EP.03 ตรวนล้อมรัก
“แกจะไม่รู้ได้ยังไง ถ้าแกไม่รู้แล้วใครรู้ ในเมื่อฉันเมา!” คำพูดชะงักค้างอยู่ที่ริมฝีปาก ดวงตาฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไรมองชลธีนิ่ง สภาพหัวฟูของชลธีกับความทรงจำเมื่อวานราวจะพรั่งพรูเข้ามาในสมอง
“ใช่... เราก็เมา...”
“เมา...”
นับตังค์อ้าปากค้างพูดต่อไม่ออก ก่อนจะหลับตาพิงศีรษะกับพนักหัวเตียง ความมึนงงสับสนราวกับจะทวีเป็นสองเท่าสามเท่า คิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะจัดการกับสิ่งนี้ยังไง เพราะนี่มันเหนือความคาดหมาย หรือจะเรียกให้ถูกก็คือหล่อนไม่เคยคาดคิดว่าจะมีสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งที่แม่เตือน เพื่อนเตือน รวมทั้งชลธีเองด้วยที่เตือนหล่อนเรื่องนี้
เรื่อง... เมาไม่รู้เรื่อง
“ตังค์... เราขอโทษ... เราขอโทษจริงๆ นะ เราไม่ได้ตั้งใจ”
“อื้อ...”
ขอบตาร้อนผ่าวก่อนน้ำตาจะหยาดลงเป็นสาย พร้อมด้วยแรงสั่นสะอื้นมากมายที่ถาโถมเข้ามาทำให้นับตังค์พูดไม่ออก และไม่รู้ด้วยว่าจะพูดคำไหนกับชลธีก่อนดี หล่อนจึงได้แต่ส่งเสียงอือออกไป ทว่าในหัวเต็มไปด้วยคำถามและคำตอบที่มีให้กับตัวเอง เพราะต่อแต่นี้ไปความสัมพันธ์ของหล่อนกับชลธี ‘เพื่อนผู้ชายที่สนิทสุด’ จะเป็นไปในทิศทางใด
‘แตกหัก’ หรือ ‘ยาวนาน’
กว่า 2 ชั่วโมงแล้วตั้งแต่ชลธีเคลื่อนรถออกจากเพชรบูรณ์มุ่งหน้าตรงสู่กรุงเทพฯ นับตังค์เอาก็แต่นิ่งเงียบ ใบหน้าสวยจัดแม้ไม่ได้แต่งแต้มเครื่องสำอางหันมองออกไปด้านข้าง เพราะไม่อยากแม้แต่จะเห็นเสี้ยวหน้าของชลธี แม้ว่าจากที่สอบถามกันคือ ต่างคนต่างเมา
เพราะเมื่อวานเป็นงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมฯ ทุกคนจึงลงความเห็นว่าควรมาจัดเลี้ยงในสถานที่ซึ่งเคยเป็นความทรงจำในช่วงสมัยนั้น นั่นทำให้หล่อนต้องมาที่รีสอร์ตแห่งนี้พร้อมกับชลธี เพราะหล่อนกับชลธีบ้านอยู่ติดกันและเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่ยังเด็ก เรียนห้องเดียวกันตั้งแต่อนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย แม้ในช่วง ป.ตรี ก็ยังสอบได้คณะเดียวกัน เพียงแต่ชลธีเรียนสาขาถ่ายภาพ ส่วนหล่อนเรียนวาดภาพประกอบ เรียกได้ว่าทุกช่วงวัยของหล่อนมีชลธีเป็นส่วนร่วมเสมอ
ดังนั้นการขับรถมาต่างจังหวัดแบบนี้หล่อนจึงคิดว่ามากับชลธีดีที่สุด เพราะไม่เปลืองน้ำมัน แถมหล่อนก็ไม่ต้องขับให้เมื่อยด้วย ในเมื่อหล่อนกับเขาเป็นเพียงเพื่อนกัน ไม่เคยคิดเป็นอื่น ดังนั้นการมาต่างจังหวัดกันสองต่อสอง ทั้งหล่อน เขา หรือแม้แต่ครอบครัวก็ไม่มีใครทักท้วง โดยเฉพาะแม่ของหล่อนยิ่งเห็นดีเห็นงามว่าชลธีจะช่วยดูแลหล่อนได้ ทั้งที่ตอนนั้น เป็นหล่อนต่างหากที่คิดว่าคงต้องดูแลชลธี เพราะหน้าที่ปกป้องเพื่อนคืองานของหล่อนอยู่แล้ว
แต่ถ้าหล่อนรู้ล่วงหน้าว่าผลจะเป็นแบบนี้ สู้ต่างคนต่างมาเสียยังดีกว่า เพราะมาด้วยกันทำให้จองห้องพักติดกัน และเมื่อคืนชลธีเป็นคนมาส่งหล่อนที่ห้อง จากนั้นทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คนเมาๆ สองคนมาเจอกัน
‘เราจะรับผิดชอบตังค์เอง กลับไปนี่ เราไปจดทะเบียนสมรสกันเลยนะ เราจะไม่ทำให้ตังค์เสียหายแน่นอน’
‘ไม่ แกไม่ต้องมาสุภาพบุรุษอะไรกับฉันทั้งนั้น แกก็รู้ว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ฉันอยากอยู่ของฉันไปแบบนี้’
‘แต่ตังค์ควรให้เรารับผิดชอบนะ’
‘ไม่ต้อง! ฉันบอกแล้วไงว่าให้มันจบไป ในเมื่อแกก็เมา ฉันก็เมา ต่างคนต่างเมาแบบเนี้ย ก็เจ๊ากันไปล่ะกัน ฉันก็จำอะไรไม่ได้ แกเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน แล้วแกจะมาเรียกร้องอะไรล่ะ’
‘เราไม่ได้เรียกร้อง แต่เราได้ตังค์เป็นเมียแล้วนะ’
‘แค่ครั้งเดียวฉันไม่ถือ’ นั่นคือคำที่ต้องกัดปากพูดออกไป ใครกันเล่าไม่ถือ
‘แกไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรฉันทั้งนั้น เพราะฉันจะไม่เอาคนที่รู้ไส้รู้พุงทุกอย่างของฉันอย่างแกเป็นผัวแน่ ไก่เห็นตีนงูอย่างแก ฉันไม่เอา’
‘เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอกตังค์ เราต้องรับผิดชอบตังค์’
‘ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้อง! ฉันไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรจากแกทั้งนั้น’
‘แต่...’
‘ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบคนเซ้าซี้ และอีกอย่างหนึ่งนะไอ้เล... เพื่อนกลายเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนไม่ได้ว่ะ’
‘เมื่อวานอาจจะใช่ แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว’
นับตังค์อยากจะกรีดร้องที่ชลธีเถียงหล่อนทุกคำและทั้งคำพูด สายตาของชลธียิ่งทำให้หล่อนกลัวใจ เขาทำเหมือนอยากได้หล่อนเป็นเมียเสียเต็มประดา ทั้งที่ควรจะจบตามที่หล่อนบอก ในเมื่อหล่อนเป็นคนเสียหายที่ไม่คิดจะเรียกร้องอะไร ชลธีก็ควรจะเออออห่อหมกด้วยสิ ไม่ใช่ยังอ้างเรื่องความรับผิดชอบ
‘จะยังไงก็แล้วแต่ ฉันยืนยันว่าไม่ต้องการให้แกมารับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เพราะฉันไม่อยากมีผัว ฉันอยากโสด และแก... ไอ้เล ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด แม้แต่แม่ของแก แกก็ห้ามพูด เข้าใจไหม เพราะฉันจะไม่มีวันเอาเพื่อนทำผัวแน่นอน’
ชลธีไม่ตอบ แต่กลับส่งคำถามที่ทำให้หล่อนสะดุ้ง
‘แล้วถ้าตังค์ท้องล่ะ ไม่มีซากถุงยางสักอัน แปลว่าเราไม่ได้ป้องกันเลยนะ และจากที่เห็น...’
สายตาของชลธีที่กวาดสำรวจมาที่ร่างกายทำให้หล่อนสะท้านไปทั้งร่าง อาการวูบวาบที่ไม่เคยเกิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อน กลับมาเกิดจากสายตาของผู้ชายที่เป็นเพื่อนสนิท มันวูบวาบก่อนจะเสียดลึกไปถึงตรงนั้น จนหล่อนรับรู้ได้ถึงจังหวะ ‘ตอด-ตุ๊บ’ รัวเร็ว เพราะความหมายทางสายตาของชลธีบ่งบอกถึงจำนวนครั้งที่เกิดขึ้น