จอมขมังเวทย์

773 คำ
“เพลิง! เพลิง! ไอ้เพลิง! ไอ้เหี้ยเพลิง!” เสียงโหวกเหวกของหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเรียกหาเพื่อนรักขณะเดินเข้ามาในสวนกล้วยรกทึบ “ไอ้สัสปืน! เรียกอยู่นั่นแหละ มีอะไรก็พูดมา” เจ้าของชื่อโผล่หัวพ้นน้ำได้ก็ทำหน้าหงุดหงิดใส่เพื่อนรักที่กำลังหันซ้ายหัวขวาอยู่ เพลิงสะบัดหัวไปมาไล่น้ำออกจากเส้นผมเปียกชุ่มก่อนจะลูบหน้าลวก ๆ เพื่อเอาน้ำออก “ก็มึงไม่ขานนี่” “กูอยู่ในน้ำ ขานแล้วมึงจะได้ยินไหม” “แม่กูให้เอากับข้าวมาให้ มีปลาส้มด้วยนะ แต่เพิ่งทำเสร็จ มึงทิ้งไว้ก่อนละกันค่อยกิน” ว่าจบก็วางปิ่นโตสีเหลืองขนาดสี่ชั้นไว้บนแคร่ไม้หน้ากระท่อมน้อย ก่อนจะเดินไปหาเพื่อนรักตรงท่าน้ำไม่ห่างจากหน้ากระท่อมนัก “ฝากขอบคุณแม่ด้วย ก่อนกลับมึงเอาหัวปลีไปด้วยนะ วันก่อนได้ยินแม่บ่นว่าอยากกินหมกหัวปลี” เรือนร่างกำยำส่วนสูงร้อยแปดสิบกว่า ๆ สวมเพียงผ้าขาวม้ามัดเตี่ยวผืนเดียวก้าวขาขึ้นจากน้ำพูดพลางดึงแหขึ้นมาด้วย “เอาปลาไปด้วยนะ เผื่อแม่จะเอาใส่หมกหัวปลี” เขาว่าต่อ “นี่มึงกะจะให้กูแดกแต่ปลาไปจนตายเลยหรือไง มาหาทีไรไม่เอาปลาให้ก็เอาแต่กล้วยกับหัวปลีให้กูเนี่ย แม่กูเลยไม่ซื้อหมูซื้อวัวมาทำกับข้าวกินสักที” “ก็กูปลูกกล้วย ไม่ให้เอากล้วยกับหัวปลีให้ จะให้กูเอาผีตานีให้มึงหรือไง แล้วท่าน้ำนี่ก็อยู่หน้าสวนกู ไม่ให้กูเอาปลาให้ จะให้กูเอาผีพรายให้มึง? โง่แบบนี้ไงมึงถึงต้องกินปลาเยอะ ๆ” “เข้าป่ากล้วยอย่าพูดถึงตานี ลงน้ำอย่าพูดถึงผีพรายสิไอ้เวร” ปืนว่าให้คนที่กระโดดกลับไปในน้ำแล้วก็ลูบแขนตัวเองปอย ๆ “เป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้านแท้ ๆ มึงนี่ไม่ได้เลือดกล้าหาญของพ่อผู้ใหญ่มาเลยนะ กะอีแค่ผีจะกลัวอะไรนักหนา” เพลิงดำผุดดำว่ายอยู่ว่าให้เพื่อนไปด้วย “เป็นลูกผู้ใหญ่บ้านแล้วกลัวผีไม่เป็นหรือไงวะ” คนที่นั่งห้อยขาอยู่บนท่าน้ำว่าให้เพื่อน “กูไม่ได้เป็นจอมขมังเวทย์เหมือนมึงนี่ถึงไม่กลัวอะไร จะว่าไปแล้วเพราะกูกลัวผีนี่แหละถึงต้องคบกับมึง เวลาโดนผีหลอกมึงจะได้ไปปราบผีให้กู” “เพราะงี้มึงเลยกล่อมให้กูซื้อสวนกล้วยนี่จากเจ้าของคนเก่า แล้วย้ายมาอยู่ใกล้มึงสินะ” เพลิงนึกอะไรออกก็วักน้ำใส่เพื่อนที่นั่งห้อยขาอยู่ด้วยความหมั่นไส้ เขาเพิ่งย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านนี้ได้สิบเดือนกว่า ๆ เพราะปืนเป็นฝ่ายรบเร้าให้เขามา “ก็มึงแม่งอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางนี่หว่า เรียนจบก็สูง เงินทองก็เยอะแยะ เสือกเลือกเป็นเด็กวัด” “ก็เด็กวัดไม่ต้องคิดอะไรเยอะนี่ ว่าแต่มึงเถอะจะมืดแล้วนะ กลับบ้านกลับช่องได้แล้ว กูจะได้อาบน้ำสักที” คนที่กระโดดขึ้นจากน้ำเอ่ยปากไล่ ในใจเพลิงอยากถีบมันลงน้ำสักครั้ง แต่ก็กลัวว่าเพื่อนรักจะกลายเป็นผีไปเสียก่อนเพราะปืนมันว่ายน้ำไม่เป็น “ไปตัดต้นกล้วยให้แม่กูก่อนสิ” “แม่จะเอาไปทำกระทงเหรอ” “เออสิ รู้ว่ามีคนหายคนตายเยอะทุกปีก็ยังจะจัดงานอยู่นั่นแหละ” แกว่งขาตีน้ำไปก็บ่นไปด้วย ไม่สนเลยว่าอีกคนจะยืนสั่นงันงกอยู่ แถมจะเข้าบ้านก่อนก็ไม่ได้อีก กลัวเพื่อนจะโดนตัวอะไรลากลงน้ำไป อย่างที่ปืนมันบ่นนั่นแหละ หมู่บ้านนี้มีคนหายคนตายเพราะน้ำทุกปี โดยเฉพาะในคืนวันลอยกระทงนะเป็นสิบเลย บ้างก็ตายแล้วลอยขึ้นมา บ้างก็หายไปเลย “มึงก็บอกให้พ่อผู้ใหญ่จัดงานแบบให้ลอยกระทงในกะละมังแทนสิ จะได้ไม่ต้องมีคนตกน้ำตาย หรือใครจะโง่ตกน้ำตายในกะละมังก็ช่างมัน ไม่ใช่เด็กตัวเล็ก ๆ สักหน่อย” “ไอ้ห่า พูดง่ายนะ ไปบอกพ่อมึงจัดเถอะ” คนที่ลุกขึ้นว่าให้เพื่อน “พ่อกูเป็นพระ บอกไปแล้วจะได้อะไร” “เออ ๆ กูขอโทษ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม