เขาพูดพลางพ่นควันสีขาวจากไปป์ยาที่คาบอยู่ในปาก
‘ไอ้ทอมมี่’ ที่สามีของฉันเอ่ยถึงก็คือคนที่ฉันเรียกแกจนติดปากว่า ‘ลุงทอม’ เป็นสามีของป้ามาธาร์ซึ่งเป็นแม่ครัวประจำคฤหาสน์ของวิลเลี่ยมมานาน และที่วิลเลี่ยมเรียกคนสวนว่า ‘ไอ้ทอม’ ก็เพราะว่าแกมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ด้วยไม่กี่วันก็จะแซยิดด้วยกันทั้งคู่
“เมื่ออาทิตย์ก่อนโรสเพิ่งให้คนปลูกกุหลาบเพิ่มอีกตั้งสองแปลงกว้างๆ... อย่าลืมว่าทอมมี่แกแก่แล้วนะคะ โรสเลยอยากได้คนสวนที่หนุ่มแน่นกว่ามาช่วยงาน เพราะยังตั้งใจว่าจะปลูกกุหลาบเพิ่มอีกสักแปลง”
ฉันบอกความในใจ ซึ่งมีนัยสำคัญว่าต้องการคนมาช่วยแบ่งเบางานทอมมี่
“เอาไงก็เอา... ตามใจจ้ะที่รัก”
มีหรือที่เศรษฐีแก่ผู้หลงใหลเมียสาวสุดเซ็กซี่อย่างฉันจะกล้าขัดใจ วิลเลี่ยมมักจะเรียกฉันว่า ‘หนู’ บางครั้งก็ ‘เธอ’ จนติดปากเหมือนผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก เพราะแกอายุมากกว่าฉันหลายรอบ
“งั้นโรสจะประกาศรับสมัครเลยนะคะ”
“ตามใจจ้ะที่รัก”
เขาตอบพลางหอมแก้มฉันฟอดใหญ่ จากนั้นก็หยัดร่างขึ้นจากโซฟาหลุยส์ราคาแพง หลังจากนั่งทอดอารมณ์สูบไปป์ยาอยู่ครู่ใหญ่ๆ ด้วยเหนื่อยอ่อนจากการร่วมรักซึ่งฉันยังไม่ได้เหงื่อเลยด้วยซ้ำ
ตอนใกล้ค่ำของวันเดียวกันนั้น
หลังกลับมาจากเดินทางไปส่งวิลเลี่ยมที่สนามบิน เพราะเขาต้องเดินทางไปดูงานที่ยุโรปนานถึงสองสัปดาห์ ฉันตัดสินใจลงมาเดินเล่นที่สวนกุหลาบหลังเรือนเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวนกว้าง
ฉับพลันทันใดสายตาก็เหลือบแลไปเห็นทอมมี่ คนสวนเก่าแก่ที่กำลังลากสายยางออกมารดน้ำต้นไม้อย่างขะมักเขม้น เสียงหวานของฉันที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังทำเอาทอมมี่สะดุ้งโหยง
“ขยันจังเลยทอมมี่”
ฉันร้องทักเสียงใส
“เอ่อ... ”
ทอมมี่หันมาทำหน้าอายๆ ระคนแปลกใจ ซึ่งฉันพอจะรู้ว่าเพระเหตุใดเขาจึงอาย ก็เพราะตอนนั้นเนื้อตัวท่อนบนของทอมมี่เปล่าเปลือยเปียกปอนไปด้วยน้ำ ส่วนช่วงล่างของเขานั้นนุ่งกางเกงขาสั้นบางๆ เพียงตัวเดียว... และแน่นอนว่าเขาไม่ได้นุ่งกางเกงใน
ฉันรู้ได้ยังไงน่ะหรือ? ว่าทอมมี่ไม่ได้สวมกางเกงใน ก็เพราะแลเห็นท่อนเนื้อยาวใหญ่ของเขาห้อยเป็นรูปเป็นลำอยู่ตรงง่ามขา ที่มันนูนเด่นขึ้นมาก็เพราะผ้าเปียกช่วยแนบเน้นให้ลำเนื้อเด่นตระหง่านขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ... ช่างบังเอิญเหลือเกินที่ฉันผ่านมาเห็นเข้าพอดี
“คุณนายไปทางอื่นก่อนได้ไหมครับ... คือว่า... เอ่อ สภาพของผมในตอนนี้ไม่ค่อยเรียบร้อย... มันไม่น่าดู”
ฉันนึกเถียงในใจว่า ‘ไม่จริง’ เพราะภาพตรงหน้านั้นน่าดูมากจนฉันแทบไม่ละสายตาจากง่ามขาของเขา
ทอมมี่ออกอาการเคอะเขิน แต่แทนที่ฉันจะรีบเดินผ่านเลยไป กลับทำไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังสืบเท้าเข้าไปใกล้ร่างท้วมหนา เอื้อมมือไปแตะไต่ที่ต้นแขนเลื่อมลื่นของเขาราวกับต้องการพิสูจความกำยำของทอมมี่
“อุ๊ย! แข็งอ่ะ... ”
ฉันอุทานขณะเอามือแตะกล้ามแขนของเขา แม้อายุของทอมมี่จะไม่น้อย แต่กล้ามเนื้อของเขายังดูฟิตแอนด์เฟิอร์มเพราะคลุกคลีกับงานหนักมาทั้งชีวิต ช่างแตกต่างจากกล้ามเนื้อของวิลเลี่ยมที่หย่อนย้วย พอกพูนไปด้วยไขมันอันเกิดจากชีวิตที่กินนอนสุขสบาย
“ท่าทางลุงแข็งแรงดีจังนะคะ”
ทอมมี่สะดุ้ง คงคิดไม่ถึงว่าฉันจะถูกเนื้อต้องตัวเขาทั้งที่ตอนนั้นสายตาของฉันยังจับอยู่ที่อาวุธประจำกายของทอมมี่ ขนาดที่เห็นทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง เลือดในกายสูบฉีดแรงจนแล่นพล่านไปทุกหลอดเลือดในร่างกาย
‘โอ้ว...’ ฉันเผลอร้องอุทานในใจ ในจังหวะที่ทอมมี่เอี้ยวตัว
“ให้ตายเถอะโรบิ้น... ให้ดับดิ้นเถอะโรเบิร์ต”
ฉันยกมือเรียวขึ้นปิดปากด้วยความลืมตัว มันใหญ่มากจริงๆ ต่อให้เอาดุ้นเนื้อน้อยๆ ของวิลเลี่ยมสามีของฉันมามัดรวมกันสิบอัน... ก็ยังได้ไม่ถึงครึ่งของทอมมี่กระมัง
ฉันนึกถึงคำพูดของสาวใช้คนหนึ่งที่ลอยมากระทบหูโดยบังเอิญเมื่อนานมาแล้ว ว่าป้ามาธาร์ภรรยาของลุงทอมมี่แกเผลอบ่นออกมาเวลาเมา เอาความลับของสามีมาเผยว่าของทอมมี่ใหญ่ยาวจนแกรับไม่ไหว... และสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าในเวลานี้ก็ยืนยันว่าป้ามาธาร์ภรรยาของเขาไม่ได้พูดเกินเลยไปจากความจริงเลยสักนิด
การได้ลงมาเจอทอมมี่โดยบังเอิญทำให้ความคิดบางอย่างวาบแล่นเข้ามาในหัวของฉัน ความปรารถนามืดดำกำลังถูกกระตุ้นอย่างแรง
“คืนนี้ลุงทอมว่างไหมจ๊ะ... ฉันจะวานให้ช่วยขึ้นไปดูต้นพูด่างในห้องนอนให้หน่อย ปลูกเอาไว้นานแล้ว... แต่มันช่างดูซบเซา... ไม่สวยงามเหมือนพูด่างทั่วไป นับวันยิ่งเหี่ยวเฉายังไงไม่รู้... ลองเข้าไปดูให้หน่อยนะจ๊ะ... ”
ฉันอิดเอื้อน น้ำเสียงออดอ้อน เปรียบต้นพูด่างดุจเดียวกับอารมณ์อ้างว้างว้าเหว่ของตัวเอง
ทอมมี่ทำหน้าสงสัย ฉันจึงเล่าความจริงให้ฟังว่าตั้งแต่ใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาร่วมกันกับวิลเลี่ยม ในทุกๆ ครั้งที่ร่วมหลับนอนกัน นอกจากวิลเลี่ยมจะมีอวัยวะเพศที่เล็กและสั้น ที่ย่ำแย่ไปกว่านั้นก็คือเขาเป็นโรคหลั่งเร็ว ถือเป็นอาการถดถอยทางเพศขั้นรุนแรง