเงียบ ๆ คนเดียว เธอก็ออกมานั่งริมทะเลตามลำพัง สาวสวยที่กำลังหมดความมั่นใจในตัวเองเกือบจะสำลักน้ำมะพร้าวตาย เพราะเจ้าของร่างสูงสวมสูทสีน้ำเงินเข้มที่เดินตรงเข้ามาใกล้ ๆ เขาดูหล่อกระชากใจสไตล์นักธุรกิจ ใบหน้าคมคร้ามจริงจัง บุคลิกแตกต่างจากพี่พายุที่เธอเจอเมื่อวานโดยสิ้นเชิง กอหญ้ารีบหันหน้ามองทะเล ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ชายมากเสน่ห์ทำหัวใจของเธอเต้นไม่เป็นจังหวะอีก หากไม่ต้องเข้าประชุมในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า พายุก็คงจะกลับเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง สลัดสูทราคาแพงออกและกลับมานั่งคุยกับน้องกอหญ้าที่ผลักเขาตกสระว่ายน้ำไปเมื่อวานนี้แล้ว “เมื่อวานผลักพี่ตกน้ำแล้วหายตัวเลยนะครับน้องกอหญ้า” พายุเอ่ยทักเสียงสดใส เมื่อวานคงจะรุกเร็วไป เด็กมันกลัวเลยผลักตกน้ำเอา “ไม่หายไม่ได้หรอกค่ะ คุณเล่นจะปล้ำฉันแบบนั้น” กอหญ้าไม่สบตาและลงมือวาดภาพทะเลเล่น ทำราวกับคนข้าง ๆ ไม่ได้อิทธิพลต่อหัวใจที่กำลังเต้นรัว “เดี๋ยวนะ พี่ไปปล้ำเธอตอนไหน เธอเป็นคนเริ่มก่อนนะกอหญ้า” เมื่อวานเธอเอนตัวมาหากันก่อน เรื่องนั้นเขาจำได้แม่น “เปล่านะคะ กอหญ้าแค่มึนแล้วเซ ไม่ได้เริ่มก่อนสักหน่อย” “สรุปพี่เข้าใจผิดไปเองสินะ งั้นเอาใหม่ เย็นนี้กอหญ้าให้โอกาสพี่เลี้ยงข้าวขอโทษนะครับ รับประกันว่าคราวนี้ไม่มีการถูกเนื้อต้องตัว ส่วนเรื่องเมื่อคืน พี่แค่เข้าใจอะไรผิดนิดหน่อยเท่านั้นเอง” “เอาไว้จะคิดดูอีกทีนะคะ” พายุไม่มีทางเลือก เขาขอเบอร์โทรศัพท์ของเธอไว้ ก่อนจะเร่งเท้าก้าวเข้าร่วมการประชุม โดยไม่ลืมขอโทษเธออีกครั้งเรื่องเมื่อวาน โชคดีที่การประชุมในวันนี้เป็นเพียงการเก็บรายละเอียดปลีกย่อย ส่วนการเจรจากับ ‘ชลวัฒน์’ หรือ ‘คราม’ เจ้าของฟาร์มมุกนั้นเสร็จเรียบร้อยไปตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อนแล้ว พายุจึงมีเวลาออกไปเดินเล่มริมทะเลตามลำพัง เขาทำงานให้กับบริษัทแม่ที่ฝรั่งเศสนานกว่าสิบห้าปีและเริ่มเบื่อความวุ่นวายในกรุงปารีส จึงตัดสินใจขอเปลี่ยนบรรยากาศย้ายกลับมาที่เอเชีย นึกไม่ถึงว่าจะโชคดีได้กลับมายังบ้านเกิดเมืองนอนที่จากมานานถึงยี่สิบหกปี เขาจำได้ว่าตอนนั้นกรุงเทพฯ ยังไม่มีรถไฟฟ้าเสียด้วยซ้ำ พายุถอนหายใจเมื่อนึกถึงคุณพ่อกับคุณแม่ลูกครึ่งฝรั่งเศสที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน ลูกเสี้ยวอย่างเขาจึงถูกคุณยายพาบินข้ามน้ำข้ามทะเล ย้ายไปอยู่ที่ฝรั่งเศสตั้งแต่อายุยังไม่สิบสองปี เวลาผ่านไปนานเข้าภาษาไทยของเขาก็เริ่มไม่ค่อยแข็งแรง การพูดไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่การเขียนคงต้องใช้เวลาอีกมาก หลังจากส่งอีเมลเหวี่ยงพนักงานในบริษัทเสร็จเรียบร้อยก็เกือบจะถึงเวลาดินเนอร์ พายุรีบส่งข้อความหาสาวสวยที่เขาตั้งใจว่าคว้ากลับไปนอนกอดที่ห้องพักสักสี่ห้าคืนก่อนกลับกรุงเทพฯ ไปเริ่มงาน ทว่าตำตอบที่ได้ทำให้เขาถึงกลับนิ่วหน้าจนคิ้วเรียวสวยคู่นั้นแทบจะชนกัน ⛈ PaYU⚡️ : สวัสดีครับ หิวข้าวหรือยัง? ?กอหญ้า? : ดีค่า กอหญ้าคงไปไม่ได้แล้ว เจ้านายเพิ่งสั่งงานมาน่ะค่ะ ⛈ PaYU⚡️ : ….. ?กอหญ้า? : ขอโทษด้วยนะคะ ⛈ PaYU⚡️ : เอาไว้วันพรุ่งนี้ก็ได้ครับ พี่ยังอยู่อีกหลายวัน ?กอหญ้า? : ค่ะ ‘ถูกเท’ ศัพท์ใหม่ที่พายุเพิ่งจะรู้จักได้ไม่นานคงจะเหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้มาก แต่คนระดับเขาไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ง่าย ๆ ในเมื่อไม่ได้น้องกอหญ้าคนสวยมานอนกอดอุ่น ๆ ตัวเลือกอื่น ๆ ก็มีเยอะแยะไป มือเรียวกดส่งข้อความตามตัวสาวสวยที่จำไม่ได้ว่าเคยควงกันเมื่อสามหรือสี่วันก่อน แต่รอไม่ถึงนาทีเธอก็ตอบกลับมาว่าว่างและจะมาหาภายในหนึ่งชั่วโมง พายุรีบอ่านดูชื่อในไลน์เพื่อที่จะได้ไม่ทักผิดตัว เขามีปัญหาในการจำชื่อสาว ๆ โดยเฉพาะชื่อไทยที่มักจะตั้งกันยาว ๆ แปลก ๆ คงมีแต่กอหญ้าที่จำง่าย บอกครั้งเดียวก็ไม่ลืม จูบครั้งเดียวก็ยังไม่ลืม…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม