เอาแต่ใจจนได้เรื่อง

1041 คำ
เมลสันรีบเปิดไฟกระพริบฉุกเฉิน เพื่อเป็นสัญญาณเตือนให้รถคันอื่นๆ รู้ว่ารถคันของตนกำลังมีปัญหา             “ทำไมซวยอย่างงี้เนี่ย” น้ำเสียงตัดพ้อ บ่นกับตัวเอง เมื่อต้องลงไปนั่งแหมะอยู่บนพื้น จากนั้นจึงรีบเก็บสิ่งของ ที่หล่นกระจัดกระจายเกลื่อนบนถนนอย่างรวดเร็ว              รติกาล คลี่ยิ้ม สายตาจับจ้อง อย่างโล่งใจเมื่อเก็บจนเหลือชิ้นสุดท้าย ก่อนจะยื่นแขนไปสุดเอื้อม เพื่อหยิบชิ้นที่อยู่ไกลสุด แต่สิ่งนั้นเจ้าสิ่งที่หมายตาไว้ กลับกระเด็นไปอีกด้าน จนทำให้เธอหงุดหงิด เพราะจังหวะที่ยื่นมือออกไปคาดคะเนไว้ว่าต้องจับ แล้วยัดเข้าถุงพลาสติกให้ได้ แต่กลับกลายเป็นว่า ส่วนที่เธอจับได้ เป็นหัวรองเท้าหนังสีดำสนิทมันปราบจนเกิดเป็นเงาสะท้อน สายตากลมจึงมองไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเห็นใบหน้าเจ้าของรองเท้าหนังราคาแพงนั้น “อ่ะ?....” ดาราลูกครึ่งคนไหนเนี่ย? เคยเอามาเป็นอิมเมจในนิยายหรือปล่าวหนอ?... คิ้วเรียวขมวดมุ่น ก่อนจะดึงมือกลับ   เฮริคที่จับจ้องใบหน้าเกลี้ยงเกลามีไรผมปรกลงมาเล็กน้อย เพราะผมถูกเกล้าไว้อย่างง่ายๆ โดยใช้ไม้คล้ายตะเกียบปักผมไว้ ปล่อยให้ผมตกลงมาข้างๆ ขับใบหน้าเรียวมนให้ดูสะดุดตา แม้จะมีเหงื่อเม็ดใสผุดเต็มใบหน้า หากแต่ความสวยยังคงน่ามองจนเขาเองเกือบแสดงอาการเหมือนคนตะลึง อย่างกับเจอเครื่องประดับที่ถูกตาต้องใจ และนั้นสายตาเข้มยังจ้องริมฝีปากบางที่อ้าค้าง แม้จะเป็นสภาพไม่น่ามอง ที่ผู้หญิงมองผู้ชายอย่างไม่ไว้ตัว แต่ปากบางจิ้มลิ่มสีชมพู เย้ายวนชวนให้น่ากดทับน่าสัมผัส จนเขาต้องรีบถอนสายตาจากดวงหน้าและริมฝีปากน่าพิสมัยนั้น เพราะหากขืนมองไปนานๆเขาไม่แน่ใจว่า คนอย่างเขาที่ชอบเอาแต่ใจ จะห้ามใจไม่ดึงหล่อนเข้ามาบดจูบซับหาความหวานหอม อย่างคนไร้สามัญสำนึกได้หรือไม่ เพราะแค่เห็นดวงหน้าก็ทำให้น้ำลายที่มีอยู่น้อยนิดถูกกลืนลงท้องอย่างยากลำบากแล้ว แม่มดชัดๆ... เฮริคบริภาษกับตัวเองในใจ เขานึกชื่นชมหล่อนมากกว่าด่าทอ หล่อนทำให้ไฟในกายเขาลุกโชนได้อย่างน่าแปลก ทั้งที่ไม่ได้สัมผัสผิวกายกันแม้แต่น้อย ผิดกับผู้หญิงคนอื่นๆหากหล่อนไม่เปลื้องผ้ากระโดดค้อมใส่เขาก่อน หรือเขาอดอยากปากแห้งมาเป็นแรมคืน อย่าหวังว่าเขาจะเล่นด้วยกับพวกหล่อน ยิ่งคิดยิ่งอยากปลดปล่อย... เฮริคถอนหายใจหนักหน่วง ก่อนจะรีบสลัดความคิดทิ้ง เมื่อเป้ากางเกงส่วนกลางเริ่มพองขยายตัวจนน่าเกลียด ดีที่ว่าเสื้อสูทตัวยาวบิดบังส่วนนั้นไว้ได้ รติกาลเริ่มปรับสมองประมวลภาพหนุ่มหล่อตรงหน้า สายตากลมโตเพ่งกว้างขึ้น สำรวจคนตรงหน้าใหม่อีกครั้งไม่ว่าการแต่งกายรูปร่างหน้าตา หัวใจรติกาลเต้นแรง ไปพร้อมๆกับสายตาที่ลากผ่านไปตามร่างกายที่มีเสื้อผ้าราคาแพงปิดทับ ดารานายแบบฮอลลีวูด ยังต้องชิดซ้าย... เมลสันเดินตามลงมาติดๆมองสาวสวยแล้วนึกขำ ต่างกันกับสายตาคมเข้มของเฮริคที่จับจ้องใบหน้าเกลี้ยงเกลามีไรผมปรกลงมาเล็กน้อย สำหรับเขามองหล่อน ว่าเป็นภาพที่น่ารักและน่าทะนุถนอมนัก สำหรับผู้หญิงท่าทางซื่อๆตรงหน้า และดีใจที่หล่อนผู้นี้ ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร อย่างที่กลัว ผิดกับเจ้านาย ที่เป็นผู้ชายด้วยกันมองดูก็รู้ ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่...  “คุณ” เมื่อยิ่งเพ่งมองเฮริคตัดสินใจเอ่ยเรียก ด้วยความรู้สึกบางอย่างเมื่อเขาเจอประกายตาประหม่าอยู่ภายในดวงตาคู่นั้น “ฮะ?” สีหน้าอีหลักอีเหลื่อ ขานตอบพร้อมกระพริบตาปริบๆ เตรียมพร้อมอย่างดุษฎีหากอีกฝ่ายจะต่อว่าอะไรออกมา แต่สิ่งที่ทำให้ตะลึงไปมากกว่านั้น คือภาษาที่ชายหนุ่มรูปงาม เอ่ยออกมาเป็นภาษาเดียวกับเธอต่างหาก! สาธุ ขอให้พูดได้ไม่กี่ประโยคด้วยเถอะ... รติกาลแอบภาวนาให้ฝรั่งนัยน์ตาสีฟ้าเอ่ยภาษาของเธอ ให้ได้น้อยที่สุด  “เจ็บตรงไหน เป็นอะไรบ้างหรือป่าว?” เสียงทุ้มนุ่มลึกเอ่ยสำเนียงไทยอย่างกับเจ้าของภาษามาเอง ทำเอาคนฟังอึ้งค้าง ตากลมโตเบิกกว้างอีกครั้ง  “ตกลงคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เฮริคเขาถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อท่าทางเจ้าหล่อนเหมือนคนตกใจอะไรสักอย่าง น่าขันแท้...เฮริคคิด จ้องมองใบหน้านวลเนียนสีแดงเรื่อ อย่างพินิจ “อ่ะ...” รติกาล กลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ก่อนจะรู้สึกตัวแล้วดีดตัวลุกขึ้นเต็มความสูงโดยไม่ลืมหยิบสิ่งของชิ้นสุดท้ายติดมือมาและยัดใส่ถุงทันที โดยไม่กล่าวตอบอีกฝ่ายไป ด้วยว่าลิ้นชาไปชั่วขณะ เมลสันยืนอยู่อีกด้านเมื่อเห็นว่าหญิงสาวลุกขึ้นยืนได้เองอย่างคล่องแคล้ว ก็มองสำรวจเพื่อความแน่ใจด้วยสายตาตัวเองและเมื่อมองไปดีๆก็พบว่า บนพื้นมีสิ่งของเป็นหลักฐานอย่างดี ว่าต้องมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดกระทบหน้ารถเป็นแน่ และสิ่งนั้นคงเป็นสิ่งของที่หญิงสาวหิ้วอยู่ในมือ  “เป็นอะไรมากหรือเปล่าคุณ?” เสียงทุ้มที่เปล่งดังของอีกคน เรียกสติสัมปชัญญะ ทุกส่วนของร่างกายรติกาลกลับมาปรกติเหมือนเดิม “ อะ อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ” จากที่มองหน้าอีกคน รติกาลก็หันมายังอีกต้นเสียงหนึ่งและตอบคำถาม ท่าทางเงอะงะของหญิงสาวผู้นั้นทำให้ นัยน์ตาสีฟ้าต้องหรี่มองอย่างพินิจใหม่อีกครั้ง แต่ภายในใจรู้สึกหงุดหงิดที่เขาถามไปหลายครั้งแต่ไม่คิดตอบ แต่เมื่อเมลสันถามไปแค่ครั้งเดียว หล่อนก็ตอบทันที “มาวิ่งตัดหน้ารถ หรือคิดจะหาเงินโดยวิธีการนี้หรือ?”  อารมณ์ที่มาแบบไม่รู้ตัวโพลงออกมา  “คุณว่าไงนะ?”     
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม