"คิดยังไงคะ ถึงพามาที่นี่"
"ใช่ พี่พิณ คนเยอะมากเลยนะ" มองไปรอบๆ คนธรรมดาอย่างสองแม่ลูกยังเคอะเขินกับสายตาของผู้คนมากมายที่มองมายังพวกเธอ เพราะดาราดังอย่างพิณตรา ปกติน้อยครั้งที่จะมาอยู่ท่ามกลางสวนสาธารณะอย่างคนปกติแบบนี้ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมที่ไม่ได้พิถีพิถันเหมือนตอนอยู่หน้ากล้อง ยิ่งทำให้ต่างคนต่างพากันชี้ชวนกันดูอย่างไม่แน่ใจว่าใช่ดาราจริงหรือเปล่า
"นั่งเถอะค่ะ หิวมากแล้ว" หลังจากปูผ้าเสร็จแล้วจึงนั่งลงก่อนไม่ลืมดึงชายเสื้อของสองแม่ลูกให้นั่งลงด้วย น้อยครั้งที่พิณตราจะไปไหนมาไหนในช่วงวันหยุด เพราะเธอมักจะหมกตัวอยู่บ้านคลอเคลียกับคนรักและหยอกล้อเป็นเพื่อนเล่นให้กับหนุ่มน้อย
"ผมอยากไปขี่จักรยายตรงนั้น" ชี้ไปที่กองทรายและกลุ่มเด็กๆ หลายคน การมาพักผ่อนนอกบ้านครั้งนี้หนุ่มน้อยไม่ได้เดินมาตัวเปล่าแต่เขากลับเลือกปั่นจักรยานออกจากบ้านมาแทน
"ได้สิ แต่ห้ามไปไกล" คนเป็นแม่กำชับ
"แค่ถังขยะสีเขียวตรงนั้น" พิณตราเสริม ชี้ไปที่ตำแหน่งตามที่บอก หนุ่มน้อยตกลงและรีบวิ่งแจ้นไปทันที เมื่ออยู่กันสองต่อสอง พิณตราก็ทิ้งตัวลงนอนหนุนตักคนรักทันที
"ลุกเถอะพิณคนเยอะนะ" ตอนนี้ทั้งคู่ยิ่งเป็นที่สนใจของทุกคน พิมพ์ดาวจึงได้แต่เอ่ยเตือนเบาๆ ด้วยเพราะกำลังอายกับสายตาที่มองมา
"ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ พิณชินแล้วและอีกหน่อยพี่ก็ต้องทำตัวให้ชินเพราะพี่เป็นแฟนดารา" ฟาดมือไปที่แขนคนรักด้วยความหมั่นไส้กับใบหน้ายียวนไม่รู้ร้อนรู้หนาวของเด็กสาว เธอเขินอายจนแทบจะมุดลงดินที่ผู้คนต่างแอบชำเลืองมองมาทางพวกเธอตลอดบ้างก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูป
"พี่อ่านเรื่องนี้ให้ฟังหน่อยสิ" หยิบหนังสือนิทานเล่มบางส่งให้คนรักเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
"FERDINAND วัวกระทิงสอนรัก ไปเอามาจากไหนคะ คุ้นๆ เหมือนอยู่ในห้องน้องนนท์" หล่อนรับมาและอ่านที่หน้าปก
"ค่ะ แอบเอาของน้องมา พิณว่าชีวิตพิณตอนนี้เหมือนเจ้าเฟอร์ดินาน"
"เหรอคะ เคยอ่านให้น้องนนท์ฟังตั้งแต่ยังเป็นเด็กน้อย แล้วก็ลืมเนื้อเรื่องไปแล้วด้วยสิ คงต้องอ่านใหม่อีกรอบ" เธอเอ่ยออกมา
"งั้นเดี๋ยวพิณอ่านให้พี่ฟังดีกว่าค่ะ" เด็กสาวเริ่ม
"เรื่องราวของวัวกระทิงเฟอร์ดินาน ที่เกิดในค่ายฝึกวัวกระทิง หลังจากที่พ่อของเขาถูกนำตัวไปยังสถานประลองวัวกระทิงและมาธาดอร์ และไม่เคยได้หวนคืนกลับมายังสถานที่แห่งนี้อีก เฟอร์ดินานในวัยเด็กจึงหลบหนีออกจากค่ายแห่งนี้"
"โชคดีของเฟอร์ดินานที่เขาได้ไปพบกับเด็กหญิงลูกสาวเจ้าของฟาร์มดอกไม้ เฟอร์ดินานได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เขาเติบโตมาด้วยความรักความอบอุ่นและแนวคิดที่ว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องตอบโต้คนรอบข้างด้วยความรุนแรง แต่มองคนอื่นด้วยความรักและเอื้ออารี ช่วงเวลาที่ผันผ่านไปเฟอร์ดินานเติบโตกลายเป็นกระทิงหนุ่ม ด้วยรูปร่างที่เติบใหญ่ส่งผลให้เขาถูกห้ามไม่ให้ไปร่วมเทศกาลงานดอกไม้ประจำปีของเมืองนี้"
"ด้วยความดื้อรั้นเมื่อเฟอร์ดินานเดินทางไปยังเทศกาลดังกล่าวจนเกิดความวุ่นวาย ส่งผลให้เขาโดนส่งตัวกลับไปยังค่ายกระทิงเมื่อตอนยังเด็กและทำให้เฟอร์ดินานต้องพบกับมิตรสหายเก่า รวมไปถึงเพื่อนใหม่ แต่การมาเยือนของเอล ปริเมโร นักสู้วัวกระทิงผู้ยิ่งใหญ่กำลังมองหาวัวกระทิงที่เปี่ยมความสามารถที่จะเข้าไปต่อสู้ในสนามการแข่งขัน ทำให้เฟอร์ดินานต้องตกที่นั่งลำบาก"
พิณตราปิดหนังสือและเอ่ยกับคนรักแทนการอ่าน
"เฟอร์ดินานเป็นวัวกระทิงตัวใหญ่ น่าเกรงขาม ดูภายนอกนั้นน่ากลัวค่ะ แต่ตัวตนของเขาเป็นวัวกระทิงที่มีน้ำใจโอบอ้อมอารี ไม่ชอบความรุนแรง มักจะหนีปัญหา แล้วพอวันหนึ่งเขาต้องเผชิญสิ่งที่เขาหลีกหนีมาตลอดชีวิต จึงต้องลุกขึ้นมาสู้เพื่อปกป้องคนรัก"
"พิณแค่อยากจะบอกพี่ว่า ต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พิณจะทำเพื่อพี่ อย่าสงสัยหรืออย่ากังวลใดใด" คำพูดเป็นนัยของพิณตราทำให้คนพี่เข้าใจได้อย่างไม่ต้องเอ่ยถามอะไรออกมา
"ค่ะ" เธอเพียงตอบรับสั้นๆ
"วันนี้น้องนนท์สลบเหมือดเลย สงสัยจะเพลีย" หลังจากที่พาหนุ่มน้อยเข้านอนแต่หัวค่ำแล้วก็เดินกลับเข้าห้องหาคนรัก ไม่ลืมเอ่ยถึงแก้วตาดวงใจของคนพี่แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอได้เจอกับพิมพ์ดาว
"ค่ะ นานๆ จะได้ออกนอกบ้านทีก็เต็มที่เขาล่ะ" เสียงหัวเราะของทั้งคู่ดังขึ้นก่อนจะเงียบลง โดยไม่ยอมละสายตาออกจากกัน ใบหน้าคนพี่ดูสลดลงพยายามจะฝืนยิ้มเพื่อให้คนน้องไม่เศร้าตามแต่ช่างยากลำบากเหลือเกิน พิณตราประคองใบหน้าคนพี่อย่างเบามือ ค่อยๆ ปาดน้ำตาออกจากขอบตาหล่อนช้าๆ ก้มลงประทับจูบที่หน้าผากคนรักอย่างหวงแหน ยิ่งทำให้น้ำตาหล่อนไหลพรั่งพรูออกมาอีก อกนุ่มๆ ของเด็กสาวถูกใช้เป็นที่ซับน้ำตาอย่างดีและเมื่อหยาดน้ำตาเริ่มแห้งเหือด
"พิณจูบพี่ตอนนี้ได้มั้ย" เอ่ยขออนุญาต
"ค่ะ" การมอบจูบที่แสนหวานให้พิมพ์ดาวในตอนนี้ถือเป็นการปลอบโยนกันและกัน คนพี่กำชายเสื้อพิณตราแน่น เสื้อคลุมตัวบางถูกมือคนน้องเขี่ยให้ร่วงลงจากตัว เผยให้เห็นหัวไหล่กลมมน อดไม่ได้ที่จะต้องประทับจูบลงไปอย่างหลงไหลหยุดสัมผัสร่างกายคนพี่ไม่ได้แล้วเพียงเพราะกลิ่นกายอันเย้ายวน ลำคอระหงของพิมพ์ดาวถูกครอบครองฝากรอยรักไว้ ประคองคนพี่ให้นอนลงบนเตียงนุ่มแล้วตามไปมอบจูบดูดดื่ม มือเรียวยาวลูบไล้ปลุกปั่นอารมณ์หล่อน ชุดนอนถูกถอดออกทางศีรษะโดยมีพิมพ์ดาวให้ความร่วมมือรวมถึงช่วยถอดชุดของคนน้องด้วย ตอนนี้ทั้งคู่เปลือยเปล่า จุดหมายต่อไปที่เด็กสาวต้องการจะครอบครองคือทรวงอกขนาดเต็มไม้เต็มมือจน พิณตรานึกอิจฉาคนที่ซ่อนรูป เสียงครางของคนพี่ดังระงมอย่างพอใจ ทั้งปากและมือของคนน้องช่วยกันมอบความสุขให้คนรัก หลายต่อหลายรอบอย่างสุขล้นจนหลับไป คนน้องขยับตัวค่อยๆ คลายอ้อมกอดออกจากคนพี่ ก้าวลงจากเตียงโดยไม่ลืมหันไปห่มผ้าให้คนรักและเดินเข้าห้องน้ำจัดการกับตัวเองอย่างไม่รีบเร่งนัก เด็กสาวเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตสีชมพูที่พิมพ์ดาวซื้อให้สวมลงบนร่างกาย อย่างน้อยเสื้อตัวนี้ก็มีกลิ่นหอมที่มาจากการซักรีดอย่างพิถีพิถันของคนที่กำลังนอนหลับ พิณตราเดินกลับไปนั่งลงบนเตียงข้างคนพี่ วางกระดาษสีขาวแผ่นเล็กไว้บนหัวเตียง ก้มลงหอมที่หัวไหล่ที่โผล่พ้นผ้าห่มมาอย่างอ้อยอิ่ง และหันหลังลุกออกจากตรงนั้น
"จะไปแล้วเหรอคะ" พิมพ์ดาวลุกขึ้นนั่งและเอ่ยถามออกไป เธอไม่ได้หลับอย่างที่เด็กสาวคิด เธอจะหลับลงได้อย่างไร เมื่อสถานการณ์ของพวกเธอในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน เธอเห็นสีหน้ากังวลและหนักใจของคนรักอยู่บ่อยครั้ง แต่พิณตรากลับทำเหมือนปกติพยายามทำให้เธอยิ้มและสร้างเสียงหัวเราะ เธอเห็นการกระทำของคนรักทุกอย่างตั้งแต่ก้าวลงจากเตียง อยากจะเก็บภาพพิณตราไว้ในความทรงจำจนเด็กสาวเดินจากไป พิณตราคงอยากกลับไปใช้ชีวิตสุขสบายเหมือนเดิม เธอคิดอย่างเข้าใจ
"ค่ะ" มือที่กำลูกบิดอยู่หยุดชะงักทันที
"หันมาหาพี่ได้มั้ยคะ" พิมพ์ดาวเอ่ยขอร้องพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด อยากจะเห็นหน้าและเอ่ยลากันเป็นครั้งสุดท้าย
"อย่าเลยค่ะ ถ้าพิณเห็นหน้าพี่ตอนนี้ พิณคงไปต่อไม่ได้" อุส่าตั้งใจจะหนีออกมา ไม่อยากเห็นแววตาของคนรักที่จ้องมองเธอ เกลียดการร่ำลา เสียงสะอื้นของพิมพ์ดาวดังขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวตัดสินใจเปิดประตูและเดินออกมาทันทีโดยไม่หันไปมอง ก้าวขึ้นรถที่จอดรออยู่แล้ว ปลอบใจตัวเองว่าวิธีนี้จะทำให้คนรักทั้งสองปลอดภัย